เบกกิ้งโซดา เป็นสารอัลคาไลน์ที่ส่งผลต่อความสมดุลของค่า pH บนผิว และปล่อยให้ผิวไม่ได้รับการปกป้อง มีความเชื่อที่ว่าเบกกิ้งโซดาช่วยลดสิวได้ แต่แพทย์ผิวหนังไม่แนะนำใช้รักษาสิวด้วยการใช้เบกกิ้งโซดา และควรใช้การรักษาสิวทางการแพทย์ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายในร้านขายยา แต่หากตัดสินใจที่จะใช้เบกกิ้งโซดา ควรใช้ในปริมาณที่จำกัด และใช้มอยส์เจอไรเซอร์ตามทันทีเพื่อป้องกันผิวแห้ง นอกจากนี้ หากเกิดผลข้างเคียงหลังจากการใช้เบกกิ้งโซดาในการดูแลผิว เช่น มีอาการเจ็บผิว หรือมีผื่นขึ้น ควรเข้าพบคุณหมอทันที
เบกกิ้งโซดากับการดูแลผิว
ผู้ที่มีผิวแห้ง เป็นสิว หรือผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงการใช้เบกกิ้งโซดา นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้ใช้เบกกิ้งโซดากับผิว เนื่องจากเบกกิ้งโซดาอาจระคายเคืองผิว และกำจัดน้ำมันชนิดสำคัญที่ปกป้องผิว ดังนั้น หากใช้เบกกิ้งโซดาในการดูแลผิว ในแต่ละครั้ง ควรใช้ในปริมาณน้อยและไม่ควรใช้ทุกวัน โดยมีผู้ที่ใช้เบกกิ้งโซดาเพื่อดูแลผิวหลายวิธี ดังนี้
การใช้เบกกิ้งโซดามาส์กหน้า จะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วหรือช่วยบรรเทาอาการอักเสบ วิธีการคือ หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ให้ผสมเบกกิ้งโซดา 1-2 ช้อนชาในน้ำอุ่น จนกระทั่งเบกกิ้งโซดากลายเป็นเนื้อแป้งนุ่ม จากนั้นนำมานวดให้ทั่วใบหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตา ทิ้งไว้ไม่เกิน 10-15 นาที แล้วจึงล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด ซับหน้าให้แห้ง แล้วทามอยส์เจอไรเซอร์ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง ห้ามใช้เบกกิ้งโซดามาส์กหน้าเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์
การใช้เบกกิ้งโซดาเพื่อผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ให้ทำเหมือนกับการมาส์กหน้า คือ ผสมเบกกิ้งโซดา 1-2 ช้อนชากับน้ำอุ่น แต่เมื่อนำมาถูวนจนทั่วใบหน้าแล้วให้ล้างออกทันที นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มเบกกิ้งโซดาลงไปในผลิตภัณฑ์ขัดผิวหน้า (Facial scrub) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดรูขุมขน และกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ข้อควรระวังคือ ควรทามอยส์เจอไรเซอร์ทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง และไม่ควรใช้เบกกิ้งโซดาในการขัดผิวหน้าเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย