ขนแปรงสีฟัน เป็นสิ่งที่ยึดติดกับด้ามของแปรงสีฟัน นอกจากจะใช้ในการกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันแล้ว ยังช่วยกำจัดคราบแบคทีเรียสะสมได้ด้วย แต่ทุกคนรู้หรือไม่คะว่า ขนแปรงดังกล่าวนี้มีที่มา และมีการเลือกใช้งานที่เหมาะอย่างไรบ้าง หากใครกำลังสงสัยเรื่องนี้อยู่พอดี สามารถหาคำตอบได้ในบทความของ Hello คุณหมอ ที่นำมาฝากกันได้เลยค่ะ
ที่มาของ ขนแปรงสีฟัน
เมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสกาล ผู้คนมักทำความสะอาดช่องปาก และดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในช่องปาก ด้วยการเคี้ยวกิ่งไม้หอมเท่านั้น แปรงสีฟันรูปแบบที่เราใช้กันในปัจจุบัน ถูกพัฒนาขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อปีค.ศ. 1498 โดยในตอนนั้น ด้ามแปรงสีฟันทำมาจากไม้ไผ่ ส่วน ขนแปรงสีฟัน ทำมาจากขนหมูป่าที่มีลักษณะค่อนข้างแข็ง
แปรงสีฟันที่ทำจากขนหมูป่า ได้รับความนิยมมาจนถึงปี ค.ศ.1938 จากนั้นจึงเริ่มมีการผลิตแปรงสีฟันที่มีขนแปรงเป็นไนลอน ซึ่งนุ่มกว่าขนแปรงจากขนหมูป่า โดยการคิดค้นของ Dupont de Nemours จากนั้น แปรงสีฟันและขนแปรงสีฟันก็ถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ เพื่อตอบสนองต่อการใช้งานของผู้บริโภคตามแต่ละยุคสมัย เช่นที่เราพบเห็นได้ในปัจจุบัน อย่างการดัดแปลงให้ขนแปรงสีฟันนุ่มขึ้น หรือการนำขนแปรงมาใช้ร่วมกับแปรงสีฟันแบบไฟฟ้า เป็นต้น
ระดับความแข็งของขนแปรงสีฟัน
ผู้ผลิตแปรงสีฟันนิยมออกแบบขนแปรงสีฟันออกมามากมายหลายรูปแบบ ให้เราเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับสุขภาพภายในช่องปาก แม้ขนแปรงจะมีหลากหลายรูปแบบ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ขนแปรงสีฟันมักจะมีคุณสมบัติความแข็งด้วยกัน 4 ระดับ หลัก ๆ ดังต่อไปนี้
- ขนแปรงสีฟันระดับแข็ง ขนแปรงแข็ง ๆ ช่วยกำจัดเศษอาหารตามซอกฟัน พร้อมคราบแบคทีเรีย จุลินทรีย์ได้เกือบหมดจด แต่ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญหลายคนกลับมองว่า บางครั้งขนแปรงที่แข็งจนเกินไปอาจทำร้ายเหงือก และนำไปสู่อาการเหงือกร่นได้ ที่สำคัญยังสามารถทำลายเคลือบฟันของเราได้ด้วย
- ขนแปรงสีฟันระดับปานกลาง ขนแปรงในระดับนี้ถูกเพิ่มความอ่อนนุ่มเข้าไป จนได้เป็นขนแปรงที่แข็งกำลังดี ที่ช่วยกำจัดคราบแบคเรีย จุลินทรีย์ และเศษอาหารได้ไม่แพ้ขนแปรงระดับแข็ง แต่ทำร้ายเหงือกน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรใช้แรงกดขณะแปรงฟันมากเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพเหงือก
- ขนแปรงสีฟันระดับนุ่ม จัดเป็นระดับขนแปรงที่ผู้คนส่วนใหญ่เลือกใช้มากที่สุด เนื่องจากใช้แล้วเบาสบายช่องปาก และค่อนข้างปลอดภัย แต่หากแปรงฟันแรงเกินไป ก็อาจทำลายเหงือก รากฟัน หรือเคลือบฟันได้เช่นกัน
- ขนแปรงสีฟันระดับนุ่มพิเศษ ขนแปรงสีฟันระดับนี้อ่อนโยนกว่าระดับอื่น ๆ แต่อาจขจัดเศษอาหารได้ไม่ดีนัก และเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก หรือหลังจากได้รับการผ่าตัดในช่องปากมากกว่า
นอกจากการเลือกขนแปรงที่เหมาะสมแล้ว การเลือกขนาดแปรงให้พอดีช่องปากก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากคุณเลือกขนาดหัวแปรงใหญ่หรือเล็กเกินไป ก็อาจส่งผลให้ทำความสะอาดฟันได้ไม่ทั่วถึง จนเกิดปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันผุ เหงือกร่น กลิ่นปากไม่พึงประสงค์ ตามมาได้
ขนแปรงสีฟันที่ทันตแพทย์แนะนำ
เวลาเลือกซื้อแปรงสีฟัน คนเรามักเลือกตามความชอบ และความต้องการในการใช้งานของตัวเอง แต่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่ มักแนะนำให้ใช้เป็นขนแปรงสีฟันที่อยู่ในระดับนุ่ม และนุ่มเป็นพิเศษ เพราะขนแปรงทั้ง 2 ระดับนี้สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อในช่องปากได้น้อยกว่าขนแปรงสีฟันในระดับอื่น ทั้งยังช่วยทำความสะอาดฟันได้ดี และอ่อนโยนด้วย หรือบางกรณี ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าแทน เพราะเป็นแปรงสีฟันที่ใช้แรงกดน้อย และมีแรงสั่นสะเทือนที่เหมาะสมในการทำความสะอาดฟันให้หมดจด
[embed-health-tool-bmi]