บีทรูท พืชหัวสีแดงสดที่อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ โดยเฉพาะวิตามินซี ซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ดีต่อระบบขับถ่าย อย่างไรตาม ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่ายอาจควรระมัดระวังการรับประทานบีทรูท เนื่องจากอาจส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกได้
[embed-health-tool-bmr]
ประโยชน์ด้านสุขภาพของบีทรูท
บีทรูท (Beetroot) เป็นอีกหนึ่งในผักผลไม้สีแดงที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายหลายชนิด เช่น วิตามินบี 9 วิตามินซี ธาตุเหล็ก แมงกานีส ใยอาหาร โดยส่วนใหญ่มักนิยมนำรากมารับประทานเป็นอาหาร นำหัวมาทำเป็น น้ำบีทรูท ดื่มเพื่อสุขภาพ และยังอาจสามารถช่วยบำบัดรักษาโรคต่างๆ ได้ดังนี้
บำรุงหัวใจและลดความดันโลหิต
- ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ การรับประทานน้ำบีทรูทที่อุดมไปด้วยสารไนเตรต (Nitrate) สามารถช่วยลดความดันโลหิตสูงได้อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยท่านใดที่เป็นความดันโลหิตสูง ลองดื่มน้ำบีทรูทแล้วความดันลดลง ก็ไม่ควรหยุดรับประทานยาเอง ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งตามปกติ
ช่วยควบคุมโรคเบาหวาน
- บีทรูทมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่เรียกว่า กรดอัลฟาไลโปอิก (Alpha-lipoic Acid ; ALA) เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หากดื่มน้ำบีทรูทเป็นประจำจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย
- กระทรวงเกษตรประเทศสหรัฐอเมริกา (USDA) กล่าวว่า บีทรูท 1 ถ้วยให้ไฟเบอร์มากกว่า 8.81 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณไฟเบอร์ที่ร่างกายต้องการต่อวัน ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันอาการท้องผูกได้
ช่วยป้องกันมะเร็ง
- สารเบทานิน (Betanin) เป็นสารสีแดงที่อยู่ในหัวบีทรูท ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งและยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
คุณค่าทางโภชนาการของบีทรูท
บีทรูทดิบหนึ่งถ้วย (ประมาณ 136 กรัม) มีอาจคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
- พลังงาน 58.5 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 13 กรัม
- น้ำตาล 9.19 กรัม
- ไฟเบอร์ 3.81 กรัม
- โปรตีน 2.19 กรัม
นอกจากนี้ บีทรูทยังประกอบด้วย วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เช่น แคลเซียม เหล็ก วิตามินบี ทองแดง
How to ทำน้ำบีทรูท
- ขั้นตอนที่ 1 นำบีทรูทมาล้างให้สะอาด ตัดหัวออก ปอกเปลือก แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆตามความต้องการ
- ขั้นตอนที่ 2 หลังจากนั้นนำมาใส่เครื่องปั่น ปั่นผสมกับน้ำเปล่า
- ขั้นตอนที่ 3 เทลงแก้ว สามารถดื่มได้เลย หรือจะแช่เย็นไว้ แล้วค่อยนำมาดื่มก็ได้
*อัตราส่วน สามารถเลือกปรับได้ตามความต้องการ
ข้อควรระวัง
หากรับประทานบีทรูทมากจนเกินไป อาจทำให้ปัสสาวะเปลี่ยนเป็นเป็นสีม่วงหรือสีแดง และอาจเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตได้ นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือมีอาการลำไส้แปรปรวน อาจมีอาการปวดท้องหลังจากดื่มน้ำบีทรูท