ปัญหาผิวหมองคล้ำ เกิดจากชั้นเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพไม่ผลัดตัวออกเท่าที่ควร จนทำให้เซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพสะสมอยู่บนผิวหนังชั้นบนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผิวดูไม่กระจ่างใสและเปล่งปลั่ง ซึ่งวิธีที่จะช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ และ อยากขาว มีผิวที่ขาวกระจ่างใสขึ้นอาจทำได้ด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดด การผลัดเซลล์ผิวเก่า ดูแลและบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ผิวขาว กระจ่างใส ชุ่มชื้น และมีสุขภาพที่ดี
สาเหตุของผิวหมองคล้ำ
ผิวหมองคล้ำ อาจมีสาเหตุมาจากชั้นเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพไม่ผลัดตัวออกเท่าที่ควร จนทำให้เซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพสะสมอยู่บนผิวหนังชั้นบนสุดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำหรืออาจดูด่างดำไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ ปัญหาผิวหมองคล้ำยังอาจเกิดขึ้นได้จากปัจจัยแวดล้อมบางอย่าง เช่น ผิวขาดน้ำ ผิวแห้งหยาบกร้าน การโดนทำร้ายจากรังสียูวีในแสงแดด ความเครียด ควันบุหรี่ มลพิษ อายุที่มากขึ้น กรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
วิธีช่วยปรับสีผิวสำหรับคน อยากขาว
สำหรับผู้ที่อยากขาวอาจมีหลายวิธีในการช่วยผลัดเซลล์ผิว และช่วยปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้น ดังนี้
การขัดผิว
การขัดผิวเป็นตัวช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าเสื่อมสภาพที่ยังคงอยู่ชั้นบนสุดของผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ แห้ง เป็นขุย ไม่ขาวกระจ่างใส รวมถึงอาจทำให้ผิวดูด่างดำ ไม่สม่ำเสมอ และอาจทำให้รูขุมขนอุดตัน ซึ่งการขัดผิวเป็นประจำอาจช่วยป้องกันและลดปัญหาผิวเหล่านี้
นอกจากการขัดผิวจะช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใสได้แล้ว ยังอาจช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ดูอิ่มเอิบ อ่อนนุ่ม และอาจช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย
สำหรับการขัดผิวเพื่อผลัดเซลล์ผิวอาจแบ่งได้เป็น 2 วิธี ดังนี้
- การขัดผิวที่ทำด้วยตัวเอง โดยการใช้อุปกรณ์ เช่น ฟองน้ำ ใยบวบ แปรงขัดผิว ถุงมือขัดผิว หรืออาจใช้ผลิตภัณฑ์สครับในการขัดผิว ซึ่งควรทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและระคายเคืองจากการเสียดสีมากเกินไป วิธีนี้ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแห้ง หรือแพ้ง่าย
- การขัดผิวด้วยเคมี เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) กรดแลคติก (Lactic Acid) ทาร์ทาริก (Tartaric Acid) กรดซิตริก (Citric Acid) กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) เพื่อช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งการขัดผิวด้วยวิธีนี้ต้องได้รับการควบคุมจากคุณหมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ความระคายเคืองผิว ผิวอักเสบ
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอาจช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ นุ่มชุ่มชื้น รวมถึงยังอาจช่วยลดริ้วรอย เนื่องจากในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างโลชั่น ครีม เซรั่ม หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ อาจมีส่วนผสมของสารอาหารสำหรับผิวและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี กรดแลคติก นิโคตินาไมด์ (Nicotinamide) กรดเฟรูลิก (Ferulic Acid) เรสเวอราทรอล (Resveratrol) กลูตาไธโอน (Glutathione) อัลฟ่าอาร์บูติน (Alpha Arbutin) กรดโคจิก (Kojic Acid) กรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) เซราไมด์ (Ceramide) ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผิว ปกป้องผิวจากการทำร้ายของสารอนุมูลอิสระ ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
การทาครีมกันแดดอาจช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นได้ เนื่องจากครีมกันแดดมีส่วนช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของรังสียูวีในแสงแดด ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระที่ทำให้ผิวคล้ำเสีย แห้ง หยาบกร้าน เหี่ยวย่น และอาจเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ โดยควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป เป็นประจำทุกวันแม้ว่าจะไม่ได้ออกนอกอาคาร และควรทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้อง นอกจากนี้ หากจำเป็นต้องออกนอกอาคารในช่วงเวลาที่มีแดดจัด ควรสวมเสื้อแขนยาว หมวก และแว่นกันแดด เพื่อเป็นการปกป้องผิวอีกชั้นจากการทำร้ายของแสงแดด
ครีมปรับสภาพผิว เป็นยาบำรุงผิวที่ต้องได้รับการสั่งจ่ายโดยคุณหมอเท่านั้น มีหลากหลายสูตร เช่น ตัวครีมอาจมีส่วนผสมของสารไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) และสเตียรอยด์ เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) ที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อผิว เช่น ผิวแดง บวม แสบร้อน คัน เป็นสะเก็ด ผิวคล้ำ ผิวขาวเกินไป ผิวบางจนมองเห็นเส้นเลือด
คุณหมอจึงอาจแนะนำให้ทาครีมปรับสภาพผิววันละ 1-2 ครั้ง หรือทาผิวบริเวณที่มีความคล้ำเท่านั้น และต้องทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ สำหรับการรักษาอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนจึงจะเห็นผลที่ชัดเจน
การฉีดผิวขาวเป็นขั้นตอนการฉีดวิตามินที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิว ต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยให้ผิวขาวขึ้น รวมถึงยังอาจช่วยลดริ้วรอยทำให้ผิวอ่อนนุ่มและดูอ่อนกว่าวัยได้ โดยวิตามินผิวที่มีประโยชน์ในการช่วยให้ผิวขาวอาจมีหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินอี กลูตาไธโอน กรดทรานเอกซามิก (Tranexamic Acid)
การฉีดผิวขาวอาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่อยากขาว เนื่องจากการฉีดผิวขาวจะดูดซึมวิตามิน เช่น วิตามินซี วิตามินอี เข้าสู่ผิวหนังได้เร็วกว่าการทาครีมจึงทำให้เห็นผลได้ไวกว่า อย่างไรก็ตาม โครงสร้างของสีผิวในแต่ละคนจะถูกกำหนดด้วยพันธุกรรม จึงอาจทำให้ผลลัพธ์ของการฉีดผิวขาวสามารถอยู่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น