ชานมไข่มุก หมายถึงเครื่องดื่มชานมที่ใส่ไข่มุกที่ทำจากเม็ดแป้งมันสำปะหลังต้ม เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูง เพราะมีรสชาติที่อร่อย หวานมัน แต่ชานมไข่มุกก็อาจเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่อันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากมีน้ำตาลในปริมาณมาก การดื่มชานมไข่มุกมากเกินไปจึงอาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน นอกจากนี้ หากรับประทานชานมไข่มุกอย่างไม่ระมัดระวังก็อาจทำให้เกิดการสำลักได้อีกด้วย
[embed-health-tool-bmr]
การกลับมาของ ชานมไข่มุก
ชานมไข่มุกถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 ในประเทศไต้หวัน โดยร้านชาเก่าแก่ที่เมืองไถ่จง ตอนกลางของเกาะไต้หวันชื่อร้านชาชุ่นสุยถัง ได้สร้างสรรค์เครื่องดื่มชนิดใหม่ขึ้นมา โดยนำเอาเม็ดแป้งมันสำปะหลังต้ม ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำขนมพื้นเมืองของไต้หวัน ผสมลงไปในชาเพื่อดื่มกินพร้อมกัน ด้วยรสชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของชานมและความหนึบหนับของเม็ดแป้ง ทำให้เครื่องดื่มชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในไต้หวัน ทั้งยังแพร่หลายไปในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ที่วัยรุ่นยุค 90 ต่างก็เคยลิ้มลองชานมชนิดนี้มาก่อนแล้ว
แต่กระแสความนิยมก็ซาลงไป จนกระทั่งเพิ่งกลับมาฮอตฮิตอีกครั้งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ แม้แต่ในสหรัฐอเมริกา ความนิยมของเครื่องดื่มชนิดนี้ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Boba Tea หรือ Bubble Tea ก็แพร่หลายเป็นอย่างมาก เรียกว่าการกลับมาของชานมไข่มุกในครั้งนี้ ร้อนแรงเสียยิ่งกว่าตอนที่ถือกำเนิดขึ้นเสียอีก
ไข่มุก คืออะไร
แน่นอนว่า ไข่มุกในที่นี้ย่อมไม่ใช่ไข่มุกจริง ๆ ตามชื่อ แต่ได้มาจากรูปลักษณะที่เป็นเม็ดกลม ๆ แบบเดียวกับไข่มุก และอาจจะด้วยความมันวาวของพื้นผิวภายนอกด้วยอีกอย่าง จริงๆ แล้วไข่มุกในชานมส่วนใหญ่แล้วทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเมื่อเอามาต้มแล้วจะมีความนุ่มและยืดหยุ่น เวลาเคี้ยวให้ความรู้สึกหนึบหนับอยู่ในปาก อาจมีรสหวานเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะมาเติมความหวานจากนอกเหนือจากวัตถุดิบมากกว่า
สิ่งที่ควรรู้ก่อนดื่ม ชานมไข่มุก
คุณค่าทางโภชนาการของไข่มุก
แป้งมันสำปะหลังอันเป็นส่วนประกอบหลักของไข่มุกนั้น เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานอย่างรวดเร็ว และมีโปรตีน ไขมัน ไฟเบอร์เพียงเล็กน้อย และมีสารอาหารอื่น แต่ในปริมาณที่น้อยกว่าร้อยละ 0.1 ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- แป้งมันสำปะหลัง 28 กรัมให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี่
- แป้งมันสำปะหลังถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่าธัญพืชและแป้งชนิดอื่น เนื่องจากมีโปรตีนและสารอาหารน้อย
คุณค่าของชา
มีการศึกษาวิจัยที่พบว่า การดื่มชาช่วยเพิ่มระดับของสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ และการใส่นมเพิ่มเข้าไปในชาไม่ส่งผลกระทบต่อประโยชน์ของชา เนื่องจากสารประกอบเชิงซ้อนโปรตีนนมและโพลีฟีนอล (Polyphenol) ไม่ส่งผลต่อคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของเครื่องดื่มชา
ความหวาน
งานวิจัยด้านโภชนาการได้ให้ข้อมูลว่า ชานมไข่มุกจัดเป็นเครื่องดื่มรสหวาน (Sugar‐sweetened beverages หรือ SSB) เนื่องจากชานมไข่มุกมีน้ำเชื่อมฟรุกโตสที่ผลิตจากข้าวโพด (High‐fructose corn syrup หรือ HFCS) นอกจากนี้ งานวิจัยยังได้วิเคราะห์ส่วนประกอบของน้ำตาล (ซูโครส ฟรุกโตส กลูโคส และเมเลไซโตส) และค่าความร้อน (Calorific values) ของชานมไข่มุก ผลการวิจัยพบว่า ชานมไข่มุกควรจัดเป็นเครื่องดื่มรสหวาน
น้ำตาลใน ชานมไข่มุก
สถาบัน Dietary Guidelines Advisory Committee (DGAC) แนะนำว่าควรจำกัดปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่ม โดยปริมาณน้ำตาลควรต่ำกว่าร้อยละ 10 ของพลังงานทั้งหมดของเครื่องดื่ม จากการศึกษาพบว่า ชานมไข่มุก 16 ออนซ์มีปริมาณน้ำตาลเกิน นอกจากนี้ หากเพิ่มเยลลี่หรือเนื้อพุดดิ้งลงไปในชานมไข่มุก แคลอรี่ก็จะเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 16 และการกินชานมไข่มุกแก้วใหญ่อาจให้พลังงานถึง 500 กิโลแคลอรี่ ซึ่งถือเป็นร้อยละ 25 ของปริมาณแคลอรี่ที่ควรได้รับต่อวัน
การบริโภคชานมไข่มุกกับความเสี่ยงโรคอ้วน
ชานมไข่มุกมีปริมาณแคลอรี่และน้ำตาลเทียบเท่ากับเครื่องดื่มรสหวาน (Sugar-sweetened beverages หรือ SSB) ชนิดอื่นๆ เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้รสหวาน เครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งเครื่องดื่มรสหวานถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคอ้วน เนื่องจากนี้ในเครื่องดื่มรสหวานมีปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่ยังส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานและโรคเก๊าท์ นอกจากนี้การดื่มเครื่องดื่มรสหวานปริมาณ 16 ออนซ์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน สามารถทำให้เกิดกลุ่มอาการอ้วนลงพุง (Metabolic syndrome) และมีไขมันสะสมในตับ
ข้อควรระวัง
- การแพ้มันสำปะหลังนั้นเป็นอาการที่พบได้ไม่บ่อย แต่มีการรายงานว่ามีผู้แพ้มันสำปะหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่แพ้กลูเตน หรือเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารอื่น ๆ
- แป้งมันสำปะหลังบางชนิดอาจใส่สารกันบูด ดังนั้น ควรระวังหากมีอาการแพ้สารกันบูด
- เด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบไม่ควรกินไข่มุก เนื่องจากไข่มุกจะติดคอหรือทำให้สำลักได้