การผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา คือการตัดเอาเนื้อเยื่อกระจกตาในส่วนที่มีปัญหาของผู้ป่วยออก แล้วแทนที่ด้วยกระจกตาของผู้บริจาคดวงตา เพื่อให้กลับมามองเห็นได้ปกติ และช่วยให้อาการของโรคที่กระจกตาหรือบาดแผลที่กระจกตาดีขึ้น
รู้เรื่องเบื้องต้น
การผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา คืออะไร
การผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา (Cornea Transplant) คือการตัดเอาเนื้อเยื่อกระจกตาส่วนที่มีปัญหาของผู้ป่วยออก แล้วแทนที่ด้วยกระจกตาของผู้บริจาคดวงตา
กระจกตาเป็นชั้นเนื้อเยื่อใสส่วนหน้าสุดของลูกตา ทำหน้าที่เสมือนหน้าต่าง ช่วยให้จอประสาทตาสามารถโฟกัสแสงได้เป็นปกติ ก่อนส่งภาพที่ได้ไปแปลผลในสมองส่วนที่เกี่ยวข้องทำให้เรามองเห็นภาพต่างๆ ได้ชัดเจน
เมื่อกระจกตาถูกทำลาย ความโปร่งใสก็จะลดลง รูปร่างของกระจกตาเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้กระบวนการนำแสงไปสู่จอประสาทตาผิดปกติ ภาพที่ถูกส่งไปแปลผลที่สมองจึงผิดรูปหรือไม่ชัดเจน จึงจำเป็นต้องผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเป็นปกติอีกครั้ง
ความจำเป็นของการ ผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา
สาเหตุที่ทำให้กระจกตาขุ่น และเสี่ยงต่อปัญหากระจกตาล้มเหลว ได้แก่
- แผลจากการติดเชื้อ เช่น กระจกตาอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อรา
- แผลจากขนตาทิ่มตา เนื่องจากขนตางอกยาวเข้าไปในตา เมื่อขยี้ตาอาจทำให้เกิดแผลที่กระจกตาได้
- โรคทางพันธุกรรม เช่น Fuchs’ corneal dystrophy (ความผิดปกติของเซลล์ชั้นในสุดของกระจกตา)
- โรคตาบางชนิด เช่น โรคกระจกตาโป่งพองขั้นรุนแรง
- กระจกตาบางมากหรือผิดรูป
- ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อยจากการทำเลสิก
- กระจกตาได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุหรือสารเคมี
- กระจกตาบวมน้ำ
- ปฏิกิริยาต่อต้านจากการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาครั้งก่อน
- กระจกตาล้มเหลวจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการผ่าตัดต้อกระจก
การผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาช่วยลดความเจ็บปวด ทำให้อาการของโรคที่กระจกตาหรือบาดแผลที่กระจกตาดีขึ้น และสามารถทำให้การมองเห็นกลับมาดีดังเดิมได้
การผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ร่างกายปฏิเสธกระจกตาใหม่ที่ได้รับจากผู้บริจาค ซึ่งถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ไม่บ่อยนัก
ความเสี่ยงที่ควรรู้
ความเสี่ยงของการ ผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา
การปลูกถ่ายกระจกตาเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น
- การติดเชื้อที่ตา
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดต้อกระจก
- ความดันภายในลูกตาเพิ่มขึ้น
- เกิดปัญหากับไหมที่ใช้เย็บกระจกตาของผู้บริจาค
- ภาวะปฏิเสธสิ่งปลูกถ่าย (กระจกตา) ของผู้บริจาค
- ภาวะกระจกตาบวม
ในบางกรณีที่ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ ร่างกายอาจปฏิเสธกระจกตาใหม่จากผู้บริจาค ถือเป็นภาวะที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ หรือต้องทำการปลูกถ่ายกระจกตาใหม่อีกครั้ง
ควรนัดหมายกับจักษุแพทย์หากคุณสังเกตเห็นอาการปฏิเสธสิ่งปลูกถ่าย เช่น
- สูญเสียการมองเห็น
- มีอาการเจ็บปวด
- มีรอยแดง
- มีปฏิกิริยาไวต่อแสง หรือแพ้แสง
การปฏิเสธสิ่งปลูกถ่ายเกิดขึ้นได้ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของการปลูกถ่ายกระจกตา
ก่อนที่จะตัดสินใจผ่าตัด ควรทำความความเข้าใจต่อความเสี่ยงและอาการแทรกซ้อน หากคุณมีข้อสงสัย กรุณาปรึกษาแพทย์หรือศัลยแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
แนวทางปฏิบัติตัว
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา
ก่อนการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา คุณจำเป็นต้องผ่านการทดสอบต่างๆ ดังต่อไปนี้
- การตรวจประเมินสภาพตา จักษุแพทย์จะเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับภาวะโรคหรือภาวะอันตราย ซึ่งอาจกลายเป็นสาเหตุของภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดได้
- การวัดขนาดของกระจกตา จักษุแพทย์จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าลูกตาของคุณเหมาะกับกระจกตาขนาดใด
- การซักประวัติยาและอาหารเสริม หากคุณรับประทานยาหรืออาหารเสริมใดอยู่ แพทย์อาจสั่งให้หยุดรับประทานยาพวกนั้นก่อนและหลังเข้ารับการผ่าตัด
- การรักษาโรคตาอื่นๆ โรคตาบางชนิด เช่น อาการอักเสบหรือติดเชื้อ อาจมีส่วนทำให้ผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาไม่สำเร็จ จักษุแพทย์จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้ดีก่อนทำการการผ่าตัด
ขั้นตอนการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา
วิสัญญีแพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึกแก่ผู้ป่วย โดยปกติแล้ว การผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาจะใช้เวลาการผ่าตัดประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ศัลยแพทย์จะนำกระจกตาที่มีปัญหาออก แล้วแทนที่ด้วยกระจกตาใหม่จากผู้บริจาค โดยศัลยแพทย์อาจปลูกถ่ายกระจกตาทั้งชิ้น หรือเลือกที่จะปลูกถ่ายเฉพาะด้านนอกหรือด้านในก็ได้ หลังจากนั้นจะทำการเย็บปิดเพื่อยึดกระจกตาใหม่ให้เข้าที่
หากคุณมีข้อสงสัยหรือความกังวลใดๆ กรุณาปรึกษาแพทย์หรือศัลยแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การพักฟื้น
หลังจากผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา
คุณไม่ต้องกังวลว่าร่างกายจะปฏิเสธสิ่งปลูกถ่าย เพราะโอกาสที่จะเกิดขึ้นมีน้อยมากๆ แพทย์มักเอ่ยว่า “กระจกตาเป็นส่วนที่ไม่มีการรบกวนจากภูมิคุ้มกันบริเวณดวงตา’ ซึ่งก็หมายความว่า โอกาสที่ลูกตาจะปฏิเสธเนื้อเยื่อแปลกปลอมนั้นมีน้อยมาก แต่เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น แพทย์จะสั่งจ่ายยาหยอดตาประเภทสเตียรอยด์ให้ผู้ป่วย หากทำการปลูกถ่ายกระจกตาเฉพาะด้านนอก โอกาสที่ร่างกายจะปฎิเสธสิ่งปลูกถ่ายก็มีน้อยมาก
ความเสี่ยงหลังผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา
โอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนนั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนชั้นของกระจกตาที่ปลูกถ่าย โดยภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น
- อาการเลือดออก (กรณีนี้เกิดขึ้นค่อนข้างน้อย)
- เกิดแผลที่กระจกตา
- เกิดต้อกระจก จอประสาทตาหลุดลอก และเกิดความเสียหายกับส่วนอื่นๆของดวงตา
- มีน้ำซึมจากแผลปลูกถ่ายกระจกตา
- การติดเชื้อ (กรณีนี้เกิดขึ้นค่อนข้างน้อย)
- มีปัญหาในการมอง การปลูกถ่ายแบบ Full Thickness มักจะทำให้เกิดภาวะสายตาเอียง สายตาสั้น และสายตายาวได้ หากเกิดภาวะเหล่านี้หลังผ่าตัด คุณอาจต้องสวมแว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
หลังจากผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาไปแล้ว อาจเกิดปัญหาที่ทำให้กระจกตาเสียหายได้อีก เช่น การติดเชื้อ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ วินิจฉัยหรือการรักษาแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]