ฝึกลูกกินข้าวเอง อาจเริ่มได้ตั้งแต่ช่วงขวบปีแรก ซึ่งจะช่วยให้เด็กสามารถรู้จักฝึกหัดช่วยเหลือตัวเอง เป็นการแบ่งเบาภาระพ่อแม่ ทำให้มีเวลาเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมทักษะและพัฒนาการการใช้นิ้ว มือ และรู้จักควบคุมการเคลื่อนไหวของเด็ก อีกทั้งฝึกฝนให้เด็ก ๆ เริ่มรู้จักควบคุมตัวเองและรับผิดชอบตัวเอง
[embed-health-tool-vaccination-tool]
ควร ฝึกลูกกินข้าวเอง เมื่อไรดี
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเด็กมีอายุ 7-9 เดือน ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้น ฝึกลูกกินข้าวเอง ในช่วงเวลานี้ ลูกน้อยสามารถนั่งตัวตรงได้ด้วยตัวเอง และเริ่มฝึกการควบคุมการเคลื่อนไหว และใช้นิ้วมือในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้แล้ว การหยิบจับของเด็กเล็ก จะเริ่มจากการใช้หัวแม่มือร่วมกับนิ้วอื่น ๆ มีสัญญาณต่าง ๆ ที่สามารถบ่งบอกได้ว่า ลูกน้อยพร้อมแล้ว สำหรับฝึกกินอาหารด้วยตนเอง เช่น
- สามารถนั่งได้ด้วยตนเอง
- หยิบจับสิ่งของเข้าปากได้
- เริ่มเคี้ยวอาหารได้
- ถือขวดนมได้เองระหว่างป้อนนม
เริ่มต้น ฝึกลูกกินข้าวเอง ได้อย่างไร
ขั้นตอนแรก ควรให้โอกาสลูกน้อย ในการลองกินอาหารด้วยตัวเองก่อน ลองให้อาหารแห้ง ชิ้นใหญ่ (แต่ไม่ใหญ่จนอาจทำให้สำลัก) หรืออาจแบ่งอาหารออกเป็น 4-5 ชิ้น แล้วค่อย ๆ เพิ่มอย่างช้า ๆ วางลงในจานข้าวขณะที่ลูกกินอาหาร เนื่องจากการเริ่มต้นด้วยอาหารที่มากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งวางไว้ในจุด ๆ เดียว อาจทำให้ลูกนำอาหารทุกชิ้นเข้าปากในคราวเดียว หรือทำตกกระจัดกระจายบนพื้นได้
นอกจากนั้นแล้ว อาจช่วยเสริมสร้างความมั่นใจของลูก ด้วยการชื่นชมเมื่อลูกใช้ช้อนได้ หากลูกยังไม่สามารถใช้ช้อนได้ อย่าเพิ่งบังคับ ลองให้เวลาอีกสัก 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้พร้อมมากยิ่งขึ้น
ฝึกลูกกินข้าวเอง ควรกินอาหารประเภทไหน
เริ่มต้นด้วยอาหารที่ลูกชอบ โดยหั่นมาเป็นลูกเต๋าขนาดเล็กพอดีคำที่ลูกจะหยิบจับเข้าปากตัวเองได้ นอกจากนี้ อาจลองหาอาหารแข็งที่มีเนื้อนุ่มหนึบ หั่นเป็นชิ้นขนาดเท่าเมล็ดถั่ว เช่น ชีส กล้วย มะม่วง แครอทต้ม หรืออาหารที่นุ่มกว่า หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เช่น ขนมปัง หรือเต้าหู้
ฝึกลูกกินข้าวเอง ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใด
เคล็ดลับสำคัญในการ ฝึกลูกกินข้าวเอง คือ การให้เวลากับลูกที่จะเรียนรู้ อย่าไปเร่งรัด หากเห็นว่าลูกฝึกกินข้าวเองแล้วได้รับปริมาณอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย พ่อแม่อาจต้องป้อนอาหารเหลวหรือของว่างเพื่อให้ลูกน้อยได้กินอิ่มอย่างเพียงพอ