คีเฟล็กซ์® (Keflex®) เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มเซฟาโลสปอริน (cephalosporin antibiotic) ทำงานโดยการต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียภายในร่างกาย
ข้อบ่งใช้
คีเฟล็กซ์® (ยาเซฟาเลกซิน) ใช้สำหรับ
คีเฟล็กซ์® (Keflex®) เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มเซฟาโลสปอริน (cephalosporin antibiotic) ทำงานโดยการต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียภายในร่างกาย
ยาคีเฟล็กซ์ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ทั้งการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน การติดเชื้อที่หู และการติดเชื้อภายในทางเดินหายใจ
ยาคีเฟล็กซ์ยังอาจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากในคู่มือการใช้ยา
วิธีใช้คีเฟล็กซ์® (ยาเซฟาเลกซิน)
ใช้ยาคีเฟล็กซ์® ตามที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ควรทำตามวิธีการใช้ยาที่กำหนดบนฉลากยา อย่าใช้ยาในขนาดที่มากกว่า น้อยกว่า หรือใช้ยานานกว่าที่แนะนำ
อย่าใช้ยาคีเฟล็กซ์เพื่อรักษาสภาวะที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากแพทย์
ใช้ยานี้ตามวันและเวลาจนครบกำหนด เพราะถึงแม้อาการของคุณอาจจะดีขึ้นแล้ว แต่การติดเชื้อก็อาจจะยังไม่หายขาด และอย่าข้ามมื้อยา เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะได้ อย่างไรก็ตาม คีเฟล็กซ์® ไม่สามารถรักษาการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่
อย่าแบ่งยากับผู้อื่น แม้ว่าเขาจะมีอาการเดียวกับคุณ
ยานี้สามารถทำให้ผลการตรวจทางการแพทย์บางอย่างผิดปกติได้ หากต้องเข้ารับการตรวจรักษาใดๆ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยว่าคุณกำลังใช้ยานี้อยู่
การเก็บรักษาคีเฟล็กซ์® (ยาเซฟาเลกซิน)
ควรเก็บคีเฟล็กซ์® ที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง หากมีข้อสงสัยควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
ไม่ควรทิ้งคีเฟล็กซ์® ลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเภสัชกร
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ คีเฟล็กซ์® (ยาเซฟาเลกซิน)
ก่อนใช้คีเฟล็กซ์® โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีสภาวะดังต่อไปนี้
- มีอาการแพ้ส่วนผสมของคีเฟล็กซ์® เช่น เซฟาเลกซิน (Cephalexin) หรือยาอื่น ๆ หรือมีอาการแพ้อื่นๆ
- วางแผนจะตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่ตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
- กำลังใช้ยาอื่นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพร เป็นต้น
- หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ
อย่าใช้คีเฟล็กซ์® หากคุณเป็นโรคภูมิแพ้ต่อยาปฏิชีวนะเซฟาโลสปอรินอื่นๆ เช่น
- ยาเซฟาคลอร์ (Cefaclor) อย่างรานิคลอร์ (Raniclor)
- ยาเซฟาโดซิล (Cefadroxil) อย่างดูริเซฟ (Duricef)
- ยาเซฟาโซลิน (Cefazolin) อย่างแอนเซฟ (Ancef)
- ยาเซฟดิเนียร์ (Cefdinir) อย่างออมนิเซฟ (Omnicef)
- ยาเซฟดิโทเรน (Cefditoren) อย่างสเปคทราเซฟ (Spectracef)
- ยาเซฟโปดอกซีม (Cefpodoxime) อย่างแวนทิน (Vantin)
- ยาเซฟโพรซิล (Cefprozil) อย่างเซฟซิล (Cefzil)
- ยาเซฟทิบูเทน (Ceftibuten) อย่างเซเดกซ์ (Cedax)
- ยาเซฟูโรซีม (Cefuroxime) อย่างเซฟทิน (Ceftin)
- ยาเซฟราดีน (Cephradine) อย่างเวโลเซฟ (Velosef)
ยาเซฟาเลกซินนั้นสามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ และอาจเป็นอันตรายต่อทารกได้ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณกำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
คีเฟล็กซ์® จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A = ไม่มีความเสี่ยง
- B = ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C = อาจจะมีความเสี่ยง
- D = มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X = ห้ามใช้
- N = ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ คีเฟล็กซ์® (ยาเซฟาเลกซิน)
ติดต่อแพทย์ทันทีหากมีอาการดังนี้
- ท้องร่วง
- วิงเวียน
- รู้สึกเหนื่อยล้า
- ปวดศีรษะ
- ปวดข้อ
- คันช่องคลอด หรือมีสารคัดหลั่งไหลออกจากช่องคลอด
ติดต่อแพทย์ทันทีหากมีอาการดังนี้
- ปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องร่วงไหลเป็นน้ำหรือเป็นเลือด
- ดีซ่าน (ดวงตาหรือผิวหนังเป็นสีเหลือง)
- มีรอยช้ำง่าย
- เลือดออกผิวปกติ (ทางจมูก ปาก ช่องคลอด หรือทวารหนัก)
- มีจุดสีม่วงหรือสีแดงใต้ผิวหนัง
- ปัสสาวะน้อย หรือไม่ปัสสาวะเลย
- กระสับกระส่าย
- สับสน
- มองเห็นภาพหลอน
- ปฏิกิริยาผิวหนังที่รุนแรง ได้แก่ เป็นไข้ เจ็บคอ มีอาการบวมที่ใบหน้าหรือลิ้น แสบร้อนที่ดวงตา ปวดผิว ตามด้วยผดผื่นผิวหนังสีแดงหรือสีม่วงที่แพร่กระจาย (โดยเฉพาะใบหน้า หรือร่างกายส่วนบน) และทำให้เกิดแผลพุพองและผิวลอก
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
คีเฟล็กซ์® อาจมีปฏิกิริยาต่อยาตัวอื่น ที่คุณกำลังรับประทานอยู่ และอาจส่งผลให้ยาที่คุณรับประทานออกฤทธิ์ต่างไปจากเดิม หรือเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่รุนแรง
เพื่อหลีกเลี่ยงการทำปฏิกิริยาต่อกันระหว่างยาที่อาจเป็นไปได้ คุณควรเก็บรายชื่อยาทั้งหมดที่คุณใช้ รวมถึงยาที่จำหน่ายตามใบสั่งยา ยาที่จำหน่ายโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาและสมุนไพร และแจ้งให้แพทย์รวมถึงเภสัชกรทราบ เพื่อความปลอดภัย อย่าเริ่มหรือ หยุดใช้ยา รวมถึงเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
คีเฟล็กซ์® อาจมีปฏิกิริยากับอาหาร หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
คีเฟล็กซ์® อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
โรคที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่
- โรคภูมิแพ้ต่อยาใด ๆ โดยเฉพาะยาเพนิซิลลิน (penicillins)
- โรคไต
- เคยมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ เช่น โรคลำไส้อักเสบ (colitis)
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาคีเฟล็กซ์® (ยาเซฟาเลกซิน) สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันเยื่อบุหัวใจอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Endocarditis)
ขนาดยาที่แนะนำคือ 2 กรัม รับประทาน 1 ครั้ง ก่อนผ่าตัด 1 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษา Cystitis
ขนาดยาที่แนะนำคือ 250 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง หรือ 500 มก. รับประทานทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 7-14 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาหูชั้นกลางอักเสบ (Otitis Media)
ขนาดยาที่แนะนำคือ 500 มก. รับประทานทุก ๆ 6 ชั่วโมง เป็นเวลา 10-14 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาคออักเสบ (Pharyngitis)
ขนาดยาที่แนะนำคือ 250 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง หรือ 500 มก. รับประทานทุกๆ 12 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเนื้อเยื่ออ่อน (Skin or Soft Tissue Infection)
ขนาดยาที่แนะนำคือ 250 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง หรือ 500 มก. รับประทานทุกๆ 12 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษา Osteomyelitis
ขนาดยาที่แนะนำคือ 500 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง
ควรรักษาต่อเนื่องประมาณ 4-6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติและความรุนแรงของการติดเชื้อ โรคกระดูกอักเสบติดเชื้อเรื้อรัง (Chronic osteomyelitis) อาจต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเพิ่มขึ้นอีก 1-2 เดือน และอาจต้องผ่าตัดเนื้อตาย (surgical debridement) ด้วย
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาต่อมลูกหมากอักเสบ (Prostatitis)
ขนาดยาที่แนะนำคือ 500 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมงเป็นเวลา 14 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษากรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis)
ขนาดยาที่แนะนำคือ 500 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมงเป็นเวลา 14 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจส่วนบน
ขนาดยาที่แนะนำคือ 250 ถึง 500 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 ถึง 10 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย
ขนาดยาที่แนะนำคือ 250 to 500 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง
ควรรักษาต่อเนื่องประมาณ 7-21 วัน ขึ้นอยู่กับธรรมชาติและความรุนแรงของการติดเชื้อ
ขนาดยาคีเฟล็กซ์® (ยาเซฟาเลกซิน) สำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาหูชั้นกลางอักเสบ
ขนาดยาที่แนะนำคือ 12.5-25 มก./กก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาคออักเสบ
อายุมากกว่า 1 ปี
คออักเสบจากเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส (Streptococcal pharyngitis) ขนาดยาที่แนะนำคือ 12.5-25 มก./กก. รับประทานทุกๆ 12 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเนื้อเยื่ออ่อน
ขนาดยาที่แนะนำคือ 12.5-25 มก./กก. รับประทานทุกๆ 12 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อป้องกันเยื่อบุหัวใจอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
เป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่แพ้ยาเพนิซิลลิน ชนิดนอน-แอนาไฟแลคทอยด์ (non-anaphylactoid type) ขนาดยาที่แนะนำคือ 50 มก./กก (ขนาดยาสูงสุด 2 กรัม) รับประทานหนึ่งครั้ง 1 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาแคปซูลเซฟาเลกซิน ขนาด 250 มก.
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]