สุขภาพ

สุขภาพ เป็นเรื่องสำคัญ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้นไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยคุณได้แน่นอน

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพ

โรคไวรัสตับอักเสบบี คือโรคอะไร ใครควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

โรคไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี และอี โดยไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เป็นชนิดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงยาที่ช่วยไม่ให้ตับถูกทำลาย โรคไวรัสตับอักเสบบี จึงเป็นโรคที่ควรตรวจคัดกรองเพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็ว และป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี  [embed-health-tool-vaccination-tool] โรคไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร ไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคตับอักเสบชนิดหนึ่ง หรือเกิดจากการอักเสบของเซลล์ตับ สาเหตุจากการ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) อาจทำให้เซลล์ตับตาย ความรุนแรงของโรคไวรัสตับอักเสบ บี เมื่อเป็นเรื้อรังจะเกิดพังผืด อาจกลายเป็นตับแข็ง นำสู่โรคมะเร็งตับได้  การติดต่อของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี  ส่วนใหญ่การติดต่อของโรคเกิดจากการถ่ายทอดจากแม่ที่ติดเชื้อสู่ทารก ไม่ติดต่อผ่านทางการสัมผัสภายนอก ไม่ติดต่อหลักทางน้ำลาย แต่ติดต่อได้ ดังนี้ สามารถเกิดได้จากการเจาะหรือสักผิวหนัง ด้วยเครื่องมือที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน เชื้อเข้าทางบาดแผล หรือการใช้ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน  สัมผัสกับเลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อ อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสตับอักเสบบีจะไม่แสดงอาการในทันที แต่จะใช้เวลาฟักตัว 2-3 เดือน จึงเริ่มมีอาการ เช่น เกิดการอ่อนเพลียคล้ายกับโรคหวัด คลื่นไส้ อาเจียน จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต  สีปัสสาวะเข้มขึ้น […]

หมวดหมู่ สุขภาพ เพิ่มเติม

ประกันสุขภาพ

สำรวจ สุขภาพ

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ปัญหาสุขภาพที่ควรระวัง เมื่อต้องออกกำลังกายใน ฟิตเนส

ฟิตเนส หรือยิม เป็นสถานที่สำหรับออกกำลังกาย ที่มีคนมากหน้าหลายตาเข้ามาใช้บริการ จึงอาจทำให้เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย  บทความนี้จึงชวนมาตรวจสอบดูว่ามีความเสี่ยงอะไรบ้าง ที่ต้องระวังเวลาไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส ข้อควรระวังเมื่อออกกำลังกายที่ฟิตเนส ติดเชื้อโรค เราไปออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี แต่คงไม่ดีแน่ ถ้าเรากลับมาป่วยเพราะได้รับเชื้อโรคจากสถานที่ออกกำลังกาย เชื้อโรคและแบคทีเรียนั้นมีอยู่ทุกที่ รวมถึงในฟิตเนสด้วย ไม่วาจะเป็นไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา เชื้อโรคเหล่านี้มักพบบ่อยในบริเวณที่เปียกชื้น เช่น ห้องอาบน้ำ ฝักบัว ริมสระว่ายน้ำ  เชื้อโรคเหล่านี้อาจเกิดจาก เหงื่อที่แห้งบนอุปกรณ์ต่างๆ จนเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น แบคทีเรียยังสามารถเติบโตได้ในเครื่องออกกำลังกายที่มีคราบเหงื่อติดอยู่ หรือในห้องล็อกเกอร์ เราสามารถป้องกันอันตรายจากเชื้อโรคต่างๆ ได้ด้วยการเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ และเครื่องออกกำลังกาย ทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย นอกจากนี้ ยังควรล้างมือบ่อยๆ และอาจสวมรองเท้าแตะเวลาอาบน้ำ เพราะการสวมรองเท้าแตะเวลาอาบน้ำในฟิตเนส จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย รวมถึงเชื้อราที่เล็บเท้าได้อีกทางหนึ่งด้วย อุปกรณ์ชำรุด คนมากกว่า 100 คน เข้ามาใช้อุปกรณ์ในฟิตเนสทุกวัน ซึ่งอาจทำให้อุปกรณ์ หรือเครื่องออกกำลังกายเกิดความเสียหาย จนทำให้เกิดอันตรายเวลาใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ ด้วยการทดลองใช้เครื่องออกกำลังกายก่อน และแจ้งให้พนักงานทราบ หากพบว่าอุปกรณ์ชำรุด หรือทำงานผิดปกติ นอกจากนี้ หากคุณสังเกตเห็นว่ามีอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพ เช่น สายเคเบิลหย่อนเกินไป และดูจะใช้งานไม่ได้ ให้หยุดใช้อุปกรณ์และแจ้งพนักงานทันที การออกกำลังกายที่ไม่เหมาะสม ออกกำลังกายผิดวิธี หรือใช้วิธีที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ผอมแต่มีพุง อาจเพิ่มความเสี่ยงสุขภาพโดยไม่รู้ตัว

ผอมแต่มีพุง เป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนกังวลใจ เช่น ไม่มั่นใจเวลาใส่เสื้อผ้า แต่ปัญหาของคนผอมที่มีพุงอาจไม่ใช่แค่การรูดซิปไม่ขึ้นเวลาใส่กางเกงยีนส์ เนื่องจากมีงานวิจัยที่ชี้ว่าไขมันในช่องท้องของเรานั้น สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ และทั้งคนผอมและคนอ้วนต่างก็มีไขมันในช่องท้องได้ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงสุขภาพโดยไม่รู้ตัว ผอมแต่มีพุง มีลักษณะเป็นอย่างไร ถ้าคุณกินมากกินไปและไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย มีแนวโน้มว่าจะทำให้มีไขมันสะสมในร่างกายมาก นอกจากนี้ อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคืออายุ เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง และมวลไขมันเพิ่มขึ้น ซึ่งการที่มวลกล้ามเนื้อลดลงสามารถทำให้ร่างกายเผาผลาญ แคลอรี่ น้อยลง จึงอาจทำให้มีไขมันสะสมในร่างกายมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงหลายคนมีแนวโน้มว่าจะมีไขมันหน้าท้องมากเมื่ออายุมากขึ้น แม้ว่าน้ำหนักจะไม่ได้ขึ้นก็ตาม เนื่องจากการลดลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่ส่งผลต่อ ไขมัน ในร่างกาย คุณอาจจะมีรูปร่างสมส่วน และมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ไม่เกิน 25 จึงไม่ถือว่ามีน้ำหนักเกินมาตรฐาน แต่กลับมีไขมันสะสมในช่องท้องมาก หรือมีพุง ซึ่งวิธีวัดว่ามี ไขมัน ในช่องท้องมากเกินไปหรือเปล่า สามารถทำได้ดังนี้ วัดรอบเอวด้วยสายวัด โดยยืนตัวตรงและพันสายวัดรอบเอว บริเวณเหนือสะโพก ดึงสายวัดให้พอดี โดยไม่ให้แน่นจนกดลงบนผิว ผ่อนคลาย หายใจออก และดูขนาดรอบเอว สำหรับผู้หญิง ถ้ามีขนาดรอบเอวมากกว่า 35 นิ้ว (89 เซนติเมตร) ถือว่ามี ไขมัน สะสมมากบริเวณหน้าท้อง ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ ผอมแต่มีพุง มีความเสี่ยงสุขภาพอย่างไรบ้าง เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด


ขั้นตอนทางการแพทย์และการผ่าตัด

นวัตกรรม การผ่าตัดต่อมทอนซิลโต อุดกั้นทางเดินหายใจในเด็ก

ในเด็กที่มีขนาดต่อมทอนซิลโตมากอาจทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก นอนกรน และอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้เด็กมีอาการอื่นๆตามมา เช่น ง่วงซึม สมาธิลดลง หรือก้าวร้าว พ่อแม่ของเด็กมักจะมาปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับบุตรหลานเนื่องจากต่อมทอนซิลโต หนึ่งในการรักษาที่ใช้กันทั่วไป คือ การผ่าตัดต่อมทอนซิลโต แต่เนื่องจากผลข้างเคียงจากการผ่าตัดที่มักเกิดขึ้น จึงมีการพัฒนานวัตกรรมการผ่าตัดแบบใหม่ที่เป็นทางเลือกที่ดีของการรักษาต่อมทอนซิลโตในเด็ก การผ่าตัดต่อมทอนซิลโต มีข้อดีข้อเสียอย่างไร โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำว่าการรักษาต่อมทอนซิลโตหลักๆ มี 2 วิธี คือ การใช้เครื่องช่วยหายใจขณะนอนหลับ หรือ CPAP การผ่าตัดต่อมทอนซิล (และ/หรือต่อมอะดินอยด์) ทิ้ง ในกรณีที่เลือกการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด โดยทั่วไป แพทย์จะใช้วิธีตัดต่อมทอนซิลทิ้งไปทั้งหมด (Removal of tonsil) อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2018 มีข้อมูลวิชาการทางการแพทย์รายงานชัดเจนแล้วว่าการผ่าตัดต่อมทอนซิลทิ้งไปเป็นความคิดที่ไม่ดี และการศึกษาเปรียบเทียบผู้ป่วยกลุ่มที่ตัดทอนซิลทิ้ง เทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ตัดทอนซิลโดยติดตามต่อไปเมื่ออายุมากขึ้น พบว่าการตัดทิ้งต่อมทอนซิลออกไปทำให้เพิ่มโอกาสมากกว่า 3 เท่าในการเกิดโรคภูมิแพ้ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดอักเสบ และโรคอื่นๆ รวมแล้วกว่า 28 โรค นอกจากนี้ การตัดต่อมทอนซิลทิ้ง (Traditional tonsillectomy) ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเลือดออกหลังการผ่าตัด (เทียบกับการผ่าตัดทอนซิลออกบางส่วน/Tonsillotomy) มากถึง 3 เท่า ด้วยเหตุนี้ ปัจจุบัน การผ่าตัดต่อมทอนซิลทิ้งในเด็กที่มีต่อมทอนซิลโตอุดกั้นทางเดินหายใจ จึงไม่เป็นที่นิยมในประเทศแถบยุโรปและอเมริกา […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้สมองของคุณสุขภาพดี

สมองเป็นเสมือนเครื่องกลตัวจิ๋วที่คอยบริหารร่างกายของคนเรา ภายในสมองเต็มไปด้วยเส้นประสาทมากมายที่ทำหน้าที่สัมพันธ์กันและส่งผลต่อกันและกัน สมองเป็นส่วนที่เราไม่ได้มองเห็นในทุกวัน จนบางครั้งก็หลงลืมที่จะใส่ใจสุขภาพของสมอง จนกระทั่งอายุมากขึ้นมีอาการหลงๆ ลืมๆ ทำให้เราเห็นความสำคัญของมันขึ้นมา แต่จริงๆ แล้วเราสามารถดูแลสุขภาพของสมองได้ตั้งแต่เด็กเลยไม่ต้องรอให้สมองของเราเสื่อมสภาพเสียก่อน เครื่องกลยังต้องมีการซ่อมบำรุง สมองของเราก็เช่นกันค่ะ มาดู วิธีช่วยให้สมองสุขภาพดี กันดีกว่า วิธีช่วยให้สมองสุขภาพดี ทำได้ง่ายๆ  เคลื่อนไหวร่างกาย การออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยให้สมองของเราสุขภาพดีขึ้น โดยอย่างน้อยต้องมีการออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ งานวิจัยชิ้นหนึ่งมีการทดสอบโดยให้ผู้สูงอายุเดินออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 150 นาทีต่อสัปดาห์นานเป็นเวลา 1 ปี ทำให้ผู้สูงอายุกลุ่มนี้มีการพัฒนาในเรื่องของความจำดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สร้างกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายแบบแอโรบิคร่วมกับการออกกำลังกายแบบที่มีความเข้มข้นสูงอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์สามารถทำให้สุขภาพของหัวใจดีขึ้นได้ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนช่วยให้สุขภาพของ สมองดีขึ้นอีกด้วย อาหาร เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพของหัวใจ ในแต่ละมื้ออาหารเราควรให้มีผักครึ่งหนึ่ง ธัญพืช 1 ส่วน 4ของอาหารทั้งหมด เพื่อให้ร่างกายของเราได้รับกากใยอาหารเพิ่มขึ้นและยังช่วยควบคุมน้ำหนัก อีกทั้งยังรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ลดความเครียด เมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่เครียดหรือเกิดความวิตกกังวลจะส่งผลให้สุขภาพจิตของเราย่ำแย่ และยังทำให้สมองของเราเกิดความย่ำแย่ตามมาด้วย  เมื่อเกิดความเครียดเราควรรีบหาวิธีจัดการ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในภาวะปกติ เช่น การทำสมาธิช่วยบรรเทาความเครียดได้ นอนหลับให้เพียงพอ การที่เราได้รับการนอนหลับที่ไม่เพียงพอจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย สุขภาพของเราย่ำแย่ลง สมองก็เหมือนกับอวัยวะส่วนอื่นๆ ที่ต้องการการพักผ่อน เมื่อสมองถูกใช้งานมาทั้งวัน การนอนหลับก็เป็นวิธีการที่ดีที่จะให้สมองได้พัก เมื่อสมองได้พักผ่อนอย่างเพียงพอสุขภาพของสมองก็จะดีขึ้น เลิกสูบบุหรี่ การเลิกบุหรี่เป็นเรื่องแรกๆ ที่คุณสามารถช่วยให้สมองของคุณสุขภาพดีได้ งานวิจัยชี้ว่าผู้ที่สูบบุหรี่ 2 ซองต่อวันจะมีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่าเมื่ออายุมากขึ้น ส่วนคนที่ดูดบุหรี่ครึ่งซองหรือ […]


การทดสอบทางการแพทย์

อาการปากแห้ง หลังตื่นนอน

เมื่อตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับ อาการปากแห้ง ซึ่งทำให้เราหงุดหงิดและรำคาญ จริงๆ แล้วอาการที่ปากแห้งมีสาเหตุมาได้จากหลายอย่าง แต่ไม่ทราบว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร ลองไปอ่านบทความนี้เพื่อทำความรู้จักกับโรคนี้ให้มากขึ้น เมื่อรู้ถึงสาเหตุเราจะได้แก้ปัญหากันได้ง่ายกว่าที่เคย อาการปากแห้ง หลังตื่นนอน คืออะไร อาการช่องปากแห้งหลังจากตื่นนอนในตอนเช้า ในทางการแพทย์เรียกว่า Xerostomia เป็นภาวะที่ปากมีอาการแห้งกว่าปกติ ซึ่งเกิดจากการที่ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายออกมาได้ไม่เพียงพอ ที่จะทำให้ปากของเรามีความชุ่มชื่น โดยปกติแล้วมีสาเหตุมาจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด ปัญหาอายุที่มากขึ้น หรือเป็นผลจากรังสีที่ผู้ป่วยมะเร็งเข้ารับการรักษา น้ำลายมีหน้าที่ในการช่วยป้องกันฟันผุ โดยทำให้กรดที่ผลิตโดยแบคทีเรียลดลง จำกัดการเติบโตของแบคทีเรียและกำจัดเศษอาหารออกไป นอกจากนี้น้ำลายยังช่วยเพิ่มความสามารถในการลิ้มรสและทำให้เคี้ยวและกลืนง่ายขึ้นง่าย นอกจากนี้เอนไซม์ในน้ำลายยังช่วยในการย่อยอาหารอีกด้วย และอาจเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยทั่วไป ของสุขภาพฟันและเหงือกของคุณ นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความอยากอาหารและความเพลิดเพลินในการรับประทานอาหารอีกด้วย อะไรกันที่ทำให้เรา ปากแห้งหลังตื่นนอน เมื่อมีอาการช่องปากแห้งมีสาเหตุมาจากต่อมน้ำลายในปากผลิตน้ำลายออกมาไม่เพียงพอ และทำให้ปากของเราขาดความชุ่มชื่น และการที่ต่อมน้ำลายทำงานผิดปกติอาจเกิดจากปัญหาเหล่านี้ การใช้ยา ยาหลายร้อยชนิด รวมทั้งยาที่ขายตามร้านขายยาทั่วไปบางชนิดมีผลข้างเคียงทำให้มีอาการปากแห้งโดยเฉพาะยาบางประเภทจะมีแนวโน้มก่อให้เกิดปัญหามาก ได้แก่ บางตัวที่ใช้ในการรักษาอาการซึมเศร้า ความดันโลหิตสูง ยาคลายวิตกกังวล ยาต้านฮิสตามีนซึ่งเป็นกลุ่มยาที่ใช้ในการรักษาอาการภูมิแพ้ต่างๆ ยาหดหลอดเลือด ยาคลายกล้ามเนื้อ และยาระงับอาการปวด การรักษาโรคมะเร็ง เคมีบำบัดที่ผู้ป่วยมะเร็งได้รับมีผลต่อความสามารถในการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของน้ำลายและการผลิต เคมีบำบัดอาจทำให้มีอาการปากที่แห้งเพียงชั่วคราวและน้ำลายอาจจะกลับมาทำงานได้อย่างปกติเมื่อหยุดรับเคมีบำบัด นอกจากนี้การรักษาด้วยการฉายแสงที่ศีรษะและขอยังส่งผลต่อการทำงานของต่อมน้ำลายให้ผลิตน้ำลายได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาการปากแห้งจากการฉายรังสีอาจจะเกิดขึ้นแค่ชั่วคราวหรืออาจจะเกิดถาวรทั้งนี้ทั้งนั้นย่อมขึ้นอยู่กับปริมาณรังสีที่ได้รับและส่วนที่โดนรังสีว่ามากน้อยเพียงใด การเสียหายของเส้นประสาท การได้รับบาดเจ็บหรือการผ่าตัดที่ทำให้เส้นประสาทบริเวณศีรษะและคอเสียหายก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปากแห้งได้ ภาวะสุขภาพอื่น ๆ อาจเป็นผลกระทบที่เกิดจากโรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง การติดเชื้อราในปาก โรคอัลไซเมอร์ โรคภูมิต้านตนเองเช่นโรค Sjogren หรือ HIV / AIDS ไปจนถึงการนอนกรน […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

วิธีเพิ่ม สารโดพามีน “ฮอร์โมนความสุข” แบบเป็นธรรมชาติ

สารโดพามีน หรือโดปามีน (Dopamine) ทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและสมองหลายส่วน เช่น ความจำ การเคลื่อนไหว รวมไปถึงระบบรางวัลของสมอง ที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุข พึงพอใจ จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “ฮอร์โมนความสุข” หากร่างกายหลั่งโดพามีนน้อยเกินไป อาจส่งผลให้ซึมเศร้า เหนื่อยล้า นอนไม่หลับ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่อย่าเพิ่งตกใจ เพราะ Hello คุณหมอ มีวิธีเพิ่มโดพามีนแบบง่ายๆ และเป็นธรรมชาติมาฝากแล้ว วิธีเพิ่มสารโดพามีนแบบเป็นธรรมชาติ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ผลการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า การเล่นโยคะสัปดาห์ละ 6 วันๆ ละ 1 ชั่วโมง ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือนสามารถช่วยเพิ่มการหลั่งสารโดพามีนได้จริง การออกกำลังกายเป็นประจำไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มระดับโดพามีน แต่ยังช่วยให้อารมณ์และสุขภาพโดยรวมดีขึ้นด้วย ฟังเพลงบรรเลง เพิ่ม สารโดพามีน การศึกษาภาพสมองหลายชิ้นพบว่า การฟังเพลงช่วยเพิ่มกิจกรรมในสมองส่วนที่ทำให้เรารู้สึกพอใจและรู้สึกดี ซึ่งในบริเวณนั้นมีตัวรับโดพามีน (dopamine receptor) อยู่มากมาย ทั้งยังมีผลการวิจัยชิ้นหนึ่งที่พบว่า อาสาสมัครที่ฟังเพลงบรรเลง ช่วยให้ผ่อนคลาย มีระดับโดพามีนในสมองเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 9 เลยทีเดียว กินโปรตีนให้เยอะขึ้น กรดอะมิโนชนิด ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) และไทโรซีน (Tyrosine) มีหน้าที่สำคัญในการสร้างโดพามีน พบได้มากในอาหารโปรตีนสูง […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ปวดจี๊ดขึ้นสมอง หลังดื่มน้ำเย็น กินไอศกรีม เป็นเพราะอะไร อันตรายไหม?

อาการร้อนๆ แบบนี้ ได้อะไรเย็นๆ อย่างไอศกรีมสักแท่ง หรือบิงซูสักถ้วยมากินดับร้อนหน่อยก็คงดีไม่น้อย แต่ถึงอยากจะคลายร้อนแค่ไหนก็อย่ารีบนัก เพราะหากกินของเย็นๆ เร็วเกินไป แทนที่จะสดชื่น หายร้อนสมใจ คุณอาจต้องเจอกับอาการ ปวดจี๊ดขึ้นสมอง จนแก้วน้ำหรือไอศกรีมในมือแทบร่วงแทน ว่าแต่อาการนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร แล้วจะส่งผลเสียหรือเป็นอันตรายกับร่างกายไหม Hello คุณหมอ มีคำตอบมาให้แล้ว ทำไมกินเย็นแล้วถึง ปวดจี๊ดขึ้นสมอง อาการปวดจี๊ดขึ้นสมอง (Brain freeze) หรือที่เรียกว่า อาการปวดศีรษะจากความเย็น (cold stimulus headache) คือ อาการปวดศีรษะแปลบๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากกิน หรือดื่ม อาหารเย็นจัด เช่น น้ำแข็ง ไอศกรีม เร็วเกินไป มักเกิดในช่วงอากาศร้อนจัด รวมไปถึงศีรษะหรือใบหน้าสัมผัสกับอากาศหนาวแบบกะทันหัน เช่น เมื่อต้องเจอกับหิมะ เมื่อคุณกระโดดลงน้ำเย็นจัด ก็อาจทำให้ปวดจี๊ดขึ้นสมองได้ โดยสามารถสังเกตได้จากอาการเหล่านี้ ปวดจี๊ด หรือปวดแปล๊บที่หน้าผาก หรือขมับ อาการปวดจะคงอยู่ประมาณ 20-60 วินาที แล้วหายไปอย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับความเร็วและปริมาณอาหารที่กิน ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดจี๊ดขึ้นสมองไม่เกิน 5 นาที แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากความเย็นไปสัมผัสกับ ปมประสาทสฟีโนพาลาทีน (sphenopalatine ganglion) […]


ขั้นตอนทางการแพทย์และการผ่าตัด

วิธีรักษาเส้นเลือดขอด ที่ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงแห่งยุค!

วิธีรักษาเส้นเลือดขอด ด้วยการฉีดสารระคายเคืองหลอดเลือด (Sclerotherapy Injection) ถูกใช้ในวงการแพทย์มานานหลายปี สำหรับกลุ่มคนที่ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดดำขอด โดยการรักษานี้ ถูกยกให้เป็นวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่ง คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับวิธีการนี้ หรือรู้จักโรคนี้หรือไม่ ถ้าคุณเกิดความสงสัย บทความนี้ช่วยคุณได้ เส้นเลือดขอด หรือ โรคหลอดเลือดดำขอด คืออะไร หลอดเลือดดำมีหน้าที่นำเลือดที่มีออกซิเจนต่ำจากอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เช่น ขา แขน กระเพาะอาหาร ฯลฯ กลับมาสู่หัวใจ และในบางกรณี เลือดต้องไหลต้านแรงโน้มถ่วงเพื่อเข้าสู่หัวใจ ในหลอดเลือดดำจึงมี ลิ้น ซึ่งมีหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับลงมา หากลิ้นปิดเปิดในหลอดเลือดดำทำงานผิดปกติ เลือดจากบริเวณขาก็ไม่สามารถถูกลำเลียงสู่หัวใจได้หมด และไหลย้อนกลับมาจน เกิดการคั่งค้างอยู่ในหลอดเลือดดำ เมื่อเวลาผ่านไป หลอดเลือดดำก็จะขยายตัว นำมาสู่อาการของโรคหลอดเลือดดำขอด เส้นเลือดขอด หรือ โรคหลอดเลือดดำขอด (Varicose veins/Spider Veins) จึงหมายถึงการที่หลอดเลือดดำจะบิดตัวไปมา มีขนาดที่บวมโตขึ้น รวมถึงมีสีดำเข้ม หรือสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งสามารถมองเห็นผ่านผิวหนังได้ด้วยตาเปล่า ปกติแล้ว หลอดเลือดดำขอดมักเกิดขึ้นบริเวณขา ส่วนอาการอีกหนึ่งชนิดเรียกว่า Spider veins ซึ่งมีขนาดที่เล็กกว่าหลอดเลือดดำขอด มักจะเห็นเป็นสีแดงหรือสีน้ำเงิน สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าผ่านผิวหนัง สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไปตามขาและบนใบหน้า วิธีรักษาเส้นเลือดขอด ด้วยการฉีดสารระคายเคือง การฉีดสารระคายเคืองสามารถรักษาโรคหลอดเลือดดำขอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระหว่างขั้นตอนการฉีดนั้น ขณะที่สารละลายน้ำเกลือเกลือ หรือสารเคมี […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ระวัง! เป้สะพายหลัง หากใช้ผิดปัญหาสุขภาพอาจตามมา

เป้สะพายหลัง ถือเป็นไอเท็มยอดนิยมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะนักเรียน หนุ่มสาววัยทำงาน หรือวัยไหน ๆ ก็หันมาสะพาย กระเป๋าเป้ กันทั้งนั้น นั่นเพราะเป้สะพายหลังมีข้อดี คือ จุของได้เยอะ ใช้แล้วคล่องตัว สะดวกเวลาขึ้นรถลงเรือ แต่ถึงอย่างไร เป้สะพายหลังคู่ใจของใครหลาย ๆ คน ก็อาจกลายเป็นบ่อนทำลายสุขภาพได้ หากเลือกใช้และสะพายผิดวิธี แต่จะส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง ติดตามอ่านได้ในบทความ Hello คุณหมอ เป้สะพายหลัง ก่อปัญหาสุขภาพได้อย่างไร ผลการศึกษาวิจัยในนักเรียนอิตาลีช่วงอายุ 6-19 ปีจำนวน 5,318 คน ที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Spine Journal ของประเทศอิตาลี ในปี พ.ศ. 2559 พบว่า 60% ของนักเรียนที่เข้าร่วมการศึกษาวิจัย มีอาการปวดหลังและบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะในอาสาสมัครกลุ่มที่เป็นเด็กโตและวัยรุ่น และเด็กผู้หญิงมักปวดหลังรุนแรงและบ่อยกว่าเด็กผู้ชาย สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะรูปร่างของเด็กผู้หญิงเล็กกว่าเด็กผู้ชายนั่นเอง อย่างไรก็ตาม การใช้ กระเป๋าเป้ อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ หากใช้งานผิดวิธี เช่น สะพายเป้ หนักเกิน สะพายเป้ ต่ำเกิน สะพายเป้ ข้างเดียว จนทำให้เกิดน้ำหนักกดทับมากเกินไป […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

สำรวจตัวเองหน่อย ร่างกายคุณรับ ปริมาณคาเฟอีน เกินขนาดหรือเปล่า

คนส่วนใหญ่ต้องการ คาเฟอีน เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีพลังตลอดวัน คาเฟอีนนั้นพบได้ทั้งในกาแฟ ชา และเครื่องดื่มบำรุงกำลัง โดยได้รับการพิสูจน์ว่ามีส่วนช่วยในการกระตุ้นความตื่นตัว บรรเทาอาการเหนื่อยล้า และเพิ่มระดับความจดจ่อและสมาธิ อย่างไรก็ตาม ในบางรายที่บริโภค ปริมาณคาเฟอีน มากเกินไปอาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะมีปัญหาสุขภาพตามมาได้ด้วยเช่นกัน คุณได้รับ ปริมาณคาเฟอีน มากเกินไปหรือเปล่า ปริมาณคาเฟอีนที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่นั้นอยู่ที่ระดับ 400 มิลลิกรัมต่อวัน เทียบเท่ากับปริมาณกาแฟ 4 แก้ว โคลา 10 กระป๋อง หรือเครื่องดื่มบำรุงกำลัง 2 กระป๋อง อย่างไรก็ตาม ปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่มแต่ละชนิดก็แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เพื่อให้ทราบปริมาณคาเฟอีนที่บริโภคเข้าไปคุณจำเป็นต้องอ่านฉลากอย่างระมัดระวัง ในขณะที่คาเฟอีนนั้นดูจะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อผู้ใหญ่นัก แต่ในเด็กนั้น ไม่ควรบริโภคคาเฟอีน ในขณะที่วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้นก็ควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนที่ดื่มในแต่ละวันด้วยเช่น รวมทั้งอย่าผสมคาเฟอีนกับสารชนิดอื่นๆ เช่น แอลกอฮอล์ เป็นอันขาด หากคุณดื่มกาแฟมากกว่าสี่แก้วต่อวัน เป็นไปได้ว่าคุณอาจได้รับปริมาณคาเฟอีนมากเกินไป โดยสัญญาณเตือนอื่นๆ ที่ชี้ว่าคุณควรตัดลดปริมาณคาเฟอีน ได้แก่ ไมเกรน นอนไม่หลับ วิตกกังวลกระวนกระวาย กระสับกระส่าย มีปัญหาด้านระบบปัสสาวะ คลื่นไส้ หัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้อกระตุก และอื่นๆ ใครบ้างที่ไม่ควรบริโภคคาเฟอีน นอกจากเด็ก ผู้ที่อดนอน การเพิ่มปริมาณคาเฟอีนเพื่อเอาชนะความง่วงนอนนั้นอาจก่อให้เกิดวงจรไม่พึงประสงค์ ความง่วงที่หายไปจากการกระตุ้นด้วยการดื่มกาแฟนั้นทำให้คุณสามารถทำงานได้ยาวนานขึ้น แต่การบริโภคคาเฟอีนระหว่างวันนั้นจะทำให้คุณนอนไม่หลับในตอนกลางคืน ผู้ที่ใช้ยาบางชนิดหรือสมุนไพรเสริม […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน