ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงในผู้ป่วยเบาหวาน อาจเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน ใช้อินซูลินบำบัดผิดวิธี หากไม่ทำการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ภาวะเลือดเป็นกรด ระบบประสาทเสื่อม โรคหัวใจและหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงในผู้ป่วยเบาหวานสามารถรักษาและควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงในผู้ป่วยเบาหวาน คืออะไร
อาการน้ำตาลสูงในผู้ป่วยเบาหวาน คือ ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มสูงเกินกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร จากค่าปกติที่ควรอยู่ประมาณ 99-140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ซึ่งอาจสังเกตได้จากอาการต่าง ๆ ดังนี้
อาการของผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ในระยะแรก ได้แก่
- กระหายน้ำ
- ปวดศีรษะ
- ไม่มีสมาธิ
- การมองเห็นเปลี่ยนแปลง
- น้ำหนักลดลง
- ปัสสาวะบ่อย
- เหนื่อยล้า
- ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น
- ผิวแห้ง ปากแห้ง
- น้ำตาลในเลือดสูงกว่า 180 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
อาการของผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ในระยะรุนแรง ได้แก่
- การติดเชื้อที่ผิวหนังและในช่องคลอด
- หายใจถี่เร็ว
- อัตราการเต้นหัวใจผิดปกติ
- ลมหายใจมีกลิ่น
- เบื่ออาหาร
- ปวดท้อง ท้องร่วง ท้องผูก
- วิงเวียนศีรษะ อาเจียน
- แผลหายช้า
- มองเห็นภาพซ้อน
- กระสับกระส่าย นอนบ่อย หรืออาจนอนไม่หลับ
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงในผู้ป่วยเบาหวาน
โรคเบาหวานเกิดจากภาวะดื้ออินซูลิน ที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน หรือจากการที่ตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างเต็มที่ และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจกระตุ้นให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นได้ ดังนี้
- รับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว พาสต้า
- ลืมฉีดอินซูลิน และไม่รับประทานยาตามที่คุณหมอแนะนำ
- ขาดการออกกำลังกาย
- ความเครียด
- การติดเชื้อ เนื่องจากอาจส่งผลให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอ
- ความเจ็บป่วย เช่น ไข้หวัด
- ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ เพรดนิโซน (Prednisone)
วิธีรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูงในผู้ป่วยเบาหวาน
วิธีรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูงในผู้ป่วยเบาหวาน สามารถทำได้ ดังนี้
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ เพื่อทราบถึงประสิทธิภาพของการรักษาว่าได้ผลหรือไม่ เพื่อควบคุมโรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหารควรอยู่ 70-130 มิลลิลิตร/เดซิลิตร ส่วนระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหารไม่ควรเกิน 180 มิลลิลิตร/เดซิลิตร หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่านี้ ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- รับประทานยารักษาเบาหวาน และฉีดอินซูลินตามที่คุณหมอแนะนำ เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
- ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น การเดิน เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น เครื่องดื่มน้ำอัดลม อาหารแปรรูป ขนมหวาน
- ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพราะน้ำอาจช่วยให้ร่างกายขับน้ำตาลส่วนเกินออกจากเลือดผ่านการปัสสาวะ
สำหรับผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงระดับรุนแรง ควรเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลโดยคุณหมออย่างเร่งด่วน เพื่อประเมินอาการว่าควรรักษาด้วยวิธีใดจึงจะเหมาะสม ส่วนใหญ่คุณหมออาจใช้วิธีรักษา ดังนี้
- ให้สารน้ำเหลวผ่านทางหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยปรับสมดุลน้ำในร่างกาย เนื่องจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจะทำให้ผู้ป่วยปัสสาวะออกมาก จนร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง (ประมาณ 4-5 ลิตร)
- ให้อินซูลินผ่านทางหลอดเลือด
- ติดตามและควบคุมระดับเกลือแร่ (Electrolytes) เนื่องจากเกลือแร่สำคัญในร่างกายของผู้ป่วยจะผิดปกติ จนส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ กล้ามเนื้อ และ เซลล์ประสาท
[embed-health-tool-bmi]