สุขภาพ

สุขภาพ เป็นเรื่องสำคัญ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้นไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยคุณได้แน่นอน

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพ

โรคไวรัสตับอักเสบบี คือโรคอะไร ใครควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

โรคไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี และอี โดยไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เป็นชนิดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงยาที่ช่วยไม่ให้ตับถูกทำลาย โรคไวรัสตับอักเสบบี จึงเป็นโรคที่ควรตรวจคัดกรองเพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็ว และป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี  [embed-health-tool-vaccination-tool] โรคไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร ไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคตับอักเสบชนิดหนึ่ง หรือเกิดจากการอักเสบของเซลล์ตับ สาเหตุจากการ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) อาจทำให้เซลล์ตับตาย ความรุนแรงของโรคไวรัสตับอักเสบ บี เมื่อเป็นเรื้อรังจะเกิดพังผืด อาจกลายเป็นตับแข็ง นำสู่โรคมะเร็งตับได้  การติดต่อของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี  ส่วนใหญ่การติดต่อของโรคเกิดจากการถ่ายทอดจากแม่ที่ติดเชื้อสู่ทารก ไม่ติดต่อผ่านทางการสัมผัสภายนอก ไม่ติดต่อหลักทางน้ำลาย แต่ติดต่อได้ ดังนี้ สามารถเกิดได้จากการเจาะหรือสักผิวหนัง ด้วยเครื่องมือที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน เชื้อเข้าทางบาดแผล หรือการใช้ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน  สัมผัสกับเลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อ อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสตับอักเสบบีจะไม่แสดงอาการในทันที แต่จะใช้เวลาฟักตัว 2-3 เดือน จึงเริ่มมีอาการ เช่น เกิดการอ่อนเพลียคล้ายกับโรคหวัด คลื่นไส้ อาเจียน จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต  สีปัสสาวะเข้มขึ้น […]

หมวดหมู่ สุขภาพ เพิ่มเติม

ประกันสุขภาพ

สำรวจ สุขภาพ

ขั้นตอนทางการแพทย์และการผ่าตัด

ปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone Marrow Transplantation) หรือ ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด

การ ปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone Marrow Transplantation) หรือการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Transplantation) เป็นวิธีรักษาผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติของเซลล์ไขกระดูก ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในการสร้างเม็ดเลือด และเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน ข้อมูลพื้นฐานการ ปลูกถ่ายไขกระดูก คืออะไร การปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone Marrow Transplantation) หรือการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Transplantation) คือ หัตถการในการแทนที่ไขกระดูกที่เสียหายหรือถูกทำลายโดยโรค การติดเชื้อ หรือการทำเคมีบำบัด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด หรือสเต็มเซลล์ (Stem Cell) ซึ่งเป็นเซลล์ตัวอ่อนของเลือดที่อาศัยอยู่ในไขกระดูก และจะเจริญเติบโตเป็นเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด ที่ไหลวนอยู่ในร่างกาย รวมถึงมีส่วนในการสร้างไขกระดูกใหม่ด้วย การปลูกถ่ายไขกระดูกมีด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ การปลูกถ่ายไขกระดูกโดยใช้กระดูกของตนเอง (Autologous Bone Marrow Transplantation) โดยต้องใช้ไขกระดูกของผู้ป่วยที่เก็บไว้ตั้งแต่ก่อนเข้ารับเคมีบำบัดหรือฉายรังสี โดยผู้เชี่ยวชาญจะปลูกถ่ายไขกระดูกที่เก็บไว้กลับคืนเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการรักษาดังกล่าวแล้ว แต่วิธีนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยมีไขกระดูกที่สมบูรณ์ดีเท่านั้น การปลูกถ่ายไขกระดูกโดยใช้ไขกระดูกของผู้บริจาค (Allogeneic Bone Marrow Transplantation) โดยผู้บริจาคจะต้องมีลักษณะทางพันธุกรรมที่ตรงกับผู้ป่วย วิธีนี้มีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนได้มากกว่า เช่น ภาวะสเต็มเซลล์ใหม่ต้านร่างกายผู้ป่วย และคุณอาจต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกันเพื่อให้ร่างกายไม่ทำลายเซลล์ใหม่ แต่ยาก็อาจทำให้คุณติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น ความจำเป็นในการ ปลูกถ่ายไขกระดูก ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการปลูกถ่ายไขกระดูกเมื่อไขกระดูกในร่างกายไม่แข็งแรง และทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ให้น้ำเกลือ สำคัญอย่างไร ทำไมถึงจำเป็นต้องให้น้ำเกลือ

ให้น้ำเกลือ หรือการใช้สารละลายโซเดียมคลอไรด์  (Sodium Chloride: NaCl) เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่พบเห็นได้บ่อย โดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะขาดน้ำ ท้องเสียรุนแรง อาเจียน รวมไปถึงสูญเสียเลือด เพื่อช่วยทดแทนน้ำที่ร่างกายเสียไป อย่างไรก็ตาม ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ [embed-health-tool-bmi] ทำไมคุณหมอจึงต้อง ให้น้ำเกลือ น้ำเกลือ มีส่วนผสมของโซเดียมคลอไรด์  (Sodium Chloride: NaCl)  ถูกใช้เป็นวัตถุดิบหลักทางการแพทย์มานานกว่า 150 ปี เมื่อเวลาเราป่วยเข้าโรงพยาบาล แพทย์จะให้ น้ำเกลือ เนื่องจากมีความเข้มข้นใกล้เคียงกับเลือด เพื่อใช้ทดแทนน้ำที่ร่างกายได้เสียไป (ให้ผ่านเส้นเลือดดำ) จากภาวะขาดน้ำ ไข้ อาการท้องเสีย อาเจียน รวมถึงการเสียเลือดจากอุบัติเหตุต่างๆ  เป็นต้น จริงหรือไม่ เมื่อได้รับน้ำเกลือบ่อย ๆ จะทำให้ตัวบวม ความเชื่อที่ว่า การได้รับ น้ำเกลือ บ่อย ๆ ทำให้น้ำหนักขึ้น หรือตัวบวมนั้น ไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเพียงอาการระยะสั้น ๆ เท่านั้น น้ำเกลือจะถูกกำจัดออกจากร่างกายภายใน 24 ชม. ร่างกายจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการตัวบวม หรือพบว่าน้ำหนักขึ้นอย่างผิดปกติหลังจากได้รับน้ำเกลือ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องทันที […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

กัดเล็บบ่อยๆ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

พฤติกรรมการ กัดเล็บบ่อยๆ นั้นถือเป็นพฤติกรรมที่นอกจากจะทำให้ดูเสียบุคลิกภาพแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย เนื่องจากในชีวิตประจำวัน ทุกคนย่อมใช้มือในการหยิบจับสิ่งของหรือวัตถุต่างๆ ซึ่งของบางอย่างอาจจะมีเชื้อโรคแฝงตัวอยู่ ดังนั้นการกัดเล็บอาจเป็นการนำพาให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้น ทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำเรื่องเกี่ยวกับการกัดเล็บบ่อยๆ มาฝากกัน ทำไมคนเราถึงชอบ กัดเล็บบ่อยๆ นิสัยเป็นเรื่องที่ยากจะแก้ไข บางครั้งคนเรากัดเล็บเพราะกำลังรู้สึกประหม่า เบื่อ หรือบางที่คุณอาจจะไม่ได้สังเกตตัวเองจนไปทำเล็บที่ร้านแล้วถึงเห็นว่าเล็บสั้นเกินไป ไม่ว่าจะกัดเล็บเพราะกรณีใดๆ มันมีบางวิธีที่สามารถช่วยให้คุณหยุดกัดเล็บได้ สำหรับพฤติกรรมการกัดเล็บ (Nail Biting) ในทางการแพทย์เรียกพฤติกรรมประเภทนี้ว่า Chronic onychophagia ถือเป็นพฤติกรรมที่พบมากที่สุดในการบรรเทาความเครียดที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีนิสัยอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมดังกล่าว ได้แก่ การดูดนิ้วหัวแม่มือ การแคะจมูก การม้วนผม การกัดฟัน การหยิกผิว กัดเล็บบ่อยๆ ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร แน่นอนว่าการกัดเล็บนั้นไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน เพราะมือของเรานั้นต้องสัมผัสกับสิ่งของมากมายหลายอย่าง ซึ่งบางอย่างที่สัมผัสอาจจะมีเชื้อโรครวมอยู่ด้วย เชื้อโรคเหล่านี้สามารถเข้าไปติดในซอกเล็บของคุณได้ และเมื่อคุณกัดเล็บเชื้อโรคเหล่านั้นก็จะเข้าสู่ร่างกาย ก็สามารถนำมาสู่ผลเสียต่อสุขภาพหรือโรคต่างๆ เราลองมาดูกันว่า การกัดเล็บนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง เพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อที่ผิวหนัง Debra Jaliman แพทย์ผิวหนังจากกรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า การกัดเล็บสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียใต้เล็บ เช่น พาโรนีเคีย (Paronychia) ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแดง บวม และทำให้เล็บเต็มไปด้วยหนอง นอกจากนั้นยังทำให้การติดเชื้อในช่องปากได้ ซึ่งจำจะต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา อาจนำไปสู่โรคข้ออักเสบหรือความพิการ David Katz ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการป้องกันมหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า หากไม่สามารถควบคุมพาโรนีเคียหรือการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ได้ […]


การทดสอบทางการแพทย์

ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน การเตรียมพร้อมก่อนเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ไม่ควรมองข้าม

คุณผู้อ่านท่านใดมีข่าวดีเตรียมตัวลั่นระฆังวิวาห์บ้างคะ Hello คุณหมอ ขอแสดงความยินดีไว้ล่วงหน้าก่อนเลย ซึ่งโอกาสมงคลแบบนี้คู่รักหลายคู่ก็มักจะยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน หาฤกษ์งามยามดี ผูกดวงสมพงศ์ หรือกราบไหว้ผู้ใหญ่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพรให้การใช้ชีวิตคู่นั้นเป็นสิริมงคลและราบรื่น แต่เหนือสิ่งอื่นใด ต้องไม่ลืมว่าสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะคนทั้งสองคนจะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไปอีกนาน การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่คู่รักไม่ควรละเลย แต่ทำไมเราต้อง ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ? ตรวจแล้วจะได้อะไร ? แล้วต้องตรวจอะไรบ้าง ? ถ้าอยากรู้ล่ะก็มาติดตามกันได้ที่บทความนี้เลยค่ะ ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน คืออะไร การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน คือ การเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อเช็กสภาพความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจของคู่รักที่กำลังจะตกลงปลงใจแต่งงานและสร้างครอบครัวไปด้วยกัน ซึ่งกระบวนการในการตรวจจะไม่แตกต่างจากการตรวจสุขภาพโดยทั่วไปมากนัก การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานนี้เจึงป็นเสมือนคู่มือพื้นฐานสำหรับคู่รักเพื่อประกอบการตัดสินใจและวางแผนการใช้ชีวิตหลังแต่งงานได้ ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ต้องตรวจอะไรบ้าง โดยทั่วไปแล้ว การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน นั้นมักจะมีโปรแกรมการตรวจที่คล้ายๆ กัน แต่อาจจะมีความแตกต่างกันไปตามแพ็กเกจหรือโปรโมชั่นของสถานพยาบาลที่เลือกใช้บริการ ซึ่งปกติแล้วแพทย์จะทำการตรวจโดยมีโปรแกรมสำคัญๆ ดังนี้ การตรวจเลือด การตรวจเลือดก่อนตัดสินใจแต่งงานถือว่ามีความสำคัญ เพราะคู่รักจะสามารถทราบหมู่โลหิตของลูกที่จะเกิดมา ทราบความเสี่ยงทางพันธุกรรมที่อาจมาจากพ่อหรือแม่เป็นพาหะ รวมถึงทราบความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับเลือด เช่น โรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia) ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) ซึ่งทารกที่จะเกิดมาในอนาคตอาจมีภาวะเหล่านี้ได้ หากตรวจเลือดแล้วพบว่าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเป็นพาหะของโรค ตรวจภาวะการมีบุตรยาก เพื่อลดปัญหาการกล่าวโทษกันแบบที่อาจจะเห็นกันบ่อยๆ ทั้งในละครและชีวิตจริง ที่เมื่อเกิดปัญหาการไม่มีบุตรสักทีแล้วก็มักจะกล่าวโทษกันเองว่ากรรมพันธุ์ฉันดี กรรมพันธุ์เธอไม่ดี การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เพื่อหาภาวะการมีบุตรยากจะช่วยไขข้อข้องใจในกรณีนี้สำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตร รวมถึงสามารถที่จะหาทางออกในกรณีที่ต้องการจะมีบุตรได้อีกด้วย ตรวจพันธุกรรม การตรวจพันธุกรรมสามารถช่วยระบุความเสี่ยงที่จะส่งต่อไปยังทารกที่จะเกิดมาในอนาคตได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคซิสติก […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ภาวะถุงน้ำหลังหัวเข่า (Baker's Cyst)

ภาวะถุงน้ำหลังหัวเข่า  (Baker’s Cyst)  คือ อาการบวมบริเวณหัวเข่า ซึ่งเกิดจากถุงน้ำหรือมีก้อนของเหลวอยู่ภายในบริเวณหลังหัวเข่า ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกปวดบริเวณข้อเข่า น่อง เคลื่อนไหวลำบาก คำจำกัดความภาวะถุงน้ำหลังหัวเข่า (Baker’s Cyst) คืออะไร ภาวะถุงน้ำหลังหัวเข่า (Baker’s Cyst)  คือ อาการบวมบริเวณหัวเข่า ซึ่งเกิดจากถุงน้ำหรือมีก้อนของเหลวอยู่ภายในบริเวณหลังหัวเข่า ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกปวดบริเวณข้อเข่า น่อง เคลื่อนไหวลำบาก อย่างไรก็ตามภาวะถุงน้ำหลังหัวเข่าไม่ใช่โรคร้ายแรง ไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา สามารถหายไปเองได้ แต่หากผู้ป่วยมีอาการบวมมาก ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง พบได้บ่อยเพียงใด ภาวะถุงน้ำหลังหัวเข่าพบได้บ่อยในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป อาการอาการของภาวะถุงน้ำหลังหัวเข่า ผู้ป่วยที่อยู่ใน ภาวะถุงน้ำหลังหัวเข่าจะมีอาการแสดงออก ดังต่อไปนี้ อาการปวดเข่า ปวดน่อง เข่ามีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด เมื่อยืนเปรียบเทียบกับอีกข้าง มีถุงน้ำหรือก้อนนิ่มๆขึ้นชัดเจนบริเวณหัวเข่า อาการช้ำที่เข่า และน่อง ถุงน้ำบริเวณหัวเข่าแตก เคลื่อนไหวลำบาก งอเข่าได้ไม่เต็มที่ ควรไปพบหมอเมื่อใด หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใดๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ สาเหตุสาเหตุของภาวะถุงน้ำหลังหัวเข่า ภาวะถุงน้ำหลังหัวเข่าเกิดจากปริมาณน้ำไขข้อที่ไหลเวียนผ่านโพรงข้อเข่ามากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ เมื่อหัวเข่าผลิตน้ำมาจนเกิดไปทำให้เข่าเกิดเป็นก้อนบวมนูนขึ้นมา รวมถึงสาเหตุอื่นๆ ดังนี้ กระดูกข้อหัวเข่าเกิดความเสียหาย โรคข้ออักเสบที่หัวเข่า โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ การบาดเจ็บที่หัวเข่า เช่น กระดูกอ่อนฉีก ความผิดปกติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวเข่า การวินิจฉัยและการรักษาข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การวินิจฉัยภาวะถุงน้ำหลังหัวเข่า ในเบื้องต้นแพทย์จะทำการสอบถามประวัติและตรวจร่างกายดูอาการ โดยแพทย์อาจเปรียบเทียบกับเข่าอีกข้างเพื่อดูความแตกต่าง  นอกจากนี้แพทย์อาจตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging : MRI) หรือการอัลตราซาวด์ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

นิ้วเปื่อย (Pruney Fingers) สาเหตุ อาการ และการรักษา

ผิวหนังบนนิ้วมืออาจเกิดรอยย่นขึ้นได้ เมื่อแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “นิ้วเปื่อย” นอกจากนั้นการจับวัตถุที่เปียกหรือจับวัตถุต่าง ๆ ในน้ำก็สามารถทำให้นิ้วเปื่อยได้ [embed-health-tool-heart-rate] คำจำกัดความ นิ้วเปื่อย (Pruney Fingers) คืออะไร ผิวหนังบนนิ้วมืออาจเกิดรอยย่นขึ้นได้ เมื่อแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “นิ้วเปื่อย” นอกจากนั้นการจับวัตถุที่เปียกหรือจับวัตถุต่าง ๆ ในน้ำก็สามารถทำให้นิ้วเปื่อยได้ แต่ถ้าหากนิ้วมือเปื่อยนั้นเกิดขึ้นโดยที่ไม่ได้โดนน้ำเลยแม้แต่น้อย มันอาจจะเป็นสัญญาณของปัญหาทางการแพทย์ก็ได้ ผิวหนังบนนิ้วมือและนิ้วเท้าของมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ผิวหนังเรียบไม่มีขน (Glabrous) แต่เมื่อนิ้วมือหรือนิ้วเท้าสัมผัสกับน้ำเป็นเวลานาน จะส่งผลให้ผิวหนังที่เรียบและไม่มีขนนั้นมีลักษณะเหมือนลูกพรุน โดยคนส่วนใหญ่จะพบเจอนิ้วเปื่อยได้บ่อย ๆ จากการอาบน้ำนาน ๆ ว่ายน้ำ หรือล้างจาน ซึ่งมันมักจะเกิดขึ้นจากน้ำอุ่นมากกว่าน้ำเย็น นิ้วเปื่อย พบบ่อยเพียงใด โดยปกติแล้วนิ้วเปื่อยจะพบได้บ่อย เมื่อคุณอาบน้ำเป็นเวลานานๆ หรือใช้เวลาในสระว่ายน้ำเป็นเวลานาน ๆ แต่บางครั้งนิ้วเปื่อยก็อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นจากน้ำเพียงอย่างเดียว มันอาจเกิดขึ้นได้จากอาการของปัญหาทางการแพทย์ ควรไปพบหมอเมื่อใด นิ้วเปื่อยที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสน้ำไม่มีอะไรที่ต้องกังวล เพราะมันสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้หลังจากที่แห้งแล้ว บุคคลที่มีอาการนิ้วเปื่อยโดยที่ไม่ได้เกิดจากน้ำ แต่ไม่มีอาการอื่น ๆ ที่มองเห็นได้ชัดเจน อาจจะเกิดจากภาวะขาดน้ำที่ยังไม่รุนแรง ซึ่งทุกคนที่ประสบภาวะขาดน้ำควรดื่มน้ำให้มากขึ้น หากบุคคลดื่มน้ำเพียงพอ แต่ยังมีอาการนิ้วเปื่อย มันอาจเป็นภาวะทางการแพทย์ ใครก็ตามที่มีอาการนิ้วเปื่อยบ่อย ๆ จนเกิดความกังวล คุณสามารถไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ นอกจากนั้นการจดบันทึกอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และตัวกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดอาการนิ้วเปื่อยได้นั้น สามารถช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการได้ดีขึ้น หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ออกซิเจนบำบัด แคปซูลแห่งอากาศบริสุทธิ์ กับข้อเท็จจริงที่คุณควรรู้

เนื่องจากสภาพแวดล้อมรอบข้างที่เรากำลังเผชิญในปัจจุบันอาจมีมลพิษมาจากฝุ่นละอองต่าง ๆ เข้าไปยังสู่ระบบทางเดินหายใจ จนอาจทำให้คุณนำไปสู่อาการภูมิแพ้ และการล้มป่วยได้ วันนี้ Hello คุณหมอ จึงขอนำนวัตกรรมใหม่ของทางการแพทย์ นั่นก็คือ ออกซิเจนบำบัด ซึ่งเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเพิ่มอากาศบริสุทธิ์เข้าไปยังช่องปอด มาฝากทุกคน ให้ได้ลองทำการพิจารณาก่อนตัดสินใจลองหันไปใช้บริการกันค่ะ ออกซิเจนบำบัด คืออะไร ออกซิเจนบำบัด (Hyperbaric oxygen therapy) คือ เทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์ สมัยก่อนนั้นการทำออกซิเจนบำบัดมักนิยมนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดยจะอาศัยการเพิ่มระดับแรงดันในอากาศตามความเหมาะสมทางสภาวะสุขภาพของผู้ป่วยเข้าไปในแคปซูล หรือห้องบำบัดเฉพาะทาง เพื่อให้คุณนั้นได้สูดอากาศบริสุทธิ์ไปยังทางเดินหายใจ และนำไปหล่อเลี้ยงเม็ดเลือด เนื้อเยื่อ หรือเซลล์ภายในร่างกายให้มีประสิทธิภาพ ที่สำคัญยังอาจเป็นการยับยั้ง ต่อสู้กับแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย โดยปกติแล้วอากาศที่เราสูดเข้า-ออกเป็นประจำทุกวันมักมีออกซิเจนอยู่เพียง 21% เท่านั้น แต่สำหรับการใช้ตัวช่วย หรือเทคนิคนี้เข้ามาเสริม ร่างกายของคุณอาจได้รับออกซิเจนเข้าไปได้ถึง 100% เลยทีเดียว ถึงอย่างไรการที่คุณจะเข้ารับการบำบัดจากนวัตกรรมนี้ ยังคงจำเป็นต้องผ่านการได้รับอนุญาตจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน เพื่อป้องกันอันตราย และผลข้างเคียงอื่น ๆ ทางสุขภาพตามมา การทำออกซิเจนบำบัดเหมาะสำหรับคนกลุ่มใด ปัจจุบัน การทำออกซิเจนบำบัด ได้ถูกการยอมรับโดยการลงมติอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration ; FDA) อย่างเป็นทางการสำหรับใช้รักษาผู้ป่วย หรือผู้ที่กำลังประสบกับสภาวะทางสุขภาพในบางรายเท่านั้น ดังนี้ โรคโลหิตจาง […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ถุงน้ำต่อมบาร์โธลินอักเสบ (Bartholin’s Gland Cyst)

หากคุณลองสังเกตตนเองว่าเริ่มมีการเคลื่อนไหวลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การนั่ง รวมทั้งเริ่มมีอาการเจ็บปวดเมื่อเผลอโดนเสียดสีบริเวณช่องคลอด ควรสำรวจอาการตนเอง และรีบเร่งทำการรักษา หรืออาจเข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอโดยด่วน เพราะคุณอาจมีความเสี่ยงเป็นโรค ถุงน้ำต่อมบาร์โธลินอักเสบ (Bartholin’s Gland Cyst) หรือ โรคฝีในอวัยวะเพศ ได้ คำจำกัดความถุงน้ำต่อมบาร์โธลินอักเสบ (Bartholin’s Gland Cyst) คืออะไร ถุงน้ำต่อมบาร์โธลินอักเสบ (Bartholin’s Gland Cyst) สามารถเรียกอีกชื่อได้ว่า โรคฝีในอวัยวะเพศ ซึ่งมักมีอยู่ในแต่ด้านของภายในช่องคลอด ที่มีหน้าที่ในการผลิตของเหลว หรือสารหล่อลื่นออกมา เพื่อป้องกัน และลดการเสียดสีของเนื้อเยื่อช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ แต่ขณะเดียวกันในระหว่างที่ผลิตน้ำหล่อเลี้ยงออกมานี้มากเกินไป ก็อาจให้เกิดการสะสมนำไปสู่การอุดตันภายในท่อ พร้อมทั้งยังอาจนำพาแบคทีเรียต่าง ๆ อย่าง Escherichia coli (E.coli) เข้าไปภายในจนเกิดการติดเชื้อ จนคุณรู้สึกเจ็บปวดช่องคลอดอย่างมาก ถุงน้ำต่อมบาร์โธลินอักเสบ สามารถพบบ่อยได้เพียงใด ถุงน้ำต่อมบาร์โธลินอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ ตั้งแต่อายุ 20-30 ปี นับไดว่าแทบจะเป็นอาการที่เกิดข้นได้ทุกช่วงของการเจริญเติบโตเลยทีเดียว อาการอาการของถุงน้ำต่อมบาร์โธลินอักเสบ หากถุงน้ำต่อมบาร์โธลินของคุณเกิดการติดเชื้อ อาจกลับกลายเป็นก้อนเนื้อที่นูนออกมาให้คุณสังเกตได้อย่างง่ายดาย และสามารถเติบโตได้ตั้งแต่ 0.2-1 นิ้ว ส่วนใหญ่แล้วหากผู้ที่อยู่ในภาวะติดเชื้อระดับต่ำ อาจไม่เผยอาการใด ๆ ออกมาให้คุณได้ทราบ แต่หากอยู่ในกรณีที่ติดเชื้อรุนแรง อาจทำให้คุณรับรู้ได้ถึงอาการที่ผิดปกติดังต่อไปนี้ รู้สึกเจ็บปวดบริเวณช่องคลอด พร้อมกับมีก้อนเนื้อ ช่องคลอดมีลักษณะเป็นสีแดง เคลื่อนไหวลำบาก เจ็บช่องคลอดในขณะมีเพศสัมพันธ์ ไข้ขึ้นสูง หนองภายในถุงน้ำต่อมบาร์โธลิน สาเหตุสาเหตุของการเกิดถุงน้ำต่อมบาร์โธลินอักเสบ ผู้ป่วยบางรายอาจมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการอุดตันของน้ำหล่อลื่นในถุงน้ำต่อมบาร์โธลิน อีกทั้งยังอาจมาจากการติดเชื้อระหว่างมีเพศสัมพันธ์ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

หุ่นทรงนาฬิกาทราย ออกกำลังกายและกินอาหารแบบไหนถึงจะดี

หุ่นของคนเรานั้นสามารถที่จะจำแนกออกมาได้หลายประเภท ซึ่งหุ่นโดยทั่วไปที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ได้แก่ หุ่นทรงลูกแพร์ หุ่นทรงแอปเปิ้ล หุ่นทรงสามเหลี่ยมคว่ำ (Inverted Triangle) หุ่นทรงนาฬิกาทราย (Hourglass) และหุ่นทรงกระบอก โดยหุ่นที่แตกต่างกันนี้ ก็อาจจะต้องมีวิธีดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายที่ต่างกันเพื่อให้เหมาะสมกับรูปร่างแต่ละแบบที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาคุณผู้อ่านทุกท่านมารู้จักกับวิธีดูแลตัวเอง หากคุณเป็นคนที่มีหุ่นทรงนาฬิกาทราย [embed-health-tool-bmr] หุ่นทรงนาฬิกาทราย เป็นอย่างไร หุ่นแบบนาฬิกาทราย เป็นหุ่นที่ผสมผสานกันระหว่างหุ่นทรงสามเหลี่ยมคว่ำกับหุ่นทรงสามเหลี่ยม กล่าวคือหุ่นทรงนาฬิกาทรายจะเป็นโครงสร้างทางร่างกายที่ช่วงบนกับช่วงล่างมีขนาดเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน และมีช่วงเอวที่เล็ก จัดว่าเป็นหุ่นในฝันของใครหลายๆ คน นับได้ว่าหุ่นทรงนาฬิกาทรายเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์เพราะมีความสมส่วนกันทั้งช่วงบนและช่วงล่างอย่างลงตัว ดารา นักแสดง นางแบบ และคนดังหลายคนก็มักจะมีหุ่นทรงนาฬิกาทราย ความเสี่ยงต่อสุขภาพของคนที่มี หุ่นทรงนาฬิกาทราย หุ่นแบบนาฬิกาทรายจะมีความต่างจากหุ่นประเภทอื่นๆ ในเรื่องของการเก็บไขมัน อย่างหุ่นทรงลูกแพร์ ร่างกายมักจะเก็บไขมันไปไว้ที่ส่วนล่างจึงทำให้ช่วงล่างดูใหญ่ ขณะที่หุ่นทรงแอปเปิ้ลนั้นจะมีช่วงบนและช่วงลำตัวที่ดูใหญ่ แต่ว่าสำหรับหุ่นทรงนาฬิกาทราย ซึ่งเป็นรูปร่างที่ค่อนข้างมีสัดส่วนที่สมบูรณ์ การเก็บไขมันและการเพิ่มน้ำหนักจึงค่อนข้างจะเกิดขึ้นได้ยาก อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีน้ำหนักเกินมาตรฐานค่าเฉลี่ยก็จะมีความเสี่ยงสุขภาพตามมาได้เช่นกัน หุ่นทรงนาฬิกาทรายควรกินอาหารแบบไหน   หุ่นทรงนาฬิกาทรายนั้นถือว่าเป็นหุ่นในอุดมคติของสาวๆ หลายคน การมีช่วงบนคือบ่า ไหล่ หน้าอก และช่วงล่างคือสะโพก ต้นขา ใกล้เคียงกัน และมีเอวเล็กคอด ทำให้ดูสมส่วน ใส่อะไรก็สวยงามชวนมอง แต่ถึงอย่างนั้นคนที่มีหุ่นทรงนาฬิกาทรายก็มีข้อควรระวังในเรื่องของการกินอาหารอยู่เหมือนกัน แม้จะมีโครงสร้างที่ค่อนข้างสมส่วน แต่ก็ต้องไม่ปล่อยปละละเลยตนเอง ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แคลอรี่น้อย ไขมันต่ำ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เทคนิคการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงเร็วขึ้น

หลังจากผ่านพ้นกระบวนการผ่าตัดมาแล้ว ผู้ป่วยหลายคนที่พักรักษาตัวก็อาจจะมีความสนใจและใคร่รู้ในเรื่องเกี่ยวกับ สิ่งที่ควรปฏิบัติ และเทคนิคในการดูแลตัวเอง เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังจากการผ่าตัด วันนี้ Hello คุณหมอ จะมานำเสนอ เทคนิคการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย ให้กลับมาแข็งแรงได้เร็วยิ่งขึ้น เทคนิคการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ที่คุณควรปฏิบัติ ทำตามคำแนะนำของแพทย์เสมอ สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ควรทำหลังจากการผ่าตัด คือการทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด แม้ว่าในบางครั้ง คำแนะนำที่คุณได้รับ คุณอาจจะรู้สึกว่าไม่สำคัญ เช่น ห้ามอาบน้ำ หรือห้ามว่ายน้ำหลังจากการผ่าตัด เพราะคำแนะนำที่ดูเหมือนจะไม่สำคัญเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ก็มีเหตุผลสำคัญอยู่ทั้งสิ้น คำแนะนำเหล่านี้อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยให้แผลของคุณสามารถฟื้นฟูได้ดีขึ้น หรือป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากับบาดแผลหลังการผ่าตัดได้ คอยสังเกตดูบริเวณแผลผ่าตัด หลังจากการผ่าตัดแล้ว ผู้ป่วยควรคอยเฝ้าสังเกตแผลผ่าตัดอยู่เป็นประจำ เพื่อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไร หรือเกิดความผิดปกติ เช่น มีหนอง สีผิวเปลี่ยน หรือแผลปริหรือไม่ เพราะการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนและการติดเชื้อหลังจากการผ่าตัดได้ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ดูแลให้ดี อาจทำให้อาการติดเชื้อลุกลาม แล้วเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ รับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ จะเป็นวิธีการง่ายๆ ที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเองให้แข็งแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังการผ่าตัด ที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้โปรตีนและสารอาหารอื่นๆ ในปริมาณมาก เพื่อช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูบริเวณบาดแผลผ่าตัด นอกจากนี้ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดมามักจะมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนในช่วงพักฟื้นหลังการผ่าตัด เนื่องจากผลข้างเคียงของยาและการรักษา การดื่มน้ำและรับประทานอาหารบางอย่าง เช่น มะนาว หรือขิง จะสามารถช่วยลดอาการข้างเคียงเหล่านี้ได้เช่นกัน ระมัดระวังเวลาไอและจาม โดยปกตินั้น ในช่วงระหว่างการไอและการจามนั้นจะทำให้คุณต้องออกแรงเกร็งกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงในเวลาอันรวดเร็ว และหากไม่ระมัดระวังอาจทำให้แผลฉีกเปิด และมีเลือดไหล แถมยังทำให้แผลหายช้าขึ้นอีกด้วย สิ่งที่ควรทำหากคุณจะจามหรือไอหลังจากการผ่าตัด คือการกดบริเวณแผลเอาไว้ โดยอาจใช้มือ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน