อาการเบาหวานที่พบได้ในเด็ก อาจได้แก่ กระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย อ่อนเพลีย ไม่ร่าเริง ไม่มีสมาธิ ซึ่งการทราบถึงอาการหรือสัญญาณของโรคเบาหวาน อาจช่วยให้ผู้ปกครองสามารถสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจะได้รีบไปพบคุณหมอเพื่อทำการตรวจและให้การรักษาได้โดยเร็วที่สุด
[embed-health-tool-bmi]
อาการเบาหวานที่พบบ่อยในเด็ก
โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสร้างภูมิขึ้นมาทำลายเซลล์ในตับอ่อนที่ทำหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน จึงส่งผลให้อินซูลินในร่างกายลดลง ไม่เพียงพอในการจัดการกับน้ำตาลของร่างกาย จนนำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 1 โดยอาการเบาหวานที่พบได้ในเด็กอาจมีดังนี้
- กระหายน้ำบ่อย หรือมีพฤติกรรมการดื่มน้ำมากกว่าปกติ
- ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนหลังจากที่นอนหลับไปแล้ว
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ไม่ร่าเริง นอนกลางวันบ่อย ๆ ห
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ไม่มีสมาธิ
หากเด็ก ๆ มีอาการข้างต้น หรือกังวลว่าอาจเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ผู้ปกครองควรรีบพาบุตรหลานของท่านไปพบคุณหมอ เพื่อปรึกษาและเข้ารับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด หากพบว่าเป็นโรคเบาหวานจะได้รีบเริ่มให้การรักษาที่เหมาะสมโดยเร็ว
การวินิจฉัยเบาหวานชนิดที่ 1 ในเด็ก
การวินิจฉัยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ในเด็ก จำเป็นต้องใช้การตรวจเลือด โดยจะเป็นการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแบบอดอาหารเป็นหลัก หรือ ในบางครั้งหากมีอาการที่ชัดเจนว่าเข้าได้กับโรคเบาหวาน อาจทำการเจาะเลือดแบบสุ่ม แล้วทำการประเมินร่วมกันได้ นอกจากการตรวจระดับน้ำตาลเพื่อวินิจฉัยโรคเบาหวานแล้ว อาจมีการเจาะเลือดตรวจภูมิ (Antibody) ที่ก่อให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ประกอบกันไปด้วย อย่างไรก็ตาม ภาวะที่น่ากลัวสำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ในเด็ก คือ การเกิดภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตน (DKA) ดังนั้นคุณหมอจะรีบทำการวินิจฉัยและให้การรักษาที่เหมาะสมเพื่อป้องการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงนี้
วิธีการดูแลเมื่อเด็กเป็นเบาหวานชนิดที่ 1
สิ่งแรกที่ผู้ปกครองควรปฏิบัติเมื่อทราบว่าบุตรหลานเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 นั่นก็คือ การควบคุมอารมณ์ของตัวเองและมีสติ เพื่อให้พร้อมสำหรับการรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับตัวโรค คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ รวมทั้งแนวทางการรักษาจากคุณหมอ เนื่องจากผู้ปกครองนับเป็นบุคคลหลักในการดูแลสุขภาพด้านต่าง ๆ ของเด็ก ๆ อีกทั้งแนะนำให้ผ่อนคลายความเครียดและความกังวลลง เพื่อให้ผู้ปกครองและเด็ก ๆ สามารถดำเนินชีวิตประจำวันต่อได้อย่างมีความสุข โดยวิธีการดูแลเบื้องต้นอาจทำได้ดังนี้
- การจัดสัดส่วนอาหารให้เหมาะสม ได้แก่ การรับประทานผัก 50% คาร์โบไฮเดรต 25% โปรตีน 15-20% และผลไม้ 5-10% ใน 1 มื้อ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ใช้ยาฉีดอินซูลินตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด
- หมั่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอยู่เสมอ เนื่องจากการดูแลควบคุมโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ให้ได้ตามเป้าหมาย จะจำเป็นต้องคำนวนขนาดยาฉีดอินซูลินตามปริมาณอาหารและค่าระดับน้ำตาลในเลือด ใ
ช่วงเวลาที่เด็ก ๆ จำเป็นต้องทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น ไปโรงเรียน ผู้ปกครองอาจจัดอาหารกลางวันใส่กล่องสำหรับรับประทานที่โรงเรียน เพื่อให้สามารถควบคุมสัดส่วนของอาหารที่เหมาะสมได้ดีขึ้น