ปลานิล เป็นอาหารเมนูโปรดของใครหลายคน เพราะไม่ว่าจะเอามาทำเป็นปลาเผา ปลาทอด หรือปลาย่าง กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ ๆ หรือกินเป็นเมี่ยงปลาเผาก็อร่อย Hello คุณหมอ บทความนี้จึงมีข้อมูลโภชนาการของปลานิล รวมถึงความเสี่ยงที่ควรระวังเวลากินปลานิล
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
ปลานิล เป็นอาหารเมนูโปรดของใครหลายคน เพราะไม่ว่าจะเอามาทำเป็นปลาเผา ปลาทอด หรือปลาย่าง กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ ๆ หรือกินเป็นเมี่ยงปลาเผาก็อร่อย Hello คุณหมอ บทความนี้จึงมีข้อมูลโภชนาการของปลานิล รวมถึงความเสี่ยงที่ควรระวังเวลากินปลานิล
ปลานิล เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี โดยโปรตีนประมาณ 100 กรัม มีโปรตีน 26 กรัม และมีพลังงานเพียง 128 แคลอรี่ จึงถือว่าเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและแคลอรี่ต่ำ นอกจากนี้ปลานิลยังมีสารอาหารมากมาย โดยปลานิลจะอุดมไปด้วยไนอะซิน (Niacin) วิตามินบี 12 ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม และโพแทสเซียม ซึ่งปลานิล 100 กรัมมีสารอาหารดังต่อไปนี้
แม้ว่า ประโยชน์ของปลานิล จะมีมากมาย ทั้งมีโปรตีนสูงและแคลอรี่ต่ำ แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับไขมันที่อยู่ในปลานิล ดังนี้
ปลาถือเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ (trout) ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน และในความจริงแล้ว ปลาแซลมอนตามธรรมชาติ 100 กรัม มีไขมันโอเมก้า 3 มากกว่า 2,500 มิลลิกรัม
กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากช่วยลดการอักเสบ และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ แต่ข่าวร้ายคือสำหรับปลานิล มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เพียง 240 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่ามีน้อยกว่าในปลาแซลมอนถึง 10 เท่า
นอกเหนือจาก ประโยชน์ของปลานิล ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ปลานิลยังมีกรดไขมันโอเมก้า 6 มากกว่าโอเมก้า 3 อีกด้วย ซึ่งกรดไขมันโอเมก้า 6 ยังคงเป็นที่ถกเถียงถึงประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตามไขมันโอเมก้า 6 ถือว่าดีต่อสุขภาพน้อยกว่า เมื่อเทียบกับไขมันโอเมก้า 3 และบางคนเชื่อว่ากรดไขมันโอเมก้า 6 อาจเป็นอันตรายและเพิ่มการอักเสบ หากบริโภคมากเกินไป
มากไปกว่านั้น ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำว่า ในกรณีที่คุณต้องระวังความเสี่ยงต่อการเป็นโรค ที่เกี่ยวกับการอักเสบ เช่น โรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคปลานิล
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย