ภาวะอาเจียนเรื้อรัง คืออะไร
ภาวะอาเจียนเรื้อรัง ( Cyclic vomiting syndrome หรือ CVS ) เป็นภาวะที่ทำให้มีอาการอาเจียนซ้ำๆ หลายๆ ครั้งในหนึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งวัน เป็นอาการผิดปกติที่มีอาการอาเจียนเกิดขึ้นทันทีซ้ำๆ และมีอาการเหนื่อยอ่อนทางกายภาพที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน สถานการณ์เหล่านี้จะเกิดซ้ำๆ นานตั้งแต่ 2-3 ชั่วโมงจนถึงหลายวัน สถานการณ์เหล่านี้อาจจะรุนแรงจนบางครั้งคนไข้อาจจะต้องนอนป่วยบนเตียงหลายวัน ไม่สามารถไปโรงเรียนหรือไปทำงานได้ คนไข้อาจจะต้องการการรักษาที่ห้องฉุกเฉินหรือโรงพยาบาลในสถานการณ์เหล่านี้ หลังจากนั้นอาการก็จะหายไป และสามารถกลับมาเป็นใหม่ได้ใน 2-3 สัปดาห์หรือหลายเดือน
อาการผิดปกติจะมีผลกับคนไข้ไปหลายเดือน หลายปี หรือเป็นสิบปี อาการของภาวะที่ทำให้มีอาการอาเจียนเรื้อรังจะมีอาการคล้ายคลึงกับครั้งก่อน หมายความว่าสถานการณ์มีแนวโน้มที่จะเริ่มในเวลาเดียวกันในแต่ละวัน และสิ้นสุดในช่วงเวลาเดียวกันและเกิดอาการเดียวกันและระดับความรุนแรงเดียวกัน
ภาวะอาเจียนเรื้อรัง พบบ่อยแค่ไหน
ภาวะอาการอาเจียนเรื้อรัง สามารถเกิดขึ้นในทุกช่วงวัย แต่มักจะเกิดบ่อยในเด็กช่วงอายุ 3-7 ขวบ แต่ก็มีคนไข้จำนวนมากที่เป็นผู้ใหญ่ที่วินิจฉัยว่ามีอาการนี้เพิ่มขึ้น ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อข้อมูลเพิ่มเติม
อาการของ ภาวะอาเจียนเรื้อรัง คืออะไร
อาการโดยทั่วไปของภาวะอาเจียนเรื้อรังคือ
- อาเจียนรุนแรงหลายครั้งเป็นชั่วโมง และอาเจียนต่อเนื่องหลายชั่วโมงหลายวัน แต่สิ้นสุดภายใน 1 สัปดาห์
- มีช่วงของการอาเจียน 3 ช่วงหรือมากกว่าโดยไม่ทราบสาเหตุในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หรือมีช่วงของการอาเจียน 5 ช่วงหรือมากกว่าเวลาไหนก็ตาม
- คลื่นไส้อย่างรุนแรง
- เหงื่อออกมาก
รู้อาการ
สัญญาณ และอาการระหว่างช่วงที่อาเจียนนั้นรวมถึง
หากคุณมีอาการนอกเหนือจากที่กล่าวมาจากด้านบน หรือมีความกังวลเกี่ยวกับอาการ ควรปรึกษาแพทย์
ควรจะพบหมอเมื่อใด
หากคุณมีสัญญาณหรืออาการตามที่กล่าวมาข้างต้น หรือมีคำถาม ให้ปรึกษาแพทย์ เพราะแต่ละคนจะมีปฏิกิริยาแตกต่างกัน ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ของคุณ
รู้สาเหตุ
โดยปกติแล้วเรามักไม่ทราบสาเหตุของ ภาวะอาเจียนเรื้อรัง อย่างชัดเจน แต่สาเหตุที่เป็นไปได้รวมถึงพันธุกรรม ความผิดปกติในระบบย่อยอาหาร ปัญหาของระบบประสาท ความไม่สมดุลของฮอร์โมน การอาเจียนสามารถกระตุ้นได้โดย
- การเป็นไข้ การแพ้หรือปัญหาโรคไซนัส
- ความเครียดทางด้านอารมณ์ หรือ ความตื่นเต้นโดยเฉพาะในเด็ก
- ความกังวลหรือความตื่นตระหนก โดยเฉพาะในผู้ใหญ่
- อาหาร เช่น คาเฟอีน ช็อคโกแลต หรือชีส
- การรับประทานอาหารมากเกินไป การรับประทานทันทีก่อนนอนหรือการอดอาหาร
- อากาศร้อน
- ความเหนื่อยอ่อนของร่างกาย
- การออกกำลังกายมากเกินไป
- การมีประจำเดือน
- ภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหว
รู้ถึงปัจจัยเสี่ยง
ความสัมพันธ์ระหว่างไมเกรนกับภาวะอาเจียนเรื้อรังไม่ชัดเจน แต่เด็กจำนวนมากที่เป็นภาวะที่ทำให้มีอาการอาเจียนเรื้อรังนี้จะมีประวัติครอบครัวเป็นโรคไมเกรนหรือเป็นโรคไมเกรนเองเมื่อเขาโตขึ้น ในผู้ใหญ่ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะที่ทำให้มีอาการอาเจียนเรื้อรังกับไมเกรน จะต่ำกว่าเด็ก
การใช้กัญชา (Marijuana) อย่างต่อเนื่องมีความสัมพันธ์กับภาวะที่ทำให้มีอาการอาเจียนเรื้อรัง เพราะบางคนใช้กัญชาในการรักษาอาการ อย่างไรก็ตามกัญชาสามารถทำให้เกิดอาการที่เรียกว่าการอาเจียนจากการใช้กัญชาอย่างหนัก ซึ่งทำให้เกิดการอาเจียนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สามารถแยกช่วงเวลาที่อาเจียนเพราะการใช้กัญชากับอาเจียนได้ คนที่เป็นโรคนี้จะมีพฤติกรรมอาบน้ำบ่อย
การอาเจียนจากการใช้กัญชาอย่างหนักอาจจะมีอาการคล้ายกับภาวะที่ทำให้มีอาการอาเจียนเรื้อรังจึงทำให้สับสนได้ เพื่อจัดการกับการอาเจียนจากการใช้กัญชาอย่างหนัก ให้หยุดการใช้กัญชาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์เพื่อดูอาการอาเจียน หากยังไม่ดีขึ้น แพทย์จะทดสอบว่ามีอาการภาวะที่ทำให้มีอาการอาเจียนเรื้อรังหรือไม่
เข้าใจการวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลที่ให้นี้ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์เสมอเพื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติม
ภาวะอาเจียนเรื้อรังวินิจฉัยอย่างไร
จะมีการทดสอบอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นภาวะที่ทำให้มีอาการอาเจียนเรื้อรังหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลสุขภาพจะจัดการกับสถานะอื่นๆ และวินิจฉัยอาการตาม
- ประวัติทางการแพทย์และประวัติครอบครัว
- การทดสอบทางกายภาพ
- แพทเทิร์นหรือวงจรของอาการ
- การตรวจเลือด
- การตรวจปัสสาวะ
- การตรวจภาพ
- การส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารส่วนบน
- การทดสอบเวลาที่อาหารเคลื่อนผ่านกระเพาะจนหมด
บ่อยครั้ง หนึ่งในปัจจัยต่างๆ เหล่านี้อาจเป็นสาเหตุจากอาการอาเจียนเรื้อรังก็ได้
- กล้ามเนื้อกระเพาะทำงานน้อยลง ความผิดปกติที่การเคลื่อนไหวของอาหารจากกระเพาะไปยังลำไส้เล็กช้าลงหรือหยุดลง
- กระเพาะและลำไส้อักเสบ การอักเสบที่ปลายกระเพราะอาหาร ลำไส้เล็กและ ลำไส้ใหญ่
การวินิจฉัยภาวะอาเจียนเรื้อรังอาจจะทำได้ยากจนกว่าคนไข้จะไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
ภาวะอาเจียนเรื้อรังจะรักษาได้อย่างไร
ไม่มีวิธีรักษาสำหรับภาวะอาเจียนเรื้อรัง แม้ว่าเด็กๆ จะไม่อาเจียนแล้วจนเขาโต สำหรับคนที่เคยมีภาวะอาเจียนเรื้อรัง การรักษาให้มุ่งเน้นที่การควบคุมสัญญาณและอาการ คุณหมออาจจะสั่งยาเหล่านี้ให้
- ยาแก้คลื่นไส้
- ยาบรรเทาอาการปวด
- ยาลดกรด
- ยาต้านเศร้า
- ยากันชัก
ยาประเภทเดียวกัน ที่ใช้สำหรับไมเกรนบางครั้งจะหยุดหรือป้องกันอาการของภาวะที่ทำให้อาการอาเจียนเรื้อรังได้ เป็นนาที่แนะนำสำหรับคนที่เกิดอาการเหล่านี้บ่อยๆ และเป็นเวลานาน หรือคนที่ครอบครัวเป็นไมเกรน และอาจต้องมีการให้สารน้ำ (Hypodermoclysis หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Clysis) เพื่อป้องกันการขาดน้ำ การรักษาเฉพาะบุคคลนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะของอาการเช่นเดียวกับอาการแทรกซ้อน
การรักษาทางเลือกและทางเสริมอาจจะช่วยป้องกันอาการอาเจียนได้ แม้ว่าจะไม่มีผลการศึกษาอย่างแน่ชัด แต่การรักษาเหล่านี้ก็ช่วยได้
- โคเอนไซม์ คิวเทน หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ยูบิควิโนน (Ubiquinone) เป็นสารที่ธรรมชาติสร้างขึ้นในร่างกายเพื่อเป็นอาหารเสริม โคเอนไซม์คิวเทนช่วยเสริมสร้างหน้าที่พื้นฐานของเซลล์
- แอลคาร์นิทิน สารธรรมชาติสร้างขึ้นในรางกายเป็นอาหารเสริม แอลคาร์นิทิน ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน
แอลคาร์นิทินและโคเอนไซม์คิวเทน อาจจะทำงานโดยมีส่วนช่วยให้ร่างกายจัดการเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน
ควรมั่นใจว่าไปพบคุณหมอและทำการวินิจฉัย ภาวะอาเจียนเรื้อรังชัดเจนก่อนเริ่มรับอาหารเสริม เช็กกับแพทย์เสมอ ก่อนการรับอาหารเสริมเพื่อให้มั่นใจว่าได้รับปริมาณที่ปลอดภัยและอาหารเสริมนั้นจะไม่มีปฏิกิริยากับยาที่กำลังรับประทาน คนไข้บางคนจะมีผลข้างเคียงจากแอลคาร์นิทินและโอเอนไซม์คิวเทนซึ่งจะมีอาการคล้ายกับภาวะที่ทำให้อาการอาเจียนเรื้อรัง ได้แก่ คลื่นไส้ ท้องเสียและไม่อยากอาหาร
การเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตและการรักษาตัวที่บ้าน
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์อาจช่วยควบคุมสัญญาณและอาการของภาวะอาเจียนเรื้อรังได้ คนไข้ที่เป็นภาวะอาเจียนเรื้อรังจำเป็นต้องนอนหลับให้เพียงพอ เมื่อเริ่มอาเจียน จะช่วยได้หากนอนพักและนอนหลับในที่มืดและเงียบสงบ
เมื่ออาการอาเจียนหยุดลง จำเป็นต้องดื่มน้ำมากๆ บางคนจะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้รับประทานอาหารทันทีหลังจากหยุดอาเจียน แต่หากยังไม่อยากรับประทานอาหารทันที ให้ดื่มน้ำสะอาดแล้วค่อยรับประทานอาหาร
หากอาการอาเจียนถูกกระตุ้นโดยความเครียดหรือความตื่นเต้น ให้พยายามหยุดอาการเหล่านั้น ด้วยการลดความเครียดและทำตัวให้สงบ และรับประทานอาหารมื้อเล็กๆ ขนมที่มีคาร์โบไฮเดรตทุกวันแทนที่จะรับประทานมื้อใหญ่ 3 มื้ออาจจะช่วยได้
หากมีคำถามที่สงสัย โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmr]