backup og meta

Black Currant (แบล็คเคอร์แรนท์) ประโยชน์ และข้อควรระวังการรับประทาน

Black Currant (แบล็คเคอร์แรนท์) ประโยชน์ และข้อควรระวังการรับประทาน

Black Currant (แบล็คเคอร์แรนท์) คือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีลักษณะเป็นลูกกลมขนาดเล็ก สีม่วงหรือดำเข้มคล้ายกับองุ่นดำ ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี แคลเซียม แมกนีเซียมและฟอสฟอรัส

[embed-health-tool-bmi]

คุณค่าทางโภชนาการของ Black Currant

แบล็คเคอร์แรนท์ 100 กรัม อาจให้พลังงาน 63 กิโลแคลอรี่ และอาจมีสารอาหารอื่น ๆ ดังต่อไปนี้

  • คาร์โบไฮเดรตรวม 15.4 กรัม
  • โพแทสเซียม 322 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 181 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 59 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 55 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 24 มิลลิกรัม
  • วิตามินอี 1 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 12 ไมโครกรัม

ประโยชน์ของ Black Currant

แบล็คเคอร์แรนท์ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของแบล็คเคอร์แรนท์ในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้

  • อาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด

แบล็คเคอร์แรนท์มีแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ให้สีน้ำเงิน สีแดง และสีม่วงในธรรมชาติ ที่อาจมีส่วนช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจ ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต และช่วยป้องกันความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Clinical and Experimental Hypertension ปี พ.ศ. 2563 ที่ศึกษาเกี่ยวกับผลของการรับประทานสารสกัดแบล็คเคอร์แรนท์ต่อการทำงานของหลอดเลือดแดงในผู้สูงอายุ ที่ทำการทดลองในผู้สูงอายุจำนวน 14 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ได้รับประทานสารสกัดแบล็คเคอร์แรนท์ 2 แคปซูล แคปซูลละ 300 มิลลิกรัม และกลุ่มที่ได้รับยาหลอกเป็นเวลา 7 วัน จากนั้นทำการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต พบว่า กลุ่มที่ได้รับประทานสารสกัดจากแบล็คเคอร์แรนท์มีอัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น และความดันโลหิตลดลงมากกว่ากลุ่มที่รับประทานยาหลอก เนื่องจากแบล็คเคอร์แรนท์มีแอนโทไซยานินที่เป็นสารกลุ่มฟลาโวนอยด์มีส่วนช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้เป็นการศึกษาสารสกัดจากแบล็คเคอร์แรนท์ ไม่ใช่แบล็คเคอร์แรนท์สด จึงยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการรับประทานผลแบล็คเคอร์แรนท์ต่อการทำงานของหัวใจและความดันโลหิตเพิ่มเติม

  • อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

แบล็คเคอร์แรนท์มีแอนโทไซยานิน ไฟเบอร์ และวิตามินซีสูงที่อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง โรคเบาหวาน และอาจช่วยป้องกันไม่ให้อาการเบาหวานแย่ลง

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร British Journal of Nutrition ปี พ.ศ. 2563 ที่ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแบล็คเคอร์แรนท์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากรับประทานอาหาร ที่ทำการทดลองในกลุ่มคนที่มีสุขภาพดี 26 คน (เพศหญิง 22 คน และเพศชาย 4 คน) โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 รับประทานแบล็คเคอร์แรนท์บดที่เติมน้ำตาล กลุ่มที่ 2 รับประทานน้ำ 300 มิลลิลิตรพร้อมซูโครส กลูโคส และฟรุกโตส และกลุ่มที่ 3 รับประทานผลิตภัณฑ์จากแบล็คเคอร์แรนท์ที่มีคีนัวหมัก และตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินหลังอาหาร 15, 30, 45, 60, 90, 120 และ 180 นาที พบว่า กลุ่มที่รับประทานแบล็คเคอร์แรนท์บดที่เติมน้ำตาลและผลิตภัณฑ์จากแบล็คเคอร์แรนท์ที่มีคีนัวหมัก มีความเข้มข้นของกลูโคสในเลือดและอินซูลินลดลงในช่วง 30 นาทีแรกและมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ที่สมดุลตามลำดับใน 1 ชั่วโมง

  • อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคต้อหิน

แบล็คเคอร์แรนท์อุดมไปด้วยแอนโทไซยานิน วิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยลดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) จากอนุมูลอิสระ ที่ส่งผลให้เซลล์และเรตินาในดวงตาเสื่อมสภาพ และอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Ocular Pharmacology and Therapeutics เมื่อปี พ.ศ.2556 ที่ศึกษาเกี่ยวกับผลของแอนโทไซยานินในแบล็คเคอร์แรนท์ต่อระดับความเข้มข้นของเอนโดเทลิน-1 (Endothelin-1) ซึ่งเป็นเปบไทด์ที่ทำให้หลอดเลือดหดตัวในผู้ป่วยโรคต้อหิน โดยแบ่งผู้ทดลองจำนวน 38 คน ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 19 คน โดยกลุ่มแรกจะได้รับยาแคปซูลที่มีส่วนประกอบแบล็คเคอร์แรนท์ และกลุ่มที่ 2 จะได้รับยาหลอกเป็นเวลา 24 เดือน และตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงทุก ๆ 6 เดือน เมื่อสิ้นสุดการทดลอง พบว่า กลุ่มที่รับประทานยาแคปซูลที่มีส่วนประกอบของแบล็คเคอร์แรนท์มีระดับความเข้มข้นของ Endothelin-1 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยโรคต้อหินมีการมองเห็นที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ระดับของสารต้านอนุมูลอิสระและปฏิกิริยาต้านอนุมูลอิสระยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด อีกทั้งการทดลองนี้ใช้สารสกัดของแบล็คเคอร์แรนท์ และไม่ได้ทดลองกับผลแบล็คเคอร์แรนท์ จึงยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลของการรับประทานแบล็คเคอร์แรนท์ต่อการบรรเทาอาการของโรคต้อหิน

  • อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคไข้หวัดใหญ่

แบล็คเคอร์แรนท์มีวิตามินซีสูง ที่อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในการช่วยต้านการติดเชื้อที่ส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยได้ เช่น โรคไข้หวัด โรคไข้หวัดใหญ่

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Fukushima Journal of Medical Science เมื่อปี พ.ศ. 2556 ที่ศึกษาเกี่ยวกับฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ของสารสกัดจากแบล็คเคอร์แรนท์ พบว่า การรับประทานสารสกัดแบล็คเคอร์แรนท์อาจช่วยยับยั้งและต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ หรืออาจช่วยบรรเทาอาการไข้หวัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับประทานแบล็คเคอร์แรนท์เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการรับประทาน Black Currant

ควรล้างทำความสะอาดแบล็คเคอร์แรนท์ก่อนรับประทานเพื่อกำจัดสารเคมีและสิ่งสกปรก เช่น ยาฆ่าแมลง ดิน ฝุ่น และช่วยป้องกันการติดเชื้อในทางเดินอาหาร นอกจากนี้ แบล็คเคอร์แรนท์ในรูปแบบน้ำผลไม้ ผลไม้อบแห้ง และแยม อาจมีการปรุงแต่งรสชาติด้วยน้ำตาลในปริมาณมาก ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานในปริมาณมากเพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และก่อนเลือกซื้อแบล็คเคอร์แรนท์แปรรูปควรอ่านข้อมูลโภชนาการ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีน้ำตาลในเลือดสูงและผู้ป่วยเบาหวาน

ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติหรือวางแผนผ่าตัดควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแบล็คเคอร์แรนท์เนื่องจากอาจทำให้เลือดแข็งตัวช้ากว่าปกติ อีกทั้งผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำควรจำกัดปริมาณการรับประทานแบล็คเคอร์แรนท์ เนื่องจากอาจส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงและเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรง เลือดไหลเวียนไม่สะดวก หัวใจล้มเหลวและหมดสติได้

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Health Benefits of Black Currant. https://www.webmd.com/diet/health-benefits-black-currant.Accessed October 18, 2022

Black Currant – Uses, Side Effects, and More. https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-1085/black-currant.Accessed October 18, 2022

Currants, european black, raw. https://fdc.nal.usda.gov/fdc-app.html#/food-details/173963/nutrients.Accessed October 18, 2022

Effects of blackcurrant extract on arterial functions in older adults: A randomized, double-blind, placebo-controlled, crossover trial. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32396017/.Accessed October 18, 2022

Blackcurrant (Ribes nigrum) lowers sugar-induced postprandial glycaemia independently and in a product with fermented quinoa: a randomised crossover trial.https://www.cambridge.org/core/journals/british-journal-of-nutrition/article/blackcurrant-ribes-nigrum-lowers-sugarinduced-postprandial-glycaemia-independently-and-in-a-product-with-fermented-quinoa-a-randomised-crossover-trial/A560E292A8A026C2A8CDAEB9AFE00259.Accessed October 18, 2022

Black Currant Anthocyanins Normalized Abnormal Levels of Serum Concentrations of Endothelin-1 in Patients with Glaucoma.https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3669603/.Accessed October 18, 2022

Anti-influenza virus activity of two extracts of the blackcurrant (Ribes nigrum L.) from New Zealand and Poland.https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/23842512/.Accessed October 18, 2022

เวอร์ชันปัจจุบัน

19/10/2022

เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล

อัปเดตโดย: พลอย วงษ์วิไล


บทความที่เกี่ยวข้อง

พุทรา ผลไม้พื้นบ้าน กับประโยชน์ต่อสุขภาพที่คุณควรรู้

5 ผลไม้ไทย เพื่อสุขภาพ ที่คนนิยมรับประทาน


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 19/10/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา