backup og meta

5 ผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 31/03/2022

    5 ผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

    การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องให้ความใส่ใจ เพราะหากไม่ระมัดระวังอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ดังนั้น จึงควรศึกษาเกี่ยวกับผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เพื่อให้รู้ว่าผลไม้แบบไหนที่ควรเลือกรับประทาน ผลไม้แบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้สามารถควบคุมอาการของโรคเบาหวานได้ดียิ่งขึ้น

    5 ผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

    ผลไม้ ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มีดังต่อไปนี้

    1. ลูกพีช

    ลูกพีช เป็นอีกหนึ่ง ผลไม้ ที่มีกลิ่นหอม รสชาติหวานฉ่ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับรับประทานเป็นอาหารว่าง โดยลูกพีช 1 ผลขนาดกลาง ให้พลังงาน 59 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 14 กรัม วิตามินซี 10 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 285 มิลลิกรัม

    2. แอปริคอต 

    แอปริคอต เป็น ผลไม้ ประจำฤดูร้อน ที่มีรสชาติหวาน อุดมด้วยไฟเบอร์ ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร โดยแอปริคอต 1 ลูก ให้พลังงาน 17 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 4 กรัม

    3. ส้ม 

    ส้ม จัดเป็น ผลไม้ สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งอุดมด้วยวิตามินซีถึง 78 เปอร์เซ็นต์ มีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิต ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยส้มขนาดกลาง 1 ผล ปริมาณ 15 กรัม ให้พลังงาน 65 แคลอรี่ โฟเลต 40 ไมโครกรัม โพแทสเซียม 237 มิลลิกรัม

    4. กีวี่

    กีวี่ เป็น ผลไม้ ที่อุดมด้วยคุณค่าทางสารอาหาร มีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยกี่วี่ 1 ผล ให้พลังงาน 42 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 10 กรัม 

    5. แอปเปิ้ล

    แอปเปิ้ล เป็น ผลไม้ ที่อุดมด้วยวิตามินซีและไฟเบอร์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวาน โดยแอปเปิลขนาดกลาง 1 ลูก ให้พลังงาน 95 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 25 กรัม

    ถึงแม้ว่า ผลไม้ ที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำจะเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่ผลไม้ดังกล่าวข้างต้นอาจไม่ได้เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานทุกคน ดังนั้น ก่อนจะเลือกรับประทานผลไม้ชนิดไหน ควรปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน

    ประเภทของผลไม้ที่ผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยง

  • ผลไม้อบแห้ง

  • ผลไม้อบแห้งมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูงกว่าผลไม้สด จึงเสี่ยงต่อการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้ เช่น ลูกเกด ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 100 แคลอรี่ มีคาร์โบไฮเดรต 23 กรัม และมีปริมาณน้ำตาล 18 กรัม ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลเกือบ 5 ช้อนชา ในทางตรงกันข้ามเมื่อเทียบกับองุ่นสดแล้ว องุ่นสดให้พลังงาน 62 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 16 กรัม และมีปริมาณน้ำตาล 15 กรัม

    • น้ำผลไม้ 

    ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ 100% ก็สามารถส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นได้ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2

    • ผลไม้สดที่มีค่าดัชนีน้ำตาลในเลือดสูง

    ผลไม้ ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลในเลือดสูง เช่น สับปะรด กล้วย แตงโม มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 31/03/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา