วิธีรักษาอาการ ตากุ้งยิง
วิธีรักษาเมื่อเป็นตากุ้งยิง มีดังนี้
- ยาปฏิชีวนะ คุณหมออาจแนะนำยาหยอดตาหรือครีมทาบริเวณเปลือกตา เพื่อต้านเชื้อแบคทีเรีย
- ยาแก้ปวด ผู้ที่มีอาการปวดอาจรับประทานยาแก้ปวด เช่น ไอบูโพรเฟน พาราเซตามอล สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน เพราะอาจเสี่ยงเป็นโรคไรย์ซินโดรม (Reye’s syndrome)
- ประคบร้อน นำผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นและวางลงบนเปลือกตาเป็นเวลา 10-15 นาที โดยควรทำ 3-5 ครั้ง/วัน เพื่อช่วยบรรเทาอาการอักเสบ และทำให้ต่อมไขมันเปิดเพื่อระบายหนองออก
- นวดเปลือกตา ล้างมือให้สะอาดและนวดบริเวณตุ่มตากุ้งยิงเบา ๆ เพื่อกระตุ้นให้ต่อมไขมันเปิด และช่วยระบายหนองออก
- ประคบด้วยถุงชา ควรเลือกเป็นชาดำเพราะอาจมีคุณสมบัติช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและลดอาการบวม โดยนำถุงชาไปต้มประมาณ 1 นาที รอจนกว่าถุงชาจะอุ่น และนำมาประคบบริเวณเปลือกตา 5-10 นาที สำหรับผู้ที่เป็นตากุ้งยิงทั้ง 2 ข้างพร้อมกันควรใช้ถุงชาคนละถุงในการประคบ
- น้ำมันมะพร้าว อาจช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา อีกทั้งยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ โดยนำน้ำมันมะพร้าวหยดลงบนสำลี ประคบบริเวณตุ่มนูนไว้ 15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น ควรทำซ้ำอย่างน้อย 3-5 ครั้ง/วัน
- ยาสเตียรอยด์ ใช้ในกรณีที่มีก้อนนูนและมีอาการบวมมาก เพื่อช่วยลดอาการบวม
- การผ่าตัด คุณหมออาจทำการผ่าตัดเพื่อระบายหนองในตากุ้งยิงในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการตากุ้งยิงแย่ลงจนส่งผลต่อการมองเห็น และอาจขอเก็บตัวอย่างหนองหรือเนื้อเยื่อไปวินิจฉัยเพื่อตรวจดูว่ามีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ อีกหรือไม่
ในระหว่างการรักษาตากุ้งยิง ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าและการใส่คอนแทคเลนส์ จนกว่าอาการจะหายสนิท
การป้องกันการเกิดอาการ ตากุ้งยิง
ตากุ้งยิงสามารถป้องกันได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้
- ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสบริเวณเปลือกตา และไม่ควรขยี้ตาเนื่องจากอาจทำให้เกิดการอักเสบ
- ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังใส่คอนแทคเลนส์ ล้างทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ทุกครั้ง และควรทิ้งคอนแทคเลนส์ที่ใส่ระหว่างติดเชื้อตากุ้งยิงเพราะอาจมีแบคทีเรียสะสมอยู่
- ล้างเครื่องสำอางให้สะอาดก่อนนอน โดยเฉพาะบริเวณเปลือกตา
- ควรเปลี่ยนเครื่องสำอางอย่างน้อยทุก ๆ 3 เดือน และไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่หมดอายุ
- ไม่ควรใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แปรงและฟองน้ำแต่งหน้า
- ทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้าบ่อย ๆ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย