Methotrexate จะเข้าแทรกแซงการเจริญเติบโตของเซลล์บางชนิดภายในร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์ที่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เช่น เซลล์มะเร็ง เซลล์มวลกระดูก และเซลล์ผิว
[embed-health-tool-bmi]
ข้อบ่งใช้
Methotrexate ใช้สำหรับ
Methotrexate จะเข้าแทรกแซงการเจริญเติบโตของเซลล์บางชนิดภายในร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์ที่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เช่น เซลล์มะเร็ง เซลล์มวลกระดูก และเซลล์ผิว
ยาเมโธเทรกเซทใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง หัวและคอ หรือปอด ยานี้ยังใช้เพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงินระดับรุนแรง และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ยาเมโธเทรกเซทมักจะใช้หลังจากล้มเหลวจากการใช้ยาอื่น ในการรักษาอาการแล้ว
ยาเมโธเทรกเซทอาจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น นอกเหนือจากที่อยู่ในคู่มือการใช้ยา
วิธีการใช้ยา เมโธเทรกเซท
ใช้ยาเมโธเทรกเซทตามที่แพทย์กำหนด ควรทำตามวิธีการใช้ยาทั้งหมดบนฉลากยาที่กำหนด อย่าใช้ยาในขนาดที่มากกว่า น้อยกว่า หรือนานกว่าที่กำหนด
คุณจำเป็นต้องใช้ยาเมโธเทรกเซทในขนาดที่ถูกต้อง สำหรับโรคของคุณ ยาเมโธเทรกเซทในบางครั้ง อาจจะใช้สัปดาห์ละหนึ่งหรือสองครั้ง และไม่ได้ใช้ทุกวัน ควรทำตามวิธีการใช้ยาบนฉลากยาที่กำหนด เคยมีผู้ที่เสียชีวิตหลังจากใช้ยาเมโธเทรกเซททุกวัน โดยไม่ได้ตั้งใจ โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขนาดยา หรือความถี่ในการใช้ยา
ใช้ยาเมโธเทรกเซทเป็นประจำ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรรับยาเพิ่มก่อนที่ยาของคุณจะหมด
ยาเมโธเทรกเซทสามารถลดจำนวนเซลล์เม็ดเลือด ที่ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อและช่วยให้เลือดแข็งตัว คุณอาจจำเป็นต้องตรวจเลือดเป็นประจำ และในบางครั้งอาจต้องทำการตรวจเจาะชิ้นเนื้อตับ (liver biopsy) คุณอาจต้องชะลอการรักษาโรคมะเร็ง โดยขึ้นอยู่กับผลการตรวจเหล่านี้
การเก็บรักษายา เมโธเทรกเซท
ยาเมโธเทรกเซทควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเมโธเทรกเซทบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเมโธเทรกเซทลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา เมโธเทรกเซท
ก่อนใช้ Methotrexate แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
- คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
- หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เอง เช่น สมุนไพรหรือยาทางเลือกอื่นๆ
- หากคุณแพ้สารออกฤทธิ์หรือไม่มีฤทธิ์ในการรักษาของยาเมโธเทรกเซท หรือยาอื่นๆ
- หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ
- หากคุณมีหรือเคยมีระดับโฟเลตในเลือดต่ำ
หากคุณกำลังจะรับการผ่าตัด รวมถึงการผ่าตัดทำฟัน โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบว่าคุณกำลังใช้ยาเมโธเทรกเซท
เตรียมตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการรับแสงแดดและแสงอัลตร้าไวโอเล็ต แบบไม่จำเป็น หรือเป็นเวลานาน และสวมเสื้อผ้าป้องกัน สวมแว่นกันแดด และทาครีมกันแดด ยาเมโธเทรกเซทอาจทำให้ผิวหนังของคุณ มีปฏิกิริยาไวต่อแสงแดด หรือแสงอัลตร้าไวโอเล็ต หากคุณเป็นโรคสะเก็ดเงิน แผลของคุณอาจจะรุนแรงขึ้น หากผิวหนังของคุณเปิดรับแสงแดด ขณะที่กำลังใช้ยาเมโธเทรกเซท
อย่ารับวัคซีนใดๆขณะที่กำลังใช้ยาเมโธเทรกเซท โดยไม่ได้ปรึกษากับแพทย์
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยง ก่อนการใช้ยานี้
ยาเมโธเทรกเซทจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท X โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ Methotrexate
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
หยุดใช้ยาเมโธเทรกเซทในทันที หากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรงดังต่อไปนี้
- ไอแห้งๆ หายใจไม่อิ่ม
- ท้องร่วง อาเจียน มีรอยปื้นสีขาวภายในปากหรือบนริมฝีปาก
- มีเลือดในปัสสาวะหรืออุจจาระ
- ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ หรือไม่ปัสสาวะเลย
- เป็นไข้ หนาวสั่น เป็นสิว มีอาการของโรคไข้หวัดใหญ่
- เจ็บคอและปวดหัว พร้อมกับมีแผลพุพอง ผิวลอก และผื่นผิวหนังสีแดง
- ผิวซีด มีรอยช้ำหรือเลือดออกง่าย อ่อนแรง
- คลื่นไส้ ปวดท้อง เป็นไข้ต่ำ เบื่ออาหาร ปัสสาวะสีคล้ำ อุจจาระสีดินเหนียว ดีซ่าน (ดวงตาหรือผิวหนังเป็นสีเหลือง)
ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่าอาจมีดังนี้
- คลื่นไส้ อาเจียน ท้องไส้ปั่นป่วน
- วิงเวียน รู้สึกเหนื่อย
- ปวดหัว
- เลือดออกที่เหงือก
- มองเห็นไม่ชัด
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาเมโธเทรกเซทอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
- อะซาไธโอพรีน (Azathioprine)
- ลูวโคโวริน (Leucovorin)
- เฟนิโทอิน (Phenytoin)
- โพรเบเนซิด (Probenecid)
- ทีโอฟิลลีน (Theophylline)
- ยาปฏิชีวนะหรือยาซัลฟ่า (sulfa drugs)
- ยาไอโซเตรทติโนอิน (Isotretinoin) เรตินอยด์ (retinol) เตรทติโนอิน (tretinoin)
- ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) – ยาไอบูโพรเฟน (ibuprofen) เช่น แอดวิล (Advil) หรือมอทริน (Motrin) ยานาพรอกเซน (naproxen) อย่าอะลีฟ (Aleve) ยาเซเลโคซิบ (celecoxib) ยาไดโคลเฟแนค (diclofenac) ยาอินโดเมทาซิน (indomethacin) ยาเมโลซิแคม (meloxicam) และอื่นๆ
- ยาซาลิไซเลต (Salicylates) – แอสไพริน ยาแค็ปเล็ตบูพรินแบ็คเอค (Nuprin Backache Caplet) เคโอเปคเตท (Kaopectate) นีรีลีฟ (KneeRelief) แพมพริน แครม ฟอร์มูล่า (Pamprin Cramp Formula) เป็บโต บิสมอล (Pepto-Bismol) ไตรโคซอล (Tricosal) ไตรลิเซต (Trilisate) และอื่นๆ
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาเมโธเทรกเซทอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาเมโธเทรกเซทอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
โรคที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
- การใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิด
- โรคโลหิตจาง
- ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (Leukopenia)
- โรคตับ
- ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia)
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ท้องมาน (Ascites)
- โรคไต
- ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด (Pleural effusion)
- โรคเบาหวาน
- โรคตับ
- โรคอ้วน
- แผลในกระเพาะอาหาร
- โรคลำไส้อักเสบชนิดมีแผล (Ulcerative colitis)
- การติดเชื้อ (เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส)
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาเมโธเทรกเซทสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดลิมฟอยด์ (Acute Lymphoblastic Leukemia)
- ขนาดยาเริ่มต้น 3.3 มก./ตารางเมตร/วัน รับประทานหรือฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ (ใช้ร่วมกับยาเพรดนิโซโลน 60 มก./ตารางเมตร)
- ขนาดยาปกติ (ช่วงไม่มีอาการของโรค) 15 มก./ตารางเมตร ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือรับประทานสัปดาห์ละสองครั้ง
- ขนาดยาช่วงไม่มีอาการของโรคอีกทางหนึ่ง 2.5 มก./กก. ฉีดเข้าหลอดเลือดดำทุก ๆ 14 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งโคริโอคาร์ซิโนมา (Choriocarcinoma)
- ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือรับประทาน 15 ถึง 30 มก. ต่อวัน เป็นเวลา 5 วัน ให้ยาซ้ำตามรอบการรักษานี้ 3 ถึง 5 รอบ โดยมีช่วงพักนานกว่าหรือเท่ากับ 1 สัปดาห์ระหว่างรอบการรักษา จนกระทั่งอาการเป็นพิษที่แสดงให้เห็นอยู่นั้นลดลง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคโทรโฟบลาสติก (Trophoblastic Disease)
- ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือรับประทาน 15 ถึง 30 มก. ต่อวัน เป็นเวลา 5 วัน ให้ยาซ้ำตามรอบการรักษานี้ 3 ถึง 5 รอบ โดยมีช่วงพักนานกว่าหรือเท่ากับ 1 สัปดาห์ระหว่างรอบการรักษา จนกระทั่งอาการเป็นพิษที่แสดงให้เห็นอยู่นั้นลดลง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
- สำหรับเนื้องอกเบอร์กิท (Burkitt’s tumor) ในระยะที่ I-II 10 ถึง 25 มก. รับประทานวันละครั้งเป็นเวลา 4 ถึง 8 วัน
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดร้ายแรงในระยะที่ III 0.625 ถึง 2.5 มก./กก. รับประทานวันละครั้ง เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ยาเคมีบำบัดหลายชนิดร่วมกัน
- การรักษาโรคมะเร็งทุกระยะนั้นมักจะประกอบด้วยชุดการรักษาหลายรอบโดยมีช่วงพัก 7 ถึง 10 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในเยื่อหุ้มสมอง (Meningeal Leukemia)
- 12 มก./ตารางเมตร ฉีดเข้าช่องไขสันหลังทุกๆ 2 ถึง 5 วัน จนกระทั่งจำนวนเซลล์น้ำในโพรงสมองและไขสันหลัง (CSF) กลับมาเป็นปกติ ในจุดนี้แนะนำให้ใช้ยาเพิ่มอีกหนึ่งครั้ง การให้ยาโดยเว้นช่วงพักน้อยกว่า 1 สัปดาห์นั้น อาจจะเพิ่มความความพิษกึ่งเฉียบพลัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งผิวหนังชนิดมัยโคซีส ฟังกอยดีส (Mycosis Fungoides)
- 2.5 ถึง 10 มก. รับประทานต่อวัน หรือ 50 มก. ฉีดเข้ากล้ามเนื้อสัปดาห์ละครั้ง หรือ 25 มก. ฉีดเข้ากล้ามเนื้อสัปดาห์ละสองครั้ง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งกระดูก (Osteosarcoma)
- ขนาดยาเริ่มต้น 12 กรัม/ตารางเมตร หลอดยาเข้าหลอดเลือดดำ 4 ชั่วโมง (โดยใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัดอื่นๆ) หากขนาดยานี้ไม่เพียงพอที่จะได้รับระดับความเข้มข้นของเซรั่มสูงสุดที่ 1000 ไมโครโมลาร์ (micromolar) ในตอนท้ายของการหยอดยา อาจเพิ่มขนาดยาไปที่ 15 กรัม/ตารางเมตร
- การรักษาอาจจะเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ 4, 5, 6, 7, 11, 12, 15, 16, 29, 30, 44 และ 45 หลังจากการผ่าตัด
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงิน
- ขนาดยาสำหรับหนึ่งครั้ง 10 ถึง 25 มก./สัปดาห์ รับประทาน ฉีดใต้ผิวหนัง ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ จนกระทั่งได้รับการตอบสนองที่เพียงพอ
- ขนาดยาสำหรับหลายครั้ง 2.5 มก. รับประทาน ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ทุกๆ 12 ชั่วโมง เป็นจำนวนสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
- ขนาดยาต่อสัปดาห์สูงสุด 30 มก.
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- ขนาดยาสำหรับหนึ่งครั้ง รับประทาน 7.5 มก. สัปดาห์
- ขนาดยาสำหรับหลายครั้ง 2.5 มก. รับประทานทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นจำนวนสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
- ขนาดยาต่อสัปดาห์สูงสุด 20 มก.
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคเนื้องอก (Neoplastic Diseases)
- ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ ช่วงขนาดยาตั้งแต่ 30-40 มก./ตารางเมตร/สัปดาห์ ถึง 100-12,000 มก./ตารางเมตร ยาลูวโคโวรินเรสคิว (leucovorin rescue)
ขนาดยาเมโธเทรกเซทสำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดลิมฟอยด์
- 100 มก./ตารางเมตร นานกว่า 1 ชั่วโมง ตามด้วยหยอดยา 35 ชั่วโมง ในขนาดยา 900 มก./ตารางเมตร/วัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบ (Dermatomyositis)
15 ถึง 20 มก./ตารางเมตร รับประทานสัปดาห์ละครั้ง
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในเยื่อหุ้มสมอง
- อายุน้อยกว่า 4 เดือน 3 มก./ครั้ง ฉีดเข้าช่องไขสันหลัง
- อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 4 เดือนแต่น้อยกว่า 1 ปี 6 มก./ครั้ง ฉีดเข้าช่องไขสันหลัง
- อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 1 ปีแต่น้อยกว่า 2 ปี 8 มก./ครั้ง ฉีดเข้าช่องไขสันหลัง
- อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 2 ปีแต่น้อยกว่า 3 ปี 10 มก./ครั้ง ฉีดเข้าช่องไขสันหลัง
- อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 3 ปี 12 มก./ครั้ง ฉีดเข้าช่องไขสันหลัง
- อาจให้ยาทุก ๆ 2 ถึง 5 วัน จนกระทั่งจำนวนเซลล์น้ำในโพรงสมองและไขสันหลังกลับมาเป็นปกติ ตามด้วยให้ยาสัปดาห์ละครั้ง เป็นจำนวน 2 สัปดาห์และเดือนละครั้งหลังจากนั้น
- การให้ยาโดยเว้นช่วงพักน้อยกว่า 1 สัปดาห์นั้นอาจจะเพิ่มความความพิษกึ่งเฉียบพลัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคเนื้องอก
- 7.5 ถึง 30 มก./ตารางเมตร ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือรับประทานทุก ๆ 2 สัปดาห์
- ขนาดยาอีกทางเลือก 10 ถึง 18,000 มก./ตารางเมตร ฉีดเข้าหลอดเลือดดำทันที หรือหยอดยาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 6 ถึง 42 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- 5 ถึง 15 มก./ตารางเมตร ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือรับประทานสัปดาห์ละครั้ง
- การฉีดขาเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในเด็ก แบบปวดข้อหลายแห่งเหมือนกันทั้ง 2 ข้าง (Polyarticular Juvenile Idiopathic Arthritis) 10 มก./ตารางเมตร ฉีดเข้าใต้ผิวหนังสัปดาห์ละครั้ง
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคมะเร็งชนิดเป็นก้อน (Solid Tumors)
- อายุน้อยกว่า 12 ปี 12,000 มก./ตารางเมตร ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
- อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 12 ปี 8,000 มก./ตารางเมตร ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
- ขนาดยาสูงสุด 18 กรัม
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาสารละลายสำหรับฉีด 25 มก./มล.
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา