ภายในกล่องประกอบด้วยถ้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ กระดาษทดสอบการตั้งครรภ์ บางยี่ห้ออาจเป็นเครื่องพลาสติกที่มีส่วนปลายไว้จุ่มปัสสาวะที่สามารถอ่านผลลัพธ์ได้ภายในชิ้นเดียว
วิธีใช้ที่ตรวจครรภ์
- ปัสสาวะลงในถ้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ โดยควรใช้ปัสสาวะแรกของวันเหมือนกับการตรวจครรภ์แบบหยด
- นำกระดาษทดสอบ หรือถอดฝาเครื่องทดสอบการตั้งครรภ์ แล้วนำส่วนปลายของอุปกรณ์จุ่มลงในปัสสาวะประมาณ 7-10 วินาที โดยไม่ควรจุ่มเกินขีดที่กำหนด
- วางกระดาษในพื้นที่ที่สะอาดหรือปิดฝาอุปกรณ์แล้ววางไว้ในพื้นที่แห้งสนิท และรอผลทดสอบประมาณ 5 นาที หรือตามคำแนะนำที่ระบุข้างผลิตภัณฑ์
ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทั้ง 2 รูปแบบจะมีตัวอักษร C และ T เมื่อถึงเวลาอ่านค่าผลทดสอบ หากพบว่าเส้นสีแดงปรากฏตรงกับตัวอักษร C และ T ทั้ง 2 ขีดอย่างชัดเจน อาจหมายความว่ากำลังตั้งครรภ์ แต่หากมีเส้นสีแดงขึ้นตรงกับตัวอักษร C เพียง 1 ขีด จะมีความหมายว่า ไม่ตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม ถ้าเส้นสีแดงมีสีจาง อาจจำเป็นต้องตรวจสอบใหม่ในเช้าวันถัดไป และหากไม่มีเส้นสีแดงขึ้นที่ตัวอักษร C แสดงว่าชุดการทดสอบนั้นไม่สามารถทำการทดสอบได้ ให้เปลี่ยนชุดทดสอบอันใหม่แทน
วิธีการคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่ไม่พร้อมตั้งครรภ์
สำหรับผู้ที่ไม่พร้อมตั้งครรภ์และไม่อยากเกิดความกังวลใจว่า ปล่อยในกี่วันถึงท้อง ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยใน และควรคุมกำเนิดด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- ถุงยางอนามัย เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ใช้งานง่ายและสะดวก โดยควรเลือกขนาดให้เหมาะสมและศึกษาการใช้ให้ถูกต้อง
- ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน หรือมีเพียงฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียว ซึ่งมีทั้งรูปแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด และยาคุมฉุกเฉิน ใช้เพื่อช่วยสร้างเมือกบริเวณปากมดลูกและออกฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ ทำให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ยาก หรือทำให้ผนังมดลูกบางลงจนตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวในผนังมดลูกได้ โดยวิธีนี้จำเป็นต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการรับประทานยา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงสุด
- ฝังยาคุม คือยาคุมที่มีลักษณะเป็นแท่งพลาสติกสีขาวขนาดเล็กประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสติน โดยอาจฝังไว้ใต้ผิวหนังบริเวณแขนหรือก้น เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างเมือกปากมดลูกให้หนาขึ้น ป้องกันการตั้งครรภ์ และจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่เมื่อครบกำหนดการใช้งาน
- แผ่นแปะคุมกำเนิด คือแผ่นที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน และปล่อยฮอร์โมนผ่านทางผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด โดยสามารถแปะบริเวณหน้าท้อง หลังแขน และก้น เพื่อช่วยป้องกันการตั้งครรภ์และควรเปลี่ยนแผ่นใหม่ทุกสัปดาห์ ยกเว้นในช่วงสัปดาห์ที่ 4 เพื่อให้ประจำเดือนมาตามปกติ
- ยาคุมกำเนิดแบบฉีด คือการฉีดฮอร์โมนโปรเจสตินบริเวณแขน หรือก้น เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างเมือกบริเวณปากมดลูกให้หนาขึ้น ทำให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ยาก ลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์และจำเป็นต้องกลับมาฉีดซ้ำทุก ๆ 3 เดือน ก่อนยาจะหมดฤทธิ์
- ห่วงอนามัยคุมกำเนิด มีลักษณะเป็นพลาสติก หรือทองแดงรูปตัว T ที่มีฮอร์โมนโปรเจสติน โดยใส่เข้าไปบริเวณปากมดลูกเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้นานประมาณ 3-10 ปี ผลข้างเคียงของการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้คืออาจส่งผลให้ช่องคลอดอักเสบ ปากมดลูกอักเสบ และติดเชื้อในช่องคลอดได้
- ไดอะแฟรมครอบปากมดลูก คืออุปกรณ์ที่ทำจากซิลิโคน มีลักษณะคล้ายถ้วยและมีความยืดหยุ่น มักใช้ร่วมกับยาฆ่าอสุจิ โดยทายาฆ่าอสุจิให้ทั่วไดอะแฟรมครอบปากมดลูก และสอดเข้าไปในช่องคลอดเป็นเวลา 3 ชั่วโมงก่อนมีเพศสัมพันธ์ และควรใส่ทิ้งไว้อย่างน้อยอีก 6 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ไม่ควรถอดออกทันที เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ฆ่าเชื้ออสุจิได้เต็มประสิทธิภาพ
- วงแหวนคุมกำเนิด มีมีลักษณะเป็นวงแหวนพลาสติกขนาดเล็กที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน ใช้สอดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อปล่อยฮอร์โมนเข้าสู่กระแสเลือด โดยควรใส่เป็นเวลา 3 สัปดาห์ และถอดออกในสัปดาห์ที่ 4 เพื่อให้ประจำเดือนมาตามปกติ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย