บทความนี้ Hello คุณหมอ ขอเอาใจคนชอบทานมะม่วงด้วยการนำ “สูตรแยมมะม่วง” มาฝากทุกคนกันคะ ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน วัตถุดิบก็สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด ที่สำคัญยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย จะมีวิธีการทำและประโยชน์อย่างไรนั้น ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลย
แยมมะม่วง รสชาติอมเปรี้ยวหวาน อร่อยถูกใจคนทุกวัย
แยมมะม่วง (Mango Jam) จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิต ที่ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของคนทุกเพศทุกวัย เพราะนอกจากรสชาติที่หอมหวานละมุนลิ้นแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เช่น ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงสุขภาพหัวใจ เป็นต้น
สูตรแยมมะม่วง (Mango Jam)
ส่วนผสม
มะม่วงสุก มะนาวหรือน้ำมะนาว น้ำตาล พอประมาณเนื่องจากมะม่วงสุกมีรสชาติหวานอยู่แล้ว (สำหรับผู้มีโรคประจำตัวเช่น โรคเบาหวาน อาจตวงปริมาณตามความเหมาะสม หรืออาจเลือกใช้สารสกัดจากหญ้าหวานแทน) วิธีทำ
- เลือกมะม่วงที่ไม่ดิบและสุกมากจนเกินไป ปอกเปลือกมะม่วงหั่นเป็นชิ้นๆ นำแกนกลางออก
- ใส่มะม่วงลงในหม้อกับน้ำตาลลงไปแล้วคนให้เข้ากัน อาจเพิ่มน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย
- ตั้งไฟต้มให้เดือด คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นลดไฟลง
- ทิ้งไว้ให้อยู่ในอุณหภูมิปกติ แล้วตักใส่ขวดโหล ไว้รับประทาน (หากต้องการให้เนื้อเนียนอาจนำไปปั่นเพิ่ม)
![สูตรแยมมะม่วง](https://hellokhunmor.com/wp-content/uploads/2020/08/Mango-Jam.-1.jpg)
“มะม่วง’ ผลไม้ที่กินได้ทั้งคาว-หวาน อร่อย..มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
มะม่วง (Mango) มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประวัติการปลูกมายาวนานถึง 4,000 ปี และยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูทั้งเมนูคาว-หวาน เช่น มะม่วงกวน พายมะม่วง แยมมะม่วง ข้าวเหนียวมะม่วง ไก่ย่างซอสมะม่วง
กล่าวได้ว่า มะม่วงเป็นอีกหนึ่งผลไม้ยอดนิยมสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เนื่องจากมีหลากหลายสายพันธุ์ และมีหลากหลายรสชาติ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ดังนี้
บำรุงสุขภาพหัวใจ
- ธาตุแมกนีเซียมและโพแทสเซียมในมะม่วง มีสรรพคุณช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ ช่วยลดระดับความดันโลหิต นอกจากนี้ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดไตรกลีเซอไรด์และระดับกรดไขมันอิสระ (Free Fatty Acid)
ปรับสมดุลลำไส้
- มะม่วงมีเส้นใยอาหารจำนวนมาก ช่วยปรับสมดุลระบบลำไส้ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรเทาอาการท้องผูก ท้องร่วง
บำรุงสุขภาพดวงตา
- มะม่วงมีวิตามินเอ และอุมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีน้ำเงินชนิดอันตราย ส่งเสริมการมองเห็นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
บำรุงผมและผิวหนัง
- วิตามินเอในมะม่วงช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและการผลิตซีบัม ซึ่งมีสรรพคุณในการให้ความชุ่มชื้นแก้หนังศีรษะเพื่อให้เส้นผมมีสุขภาพดี ยิ่งไปกว่านั้นวิตามินเอและเรตินอยด์ ยังช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดอีกด้วย
ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด
- มะม่วงมีโพลีฟีนอล (Polyphenol) สูงที่สามารถป้องกันภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชั่นซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งหลายชนิด ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและทำลายเซลล์มะเร็งต่างๆ รวมถึงมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม