สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

หนองในเทียม และ หนองในแท้ แตกต่างกันอย่างไร

บทความนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาดูข้อแตกต่างระหว่าง หนองในเทียม และ หนองในแท้ แบบเข้าใจง่าย กันค่ะ จะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันอย่างไร และจะมีวิธีการป้องกันอย่างไรบ้าง ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ เลยค่ะ หนองในเทียม และ หนองในแท้ แตกต่างกันอย่างไร หนองในเทียม และ หนองในแท้มีข้อแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้ สาเหตุ หนองในเทียม (Non Gonococcal Urethritis) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อเรียกว่า คลามัยเดีย ทราโคมาทิส (Chlamydia trachomatis) หนองในแท้ (Gonorrhoea) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อเรียกว่า ไนซ์ซีเรีย โกโนร์เรีย (Neisseria gonorrhea) ระยะการฟักตัว หนองในเทียม มีระยะการฟักตัวค่อนข้างนาน โดยส่วนใหญ่มักมีระยะการฟักตัวมากกว่า 1-3 สัปดาห์ หนองในแท้ มีระยะการฟักตัวค่อนข้างสั้น โดยส่วนใหญ่มักมีระยะการฟักตัวภายใน 1-5 วัน อาการของโรคหนองใน อาการโรคหนองในเทียมในเพศชาย ในระยะแรก ๆ ผู้ป่วยจะรู้สึกคันที่บริเวณท่อปัสสาวะ และมีน้ำสีใส ๆ หรือขุ่น ๆ ไหลออกมาจากปลายองคชาต อาการโรคหนองในแท้ในเพศชาย […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

การ ฝันเปียก เกิดจากอะไร รับมือได้อย่างไรบ้าง

การ ฝันเปียก เป็นภาวะที่พบได้ทั่วไป โดยเฉพาะในวัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว หลายคนอาจเข้าใจว่า ฝันเปียกเกิดขึ้นได้กับแค่ผู้ชายเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว ผู้หญิงก็สามารถมีอาการฝันเปียกได้เช่นกัน แต่อาจต่างจากผู้ชายตรงที่ผู้ชายอาจหลั่งน้ำอสุจิเมื่อฝันเปียก แต่ผู้หญิงจะหลั่งน้ำหล่อลื่นแทน เนื่องจากร่างกายของผู้หญิงไม่สามารถผลิตอสุจิได้เหมือนผู้ชาย [embed-health-tool-ovulation] การ ฝันเปียก คืออะไร การ ฝันเปียก (Nocturnal emission หรือ Wet dream) เป็นความฝันที่เกิดขึ้นระหว่างการนอนหลับ อาจเกิดขึ้นเพราะมีความคิดเรื่องของเพศ เช่น การมีเซ็กส์ หรือการขาดกิจกรรมทางเพศเป็นเวลานาน ทำให้ระดับเทสโทสเทอโรน (Testosterone) สูงขึ้นในขณะพักผ่อน จึงทำให้ไปถึงจุดสุดยอดจนมีน้ำไหลออกมาจากอวัยวะเพศ เมื่อตื่นมาอาจสังเกตได้ว่าบริเวณอวัยวะ เสื้อผ้า หรือที่นอนเปียก อับชื้น เหนอะหนะ หรือพบคราบแข็งสีขาวเปอะเปื้อน ข้อเท็จจริงของอาการฝันเปียก ฝันเปียกไม่ทำให้จำนวนอสุจิลดลงในเพศชาย บางคนเชื่อว่ายิ่งฝันเปียกบ่อยเท่าไหร่ จำนวนอสุจิอาจยิ่งลดลงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง การหลั่งน้ำอสุจิเป็นเพียงแค่การกำจัดสเปิร์มเก่าในลูกอัณฑะออก เพื่อให้ร่างกายได้สร้างสเปิร์มใหม่ขึ้นมาแทน ผู้หญิงสามารถมีอาการฝันเปียกได้ คนทุกเพศล้วนมีอารมณ์ทางเพศและเกิดฝันเปียกได้ทั้งนั้น เพียงแต่พบในผู้ชายได้มากกว่า จึงอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าภาวะฝันเปียกเป็นได้แค่กับเพศชายเท่านั้น อาการฝันเปียก สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศวัย ในวัยแรกรุ่น หนุ่มสาว สามารถพบอาการฝันเปียกได้บ่อยกว่าในวัยผู้ใหญ่กลางคน แต่จริง ๆ ฝันเปียกสามารถเกิดขึ้นกับคนแทบทุกวัยได้ เมื่อมีอารมณ์ทางเพศสูง ความเจ็บป่วยกับอาการฝันเปียก ฝันเปียกไม่ได้ทำให้ล้มป่วย ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ หรือทำให้ภูมิต้านทานลดลง […]


สุขภาพทางเพศ

แพ้ถุงยาง ปัญหาที่ผู้ชายและผู้หญิงไม่ควรละเลย

แพ้ถุงยาง เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยอาจเกิดจากการแพ้ยางพาราหรือวัสดุที่ใช้ในการทำถุงยาง หรือการใช้ถุงยางที่หมดอายุ ดังนั้น ก่อนใช้ถุงยางควรตรวจสอบให้เรียบร้อย ผู้ที่มีอาการแพ้ถุงยาง โดยปกติมักมีอาการคัน ผื่นแดง บริเวณอวัยวะเพศหลังมีเพศสัมพันธ์ ส่วนใหญ่มักหายเอง แต่ควรเปลี่ยนยี่ห้อหรือปรึกษาคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำ [embed-health-tool-ovulation] แพ้ถุงยาง คืออะไร แพ้ถุงยาง คือ อาการแพ้ผิวหนังที่เกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่ใช่เพียงข้ออ้างในการงดมีเพศสัมพันธ์อย่างที่หลายคนเข้าใจ โดยส่วนมากสาเหตุที่แพ้เกิดจากการแพ้ยางพารา (latex allergy) ในถุงยาง ถุงยางที่ทำจากยางพารานั้นมีราคาถูกที่สุด หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดและมีแจกฟรีทั่วไป ผู้แพ้ถุงยางอนามัยจะมีลักษณะคัน มีผื่นแดงขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ บางรายอาจมีอาการแน่นหน้าอก หรือหายใจลำบากร่วมด้วย ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้แพ้ถุงยาง การแพ้ถุงยางอนามัยอาจเกิดได้จาก 2 ปัจจัย ดังนี้ แพ้ยางพารา (Latex Allergy) ในถุงยางอนามัย อาจจะต้องเปลี่ยนไปใช้ถุงยางอนามัยสังเคราะห์ที่ไม่ได้ทำจากยางพารา เช่น ถุงยางอนามัยที่ทำจากพลาสติกโพลียูเรเธน (Polyuretane) แพ้สารเคลือบถุงยางอนามัย เช่น สารหล่อลื่นต่าง ๆ หากแพ้สารเคลือบ การเปลี่ยนยี่ห้อถุงยางอนามัยอาจช่วยทำให้อาการแพ้หายไปด้วย นอกจากนั้นแล้ว อาจเกิดจากการแพ้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุ ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อถุงยางอนามัยควรตรวจสอบให้ละเอียด อาการแพ้ถุงยาง ผู้ที่แพ้ถุงยางมักมีอาการคัน รู้สึกเจ็บ และแสบ เป็นผื่นคล้ายลมพิษหรือผื่นปื้นแดงหนา บริเวณที่สัมผัสกับถุงยางอนามัย อาการดังกล่าวนี้อาจหายเองได้  โดยอาการจะเกิดหลังมีเพศสัมพันธ์ภายใน 24-48 ชั่วโมง หากเกิดอาการแพ้ควรเปลี่ยนชนิดหรือยี่ห้อของถุงยางอนามัยมาใช้เป็นแบบที่ทำจากสารโพลียูเรเธน […]


สุขภาพทางเพศ

tss คืออะไร มีอาการและวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง

tss คืออะไร อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ซึ่ง tss (Toxic Shock Syndrome) คือ กลุ่มอาการท็อกซิกช็อก เป็นภาวะแทรกซ้อนที่หายากและอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต มักพบได้ในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ผ้าอนามัยแบบสอด แต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับบุคคลในวัยอื่นได้เช่นกัน หากสังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีไข้เฉียบพลัน ความดันโลหิตต่ำ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ชัก ควรเข้าพบคุณหมอทันที [embed-health-tool-ovulation] tss คืออะไร tss คือ กลุ่มอาการท็อกซิกช็อก ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่หาได้ยากทั้งยังอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ด้วย กลุ่มอาการท็อกซิกช็อกนั้นเกิดขึ้นจากการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด แต่ก็มีย้อยครั้งที่กลุ่มอาการท็อกซิกช็อกเป็นผลมาจากสารพิษที่ผลิตโดยแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) โดยกลุ่มอาการท็อกซิกช็อกนั้นมีความสัมพันธ์กับการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดเป็นหลัก แต่ความจริงอาการนี้อาจส่งผลกระทบต่อทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ผู้ชาย หรือแม้แต่เด็กก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงของกลุ่มอาการท็อกซิกช็อกนั้นนอกจากจะมาจากผ้าอนามัยแบบสอดแล้ว ยังรวมไปถึงการมีบาดแผลและการผ่าตัดอีกด้วย ปัจจัยเสี่ยงของกลุ่มอาการท็อกซิกช็อก แม้กลุ่มอาการท็อกซิกช็อกจะส่งผลกระทบให้ทุก ๆ คนได้ แต่ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ที่เกิดอาการท็อกซิกช็อกที่เกี่ยวข้องกับเชื้อแบคทีเรีย สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส มักเกิดขึ้นกับผู้หญิงในวัยประจำเดือน ส่วนที่เกิดขึ้นในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าผู้ชาย เด็ก โดยกลุ่มอาการท็อกซิกช็อกอาจสัมพันธ์กับสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ บาดแผลหรือรอยไหม้บนผิวหนัง การผ่าตัดครั้งล่าสุด ฟองน้ำคุมกำเนิด ผ้าอนามัยแบบดูดซับพิเศษ การติดเชื้อไวรัส เช่น อีสุกอีใส อาการของกลุ่มอาการท็อกซิกช็อก สำหรับอาการของท็อกซิกช็อก ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่ในกรณีส่วนใหญ่อาการที่จะปรากฏขึ้นโดยทันที […]


สุขภาพทางเพศ

ผู้หญิง หมดประจำเดือน มีอารมณ์ ไหม และวิธีการรับมือ

หลายคนอาจมีข้อสงสัยที่ว่า ผู้หญิง หมดประจำเดือน มีอารมณ์ ไหม เนื่องจากวัยหมดประจำเดือน สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงต่ออารมณ์จนส่งผลต่ออารมณ์ทางเพศของผู้หญิงได้เลยโดยจะส่งผลให้ผู้หญิงมีอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น มีอาการร้อนวูบวาบ มึนศีรษะ อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน และอาจมีอารมณ์ทางเพศลดลง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการของวัยทอง และวิธีการรับมือเมื่อไม่มีอารมณ์ทางเพศในวัยทอง อาจช่วยคืนสีสันของชีวิตรักให้กลับมามีรสชาติได้ [embed-health-tool-ovulation] อาการของ วัยทอง วัยหมดประจำเดือน (Menopause) หรือว่าวัยทอง เป็นช่วงที่ร่างกายของผู้หญิงนั้นจะไม่มีประจำเดือนแล้ว ซึ่งก่อนที่จะเข้าสู่ วัยทอง ผู้หญิงจะมีช่วงที่เรียกว่า ระยะก่อนหมดประจำเดือน ซึ่งในช่วงนี้อาจเกิดก่อนการเข้าสู่วัยทองประมาณ 2-3 แล้ว อาจจะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน ในระยะก่อนหมดประจำเดือนก็จะมีอาการต่าง ๆ เช่น มีอาการร้อนวูบวาบ มึนศีรษะ อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน ส่วนอาการในช่วง วัยหมดประจำเดือน จะแตกต่างกันออกไปในผู้หญิงแต่ละคน บางคนไม่แดงอาการใด บางคนมีอาการเพียงเล็กน้อย หรือบางคนวัยทองก็ส่งผลต่อร่างกายและอารมร์อย่างรุ่นแรง อาการที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องพบเจอเมื่อเข้าสู่ช่วง วัยทอง คือ อาการร้อนวูบวาบ (hot flashes) เหงื่อออกง่าย (vasomotor symptoms (VMS)) และอาการเหงื่อออกในตอนกลางคืน สำหรับ อาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้แก่ […]


เคล็ดลับเรื่องบนเตียง

เซ็กส์หลังผ่าตัดมดลูก เตรียมความพร้อมอย่างไร

การผ่าตัดมดลูก (Hysterectomy) อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ความเจ็บปวด การตกเลือด นอกจากนี้ การผ่าตัดมดลูกยังอาจส่งผลกระทบต่อเรื่องเซ็กส์ด้วย เซ็กส์หลังผ่าตัดมดลูก อาจเปลี่ยนแปลงไปในหลายด้าน เช่น การถึงจุดสุดยอด ปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอด ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้การมีเซ็กส์สุขสมได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเตรียมความพร้อมที่ดี อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเรื่องเซ็กส์หลังผ่าตัดมดลูกได้ [embed-health-tool-ovulation] ต้องรอนานเท่าไรจึงมี เซ็กส์หลังผ่าตัดมดลูก ได้ วิทยาลัยสูตินรีแพทย์และนรีแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (ACOG) ได้ให้ข้อมูลว่า หลังจากได้รับการผ่าตัดมดลูก ผู้หญิงควรงดเว้นไม่ให้มีอะไรเสียดสีกับช่องคลอดเป็นเวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ ซึ่งรวมถึง อวัยวะเพศ นิ้ว เซ็กส์ทอย ผ้าอนามัยแบบสอด และอุปกรณ์ฉีดล้างช่องคลอด จริงๆ แล้วระยะเวลา 6-8 สัปดาห์เป็นเพียงค่าเฉลี่ยโดยประมาณ แต่จริงๆ แล้วแต่ละคนก็จะมีระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป  ในช่วงหลังผ่าตัด แพทย์แนะนำให้ผู้หญิงงดเว้นกิจกรรมทางเพศ และรอจนกว่าแผลที่ได้จากการผ่าตัดหายเป็นปกติ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีข้อมูลแน่ชัดว่าเมื่อไรที่ควรจะมี เซ็กส์หลังผ่าตัดมดลูกได้ เพราะ เพียงการช่วยตัวเองด้วยนิ้วจนถึงจุดสุดยอด สามารถส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานเกร็งและอาจทำให้แผลบริเวณที่ผ่าตัดอักเสบหรือหายได้ช้า สำหรับผู้หญิงบางคนที่มีเลือดออกทางช่องคลอดและมีอาการปวดหลายสัปดาห์หลังผ่าตัด อาจทำให้เขาหมดอารมณ์ในการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากความเจ็บป่วยทางร่างกายแล้ว บางครั้งการผ่าตัดลูกก็ส่งผลกระทบต่ออารมณ์และอารมณ์ทางเพศได้ ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกทางเพศของผู้หญิงที่เปลี่ยนไปไปขึ้นอยู่ว่าการผ่าตัดส่งผลต่อการมี ประจำเดือนหรือไม่  หลังผ่าตัดมดลูก ส่งผลต่อการมีเซ็กส์ อย่างไร จากการศึกษาแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ผู้หญิงหลายคนรู้สึกว่าหลัง การผ่าตัดมดลูก ความรู้สึกทางเพศก็ยังคงเหมือนเดิมหรือบางครั้งก็ดีขึ้น แม้ว่าการตัดรังไข่ออกอาจทำให้ความต้องการทางเพศลดลงได้ เพราะรังไข่เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมน […]


เคล็ดลับเรื่องบนเตียง

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลอะไรบ้างต่อการมีเซ็กส์

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกเหนือจากจะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมและความคิดของผู้ดื่มแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบต่อการมีเซ็กส์ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยอาจเพิ่มความต้องการทางเพศ ช่วยเพิ่มความเร้าร้อนทางอารมณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพทางเพศ เช่น ถึงจุดสุดยอดช้า อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว ดังนั้น จึงควรระมัดระวังการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนการมีเซ็กส์ และไม่ควรดื่มมากจนเกินไปเพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ [embed-health-tool-ovulation] เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลอย่างไรต่อการมีเซ็กส์ของผู้หญิง ช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศ การดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 แก้ว อาจช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศในผู้หญิงได้ แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยที่รองรับความเชื่อในเรื่องนี้ แต่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ในเพศหญิง ซึ่งฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนเพศชาย ที่มีบทบาทในเรื่องของความต้องการทางเพศ ดังนั้น เมื่อการดื่มแอลกอฮอล์จึงอาจเพิ่มความต้องการทางเพศในผู้หญิงได้ นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์ยังเกี่ยวข้องกับการยับยั้งที่ลดลง รู้สึกเซ็กซี่และมีความมั่นใจมากขึ้น ช่วยเพิ่มและลดความเร่าร้อนทางอารมณ์ สำหรับผู้หญิงบางคนการดื่มแอลกอฮอล์ไม่กี่ครั้งอาจไปกระตุ้นให้มีความสนใจเรื่องเพศขึ้นมา แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องการมีเพศสัมพันธ์ มีหลักฐานที่เชื่อถือได้แสดงให้เห็นว่า แอลกอฮอล์ มีส่วนทำให้ผู้หญิงมีอารมณ์ทางเพศ แต่การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายและลดการตอบสนองต่ออารมณ์ทางเพศได้ ถึงจุดสุดยอดได้ยากขึ้น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงหนึ่งแก้วนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือด แต่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปจะส่งผลต่อร่างกาย สติ พฤติกรรม โดยสามารถทำให้เกิดความผิดปกติต่อการสำเร็จความใคร่ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ใช้เวลานานขึ้นในการสำเร็จความใคร่ หรือบางครั้งก็อาจทำให้ไม่ถึงจุดสุดยอดเลย ลดการสร้างน้ำหล่อลื่น เมื่อร่างกายถูกกระตุ้น ร่างกายก็จะมีการเตรียมตัวเพื่อการมีเพศสัมพันธ์ โดยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศซึ่งจะช่วยให้อวัยวะเพศชุ่มชื่นและมีน้ำหล่อลื่น แต่การดื่มแอลกอฮอล์หนักเกินไปจะส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศ ทำให้ช่องคลอดแห้ง เมื่อมีเพศสัมพันธ์หรือเกิดการเสียดสี อาจส่งผลให้เจ็บและรู้สึกไม่สบายตัวได้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลอย่างไรต่อการมีเซ็กส์ของผู้ชาย ส่งผลต่อการแข็งตัว การดื่มเบียร์ วิสกี้ หรือไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์แบบใด ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อการแข็งตัวของผู้ชายทั้งนั้น การดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนและดื่มเป็นประจำอาจส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายได้ นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮลล์ยังส่งผลให้เกิดการลดการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศ เพิ่มแองจิโอเทนซิน (Angiotensin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เชื่อมโยงกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และกดระบบประสาทส่วนกลางด้วย มีการหลั่งช้า จริงๆ […]


สุขภาพทางเพศ

ทําไงให้ ประจําเดือน มาเร็วๆ

ประจำเดือนถือเป็นเรื่องปกติของผู้หญิง แต่ผู้หญิงบางคนอาจประสบกับปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ มาช้า หรือประจำเดือนขาด ดังนั้นอาจต้องหาวิธี ทําไงให้ ประจําเดือน มาเร็วๆ ที่อาจทำได้ด้วยการออกกำลังกาย ผ่อนคลายความเครียด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม หากสังเกตว่าประจำเดือนมาช้าผิดปกติ หรือประจำเดือนขาด ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดและทำการรักษาอย่างเหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] สาเหตุที่ประจำเดือนมาช้า โดยปกติแล้ว รอบประจำเดือนจะอยู่ที่ 21-35 วัน แต่ผู้หญิงบางคนอาจเจอปัญหาประจำเดือนไม่มาตามปกติ หรือที่เรียกว่า ภาวะขาดประจำเดือน (Amenorrhea) ซึ่งหากเป็นผู้หญิงที่อายุเกิน 15 ปีแล้ว แต่ประจำเดือนครั้งแรกยังไม่มา หรือผู้หญิงที่ประจำเดือนไม่มาเกิน 3 เดือนติดต่อกัน จะถือว่ามีภาวะขาดประจำเดือน ทำให้หลายคนอาจสงสัยว่าควร ทําไงให้ ประจําเดือน มาเร็วๆ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาช้า หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ อาจเกิดจากสาเหตุ ดังนี้ ความเครียด น้ำหนักตัวน้อยเกินไป หรือมากเกินไป มีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovary Syndrome หรือ PCOS) การคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมน มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคเซลิแอค (Celiac Disease) ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ […]


การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

เอชไอวี กับ เอดส์ ต่างกันอย่างไร

เอชไอวี กับ เอดส์ ต่างกันอย่างไร เอชไอวีกับเอดส์มีความแตกต่างกันเนื่องจาก เอชไอวี (HIV; Human Immunodeficiency Virus) เป็นชื่อของเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งหมายถึง เชื้อไวรัสที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของคนบกพร่อง และเป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายได้ในคนเท่านั้น ส่วนเอดส์ หมายถึง อาการของร่างกายที่แสดงภาวะของโรคหลังจากได้รับเชื้อเอชไอวีเป็นเวลานานและร่างกายถูกเชื้อไวรัสทำลายจนอ่อนแอ โดยจะนับว่าผู้ป่วยเป็นโรคเอสด์ก็ต่อเมื่อติดเชื้อเอชไอวีและแสดงอาการอย่างรุนแรงในระยะสุดท้ายของโรค [embed-health-tool-ovulation] เอชไอวี กับ เอดส์ ต่างกันอย่างไร เอชไอวี คือไวรัส ไม่ใช่โรค เอชไอวี หรือ HIV (Human Immunodeficiency Virus) ซึ่งหมายถึง “เชื้อไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องในคน” หรือ “ไวรัสภูมิคุ้มกันเสื่อมในคน” เนื่องจากไวรัสเอชไอวีเป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายได้ในคนเท่านั้น และเมื่อร่างกายได้รับเชื้อเอชไอวี เชื้อโรคจะเข้าไปโจมตีระบบภูมิคุ้มกัน จนส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเสื่อมถอย โดยปกติแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะสามารถจัดการกับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ แต่เชื้อเอชไอวีนี้ถือเป็นข้อยกเว้นเพราะเป็นเชื้อที่ค่อนข้างร้ายแรง ผู้ติดเชื้อเอชไอวีจึงต้องรับประทานยาหลายชนิด เพื่อขัดขวางวงจรชีวิตของเชื้อไวรัสเอชไอวีเพื่อร่างกายจะได้สามารถควบคุมเชื้อไวรัสนี้ไม่ให้ทำลายระบบอวัยวะต่าง ๆ เอดส์ คือภาวะที่เกิดจากการติดเชื้อเอชไอวี ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีจะยังไม่นับว่าเป็นผู้ป่วยโรคเอสด์ เนื่องจากอาการของการติดเชื้อเอชไอวี สามารถแบ่งได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ระยะติดเชื้อเฉียบพลัน ผู้ที่ได้รับเชื้อเอชไอวีเข้าร่างกายจะมีอาการคล้ายไข้หวัด เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ มีผื่นขึ้น […]


เคล็ดลับเรื่องบนเตียง

ไม่มีเซ็กส์นาน ๆ จะส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า การมีเซ็กส์ หรือการมีเพศสัมพันธ์ส่งผลดีต่อสุขภาพในหลายด้าน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้เป็นปกติ ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดความเสี่ยงหัวใจวาย ช่วยบรรเทาปวด ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ช่วยคลายเครียด อย่างไรก็ตาม การไม่มีเซ็กส์ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่หาก ไม่มีเซ็กส์นาน ๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้เช่นกัน [embed-health-tool-ovulation] ไม่มีเซ็กส์ เป็นเรื่องผิดปกติหรือไม่ การมีเซ็กส์ต้องมีหลายปัจจัยประกอบเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังมีอีกหลายหลายวิธีที่อาจช่วยเติมเต็มความสุข คลายเครียด และตอบสนองต่อความต้องการของแต่ละคนได้โดยไม่ต้องมีเซ็กส์ การไม่มีเซ็กส์จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด และถึงแม้การมีเซ็กส์จะให้ประโยชน์สุขภาพหลายประการ แต่การทำกิจกรรมอื่น ๆ แทน ก็อาจให้ประโยชน์สุขภาพเหล่านั้นได้เช่นกัน เช่น การออกกำลังกาย ก็สามารถช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ช่วยคลายเครียดได้ เช่นเดียวกับการมีเซ็กส์ แม้การไม่มีเซ็กส์จะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากไม่ได้มีเซ็กส์นาน ๆ ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพได้เช่นกัน ไม่มีเซ็กส์นาน ๆ ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร ทำให้รู้สึกกังวลมากขึ้น เซ็กส์ช่วยกระตุ้นการหลั่งเอนดอร์ฟินและออกซิโทซิน ซึ่งมีส่วนช่วยในการยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เครียดหรือวิตกกังวล หากไม่มีเซ็กส์นาน ๆ จึงอาจทำให้รู้สึกวิตกกังวลมากขึ้น หรือเครียดง่าย หงุดหงิดง่าย เป็นต้น หัวใจอาจทำงานได้ไม่ดี งานศึกษาวิจัยเผยว่า คนที่มีเซ็กส์เดือนละครั้งหรือน้อยกว่านั้น มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้มากกว่าคนที่มีเซ็กส์อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ น้ำหล่อลื่นน้อยลง สำหรับผู้หญิงที่ไม่มีเซ็กส์นาน ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงวัยสูงอายุ หากกลับมามีเซ็กส์อีกครั้ง อาจประสบปัญหาน้ำหล่อลื่นในช่องคลอดแห้งหรือน้อยลงเนื่องจากขาดฮอร์โมน เช่น เอสโตรเจน (Estrogen) เมื่อประกอบกับผนังช่องคลอดที่บางลงตามวัย ก็ส่งอาจส่งผลให้รู้สึกเจ็บปวดขณะมีเซ็กส์ได้ ระบบภูมิคุ้มกันอาจอ่อนแอ […]


โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

เช็กอาการ! เริมกับHPV 2 โรคนี้ ต่างกันยังไง

เริมกับHPV ต่างก็เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถพบได้ทั่วไป ทั้งสองโรคอาจคล้ายคลึงกันเนื่องจากเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังและเกิดขึ้นจากไวรัสด้วยกันทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม การศึกษาความแตกต่างของโรคเริมกับการติดเชื้อ HPV ให้กระจ่างยิ่งขึ้น อาจช่วยให้สามารถรับมือกับทั้งสองโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เริมกับHPV เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร โรคเริม (Herpes) คืออะไร โรคเริม คือหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้มากที่สุด โรคนี้สามารถพบได้มากถึง 1 ใน 6 คน โรคเริมเป็นการติดเชื้อไวรัส herpes simplex virus โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ herpes simplex virus ชนิดที่ 1 (HSV-1) ที่มักจะเกิดที่บริเวณปาก และชนิดที่ 2 (HSV-2) ที่มักจะเกิดขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศ โรคเริมนี้สามารถส่งผลกระทบได้ทั้งกับผิวหนังและระบบประสาท โดยเฉพาะอาการแผลเริมที่มีลักษณะเป็นตุ่มใสๆ เล็กๆ โรคเริมสามารถติดต่อสู่ผู้อื่นได้จากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยป้องกัน การจูบ หรือการทำออรัลเซ็กส์โดยไม่ผ่านแผ่นยางอนามัย นอกจากนี้โรคเริมยังสามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้ ขณะที่ทำการคลอดบุตรโดยธรรมชาติ โดยปกติแล้วอาการของโรคเริมมักจะเป็นๆ หายๆ โดยเฉพาะในช่วงที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โรคติดเชื้อเอชพีวี คืออะไร โรคติดเชื้อเอชพีวี หรือโรคเอชพีวี คือ โรคที่เกิดจากเชื้อฮิวแมนปาปิลโลมาไวรัส หรือเอชพีวี (Human Papillomavirus: HPV) ที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ เชื้อไวรัสเอชพีวีมักก่อให้เกิดหูด […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน