เพื่อสุขภาพที่ดีและช่วยควบคุมน้ำหนักจึงควรดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม คือ ผู้ชายควรดื่มน้ำวันละ 3.7 ลิตร/วัน และผู้หญิง 2.7 ลิตร/วัน ซึ่งรวมน้ำจากอาหารด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ sparkling water จะสามารถดื่มเพื่อทดแทนน้ำเปล่าได้ แต่ควรดื่มอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและมีอาการท้องอืดบ่อยครั้ง
-
อาจช่วยปรับปรุงระบบย่อยอาหารและช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
sparkling water เป็นโซดาที่อาจส่งผลดีต่อระบบทางเดินอาหารและช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของน้ำอัดแก๊สต่ออาการอาหารไม่ย่อยและอาการท้องผูก ตีพิมพ์ในวารสาร European Journal of Gastroenterology & Hepatology พ.ศ. 2545 นักวิจัยได้ทำการทดลองในผู้ป่วย 21 รายที่มีอาการอาหารไม่ย่อยและท้องผูก โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งจำนวน 10 คน ให้ดื่มน้ำอัดแก๊ส และกลุ่มที่สองจำนวน 11 คน ให้ดื่มน้ำประปา เป็นเวลาประมาณ 15 วันเท่า ๆ กัน พบว่า ผู้ป่วยที่ดื่มน้ำอัดแก๊สมีอาการดีขึ้น นอกจากนี้ การดื่มน้ำอัดแก๊สยังช่วยเพิ่มความอิ่มและช่วยให้น้ำในร่างกายไหลเวียนได้ดีขึ้น
ข้อควรระวังในการดื่ม sparkling water
การดื่ม sparkling water มีข้อควรระวังดังนี้
- sparkling water ที่แต่งกลิ่นและมีส่วนผสมของน้ำตาลอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพฟัน ทำให้ฟันผุและฟันสึกกร่อน เนื่องจากปริมาณน้ำตาลสูงที่สะสมในช่องปากเป็นอาหารของแบคทีเรียที่มีส่วนทำลายเคลือบฟัน ดังนั้น ควรดื่มน้ำเปล่าสลับกับการดื่ม sparkling water และแปรงฟันให้สะอาดหลังดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงเพื่อป้องกันฟันผุ
- sparkling water เป็นน้ำที่มีแก๊สมาก การดื่มในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เรอบ่อย ท้องอืด และปวดท้อง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย