สังกะสีเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ การสร้างฮอร์โมน การเผาผลาญ และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในการรักษาสิวตามธรรมชาติอีกด้วย จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า คนที่เป็นสิวนั้นมักจะมีระดับสังกะสีในเลือดที่ต่ำกว่าคนที่มีผิวใส นอกจากนั้นยังมีการวิจัยอีกหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า การรับประทานสังกะสีช่วยลดสิวได้
ในการศึกษาหนึ่ง มีผู้ป่วยที่เป็นสิวจำนวน 48 คน ทั้งหมดได้รับอาหารเสริมสังกะสี 3 ครั้งต่อวัน หลังจากผ่านไป 8 สัปดาห์ มีผู้ป่วยที่เป็นสิวจำนวน 38 คน ปัญหาสิวลดลง 80-100 เปอร์เซ็นต์ แม้ปริมาณสังกะสีที่เหมาะสมสำหรับการบริโภคเพื่อรักษาสิวจะได้ไม่ได้รับการกำหนดขึ้นอย่างเป็นทางการ แต่จากการศึกษาหลายแห่ง แสดงให้เห็นว่า การรับประทานธาตุสังกะสี 30-45 มิลลิกรัมต่อวัน จะช่วยลดสิวลงได้ แต่ปริมาณที่ปลอดภัยที่สุดก็คือ 40 มิลลิกรัมต่อวัน ทั้งนี้ควรจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นการดีที่สุด เพราะการรับประทานสังกะสีที่มากจนเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง อาการปวดท้อง และระคายเคืองต่อลำไส้ได้
ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ สามารถต้านเชื้อแบคทีเรียได้ตามธรรมชาติ พร้อมกันนี้ยังต้านการอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่า มันอาจลดการเกิดสิวและป้องกันการเกิดสิว ในว่านหางจระเข้นั้นมีน้ำมากและเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้น จึงอย่างยิ่งกับผู้ที่มีผิวแห้งจากการใช้ผลิตภัณฑ์ต่อต้านสิวอื่นๆ สำหรับวิธีการใช้ว่านหางจระเข้ในการรักษาสิวง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้านก็คือ ลองทำความสะอาดแผลสิว แล้วทาครีมหรือเจลที่มีเนื้อว่านหางจระเข้อย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์บางๆ ลงไปบริเวณที่เป็นสิว
น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งถูกใช้เพื่อรักษาสภาพสิว เช่น สิว มาเป็นพันๆ ปี เนื่องจากมันมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ช่วยในการล้างของเสีย และเซลล์ที่ตายแล้วออกจากรูขุมขนที่อุดตัน นอกจากนั้น มันยังมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย และสมานแผลได้อีกด้วย ซึ่งวิธีใช้ ก็เพียงแค่นำน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา มาทาบริเวณที่เป็นสิว หรือไม่เช่นนั้นลองเพิ่มน้ำผึ้งลงไปในมาสก์หน้า ก็ได้เช่นกัน
กระเทียม
โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ใช้ยาโบราณในการรักษาคนไข้ มักจะใช้กระเทียม เพื่อรักษาการติดเชื้อและเพิ่มความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับเชื้อโรคและการติดเชื้อต่างๆ กระเทียมมีสารออร์กาโนซัลเฟอร์ (Organosulfur) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและต้านการอักเสบตามธรรมชาติ นอกจากนั้นยังสามารถช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย สำหรับวิธีการใช้กระเทียม ก็เพียงแค่เพิ่มกระเทียมในอาหารให้มากขึ้น หรือบางคนอาจจะเคี้ยวกระเทียมสดๆ นำมาทากับขนมปัง หรือทำเป็นเครื่องดื่มร้อนก็ได้
โรสแมรี่ (Rosemary)
สารสกัดจากโรสแมรี่ มีสารเคมีและสารประกอบที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ จากการศึกษาแบบจำลองหนูและเซลล์มนุษย์ในปี 2013 ชี้ให้เห็นว่า สารสกัดจากโรสแมรี่ สามารถลดการอักเสบจากแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวได้
แอสไพริน
กรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid) ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในแอสไพริน สามารถใช้ในการรักษาสิวได้ โดยคุณสามารถนำแอสไพรินมาบด หรือวางแอสไพรินทั้งเม็ดลงไปบริเวณที่เป็นสิว แต่ทั้งนี้ไม่ควรใช้กับทั้งใบหน้า เนื่องจากมันอาจจะทำให้เกิดอาการแห้งและระคายเคืองได้
ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายเป็นการช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดที่ดี เมื่อการไหลเวียนของเลือดเพิ่มขึ้น มันก็จะช่วยบำรุงเซลล์ผิวหนัง ซึ่งอาจช่วยป้องกันและรักษาสิว นอกจากนั้นการออกกำลังกาย ยังช่วยในการควบคุมฮอร์โมน ลดความเครียด ความวิตกกังวล ซึ่งเป็นปัจจัยที่สามารถนำไปสู่การเกิดสิว ดังนั้น ควรออกกำลังกายเป็นเวลา 30 นาที 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งการออกกำลังกายนั้นสามารถทำได้ทั้งเดิน ปีนเขา วิ่ง และยกน้ำหนัก เป็นต้น
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย