พุงคนท้องระยะแรก อาจมีลักษณะขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่บางคนก็อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เนื่องจากทารกยังคงมีขนาดตัวเล็กอยู่ แต่อาจสังเกตได้จากอาการอื่น ๆ เช่น ประจำเดือนขาด เต้านมคัด อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียนง่าย หากทราบว่าตั้งครรภ์ คุณแม่ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและพัฒนาการให้ทารกในครรภ์
[embed-health-tool-pregnancy-weight-gain]
ลักษณะของ พุงคนท้องระยะแรก
ลักษณะของพุงคนท้องระยะแรก อาจสังเกตได้ดังนี้
- พุงขยายใหญ่ขึ้น และยื่นออกมาด้านหน้าเล็กน้อย
- สะดืออาจมีลักษณะแบนราบหรือนูนออกมา
- บางคนอาจรู้สึกปวดสะดือเมื่อสัมผัสบริเวณหน้าท้อง
อย่างไรก็ตาม พุงคนท้องระยะแรกของบางคนอาจแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ก็ได้เช่นกัน
อาการของคนท้องระยะแรก
นอกเหนือจากการขยายของพุงคนท้องระยะแรก ยังอาจสังเกตอาการคนท้องอื่น ๆ ได้อีก ดังนี้
- เลือดออกทางช่องคลอด คุณแม่ที่ตั้งท้องอาจมีเลือดออกทางช่องคลอด หรือที่เรียกว่า เลือดล้างหน้าเด็ก ซึ่งเกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนในเยื่อบุโพรงมดลูก และอาจมีอาการปวดเกร็งท้องน้อยร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม หากสังเกตว่ามีเลือดออกในปริมาณมาก ควรเข้าพบคุณหมอทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์นอกมดลูกหรือการแท้งบุตร
- เต้านมคัด เต้านมขยาย การตั้งครรภ์อาจส่งผลให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมผลิตน้ำนมสำหรับทารก ทำให้มีอาการคัดเต้า เจ็บเต้านม และเต้านมขยายใหญ่ขึ้น โดยสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการสวมเสื้อชั้นในที่สวมใส่สบาย ไม่กดทับเต้านม
- คัดจมูก ร่างกายของคุณแม่อาจผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นการผลิตเลือดไปหล่อเลี้ยงทารก ซึ่งอาจทำให้เยื่อบุโพรงจมูกบวม และส่งผลให้มีอาการคัดจมูกและน้ำมูกไหล
- แพ้ท้อง คุณแม่อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เนื่องจากระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น บางคนอาจมีความรู้สึกอยากรับประทานอาหารแปลก ๆ หรืออาจรู้สึกเหม็นกลิ่นอาหารบางชนิด ในขณะที่บางคนก็อาจไม่มีอาการแพ้ท้องใด ๆ
- อ่อนเพลีย เนื่องจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ อาจชะลอระบบการย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายขาดพลังงาน อ่อนเพลีย และรู้สึกเหนื่อยง่าย คุณแม่บางคนอาจมีอาการง่วงนอนมากขึ้นร่วมด้วย
- ปัสสาวะบ่อย เกิดจากการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ อาจทำให้มดลูกเริ่มขยายตัว และกดทับบริเวณกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อย นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนก็อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยด้วยเช่นกัน
- ระบบย่อยอาหารมีปัญหา ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นสูง อาจชะลอการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้กล้ามเนื้อของลำไส้เคลื่อนไหวช้าลง ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก ท้องอืด กรดไหลย้อน หรือจุกเสียดท้องได้
การดูแลตัวเองขณะตั้งท้อง
การดูแลตัวเองขณะตั้งท้อง มีดังต่อไปนี้
- การดูแลผิวบริเวณพุงคนท้องระยะแรก
เนื่องจากการขยายตัวของพุงคนท้องระยะแรกอาจทำให้เกิดรอยแตกลาย ที่มักจะไม่ส่งผลอันตรายใด ๆ หากคุณแม่อาจต้องการป้องกันไม่ให้เกิดรอยแตกลายมากนัก ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid)
- รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย แคลเซียม โฟเลต และเหล็ก เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ เนื้อแดง เต้าหู้ อัลมอนด์ ไข่ เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกายของคุณแม่และทารกในครรภ์ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเกี่ยวกับท่อประสาทของทารก
นอกจากนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลือ น้ำตาล และไขมันสูง เช่น ชีส ไข่ดิบ เนื้อสัตว์ดิบ อาหารแปรรูป รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้ทารกพัฒนาการล่าช้า พิการแต่กำเนิด และคลอดก่อนกำหนด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และควรปรับท่านอนให้เหมาะสม โดยคุณหมออาจแนะนำให้นอนท่าตะแคงซ้าย เพื่อลดการกดทับหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดี หากต้องการนอนหงายควรใช้หมอนรองบริเวณหลัง ระหว่างขา และใต้ท้อง เพื่อช่วยลดแรงกดทับ
- ออกกำลังกาย
ควรออกกำลังกายในระดับเบา เช่น การเดิน ว่ายน้ำ หรือเล่นโยคะ อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ และควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือทำกิจกรรมที่เสี่ยงอันตราย
- งดสูบบุหรี่
บุหรี่มีสารนิโคตินและคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ ทำให้ทารกได้รับออกซิเจนลดลง เสี่ยงต่อการมีพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่ล่าช้า น้ำหนักแรกเกิดน้อย พิการแต่กำเนิด มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ เสี่ยงต่อโรคหอบหืด และคลอดก่อนกำหนด จึงควรงดสูบบุหรี่และเลี่ยงการอยู่ใกล้กับคนที่สูบบุหรี่
- ฉีดวัคซีน
คุณแม่ควรฉีดวัคซีนให้ครบตามกำหนด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองและทารกในครรภ์ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการติดเชื้อและลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาคุณหมอก่อนรับวัคซีนป้องกันโรค
- ตรวจสุขภาพ
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพตามที่คุณหมอกำหนด เพื่อตรวจคัดกรองโรค และตรวจสุขภาพทารกในครรภ์