ในปัจจุบัน การรับประทานอาหารที่บรรจุกระป๋องนั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่สามารถเก็บไว้ได้นาน แต่ยังราคาถูก และสะดวกต่อการรับประทาน แต่อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ คนอาจยังคงมีความกังวลว่า อาหารกระป๋องอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งความจริงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่ อาหารกระป๋อง ไม่ดีต่อสุขภาพจริงหรือ ลองมาหาคำตอบพร้อมกันกับ Hello คุณหมอ กันเลยค่ะ
อาหารกระป๋อง คืออะไร
อาหารกระป๋อง หมายถึงอาหารที่บรรจุภัณฑ์ลงในกระป๋อง เพื่อช่วยถนอมอาหาร และยืดอายุของอาหารนั้น ๆ ให้อยู่ได้นานขึ้น ในอดีตอาหารกระป๋องนั้นถูกพัฒนาขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องเสบียงอาหารของทหาร ในช่วงที่มีสงคราม เมื่อสมัยศตวรรษที่ 18 เนื่องจากอาหารกระป๋องนั้นจะอยู่ได้นานกว่าอาหารปกติอย่างน้อย 1-5 ปี
กระบวนการในการผลิตอาหารกระป๋องนั้นอาจจะแตกต่างกันออกไป แต่มักจะมีขั้นตอนหลักร่วมกันอยู่ 3 ประการ คือ
- กระบวนการแปรรูป โดยนำอาหารมาผ่านการแปรรูป เช่น ปรุงอาหาร ปอกเปลือก แกะเมล็ด หรือผ่าเป็นชิ้น
- กระบวนการปิดผนึก เพื่อซีลอาหารให้อยู่ในกระป๋องอย่างแน่นหนา ไม่ให้รั่วไหล
- กระบวนการให้ความร้อน เป็นการใช้ความร้อนสูงเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายหรือทำให้อาหารเน่าเสียออกไป ทำให้ช่วยยืดอายุของอาหารได้นานขึ้น
อาหารกระป๋องนั้นรูปแบบต่าง ๆ มากมาย ทั้งปลากระป๋อง เนื้อกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป ตลอดไปจนถึงผักและผลไม้ต่าง ๆ ที่ผ่านการผ่าและปอกเปลือกมาเรียบร้อย พร้อมให้เรารับประทานได้ทันทีที่เปิดกระป๋อง
อาหารกระป๋อง มีสารอาหารน้อยกว่าปกติ จริงหรือ
หลายคนอาจจะเข้าใจว่า อาหารกระป๋องนั้นจะมีคุณค่าทางสารอาหารน้อยกว่า และมีความสดน้อยกว่าอาหารสดทั่ว ๆ ไป แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่ใช่แบบนั้น
มีงานวิจัยที่พบว่า สารอาหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และพวกวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ จะไม่ได้รับผลกระทบจากกระบวนการแปรรูปอาหารกระป๋องนั้น ในทางกลับกัน สารอาหารบางชนิด เช่น ไลโคปีน (Lycopene) ก็อาจจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเมื่อผ่านกระบวนการแปรรูปเป็นอาหารกระป๋องนี้
บางงานวิจัยถึงกับพบว่า อาหารกระป๋องนั้นอาจจะมีคุณค่าทางสารอาหารมากกว่าอาหารสดที่หาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด เพราะอาหารกระป๋องนั้นจะถูกนำมาแปรรูปทันทีหลังจากเก็บเกี่ยว แต่อาหารที่ขายตามท้องตลาดอาจต้องใช้เวลาในการขนส่งนานหลายวัน และทำให้สูญเสียคุณค่าทางสารอาหารบางส่วนไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม สารอาหารบางอย่าง เช่น วิตามินซี และวิตามินบี ที่ไม่ทนต่อความร้อน อาจจะได้รับผลกระทบจากความร้อนในกระบวนการแปรรูป ทำให้เสียหายและสลายไปบางส่วนได้ แต่สารอาหารเหล่านั้นก็มักจะได้รับผลกระทบจากการปรุงอาหารตามปกติเช่นกัน
ความเสี่ยงที่มาพร้อมกับอาหารกระป๋อง
อาจมีสารก่อมะเร็ง
สาร BPA หรือสารบิสฟีนอล เอ (Bisphenol-A) คือสารเคมีที่นิยมใช้ในการบรรจุภัณฑ์อาหาร รวมไปจนถึงอาหารกระป๋อง ซึ่งมีงานวิจัยที่พบว่า สาร BPA นี้อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น
- ปวดหัวไมเกรน
- โรคหัวใจ
- โรคเบาหวานประเภทที่ 2
- เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- โรคมะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก หรือมะเร็งเต้านม
การรับประทานอาหารกระป๋องนั้น อาจทำให้เราได้รับสาร BPA เข้าสู่ร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเหล่านี้ได้
เสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย
อาหารกระป๋องที่ไม่ได้มาตรฐานในการผลิต อาจทำให้มีปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียอันตราย ที่อาจนำไปสู่โรคโบทูลิซึม (Botulism) ที่ทำให้เกิดอาการอัมพาต และอาจทำให้เสียชีวิตได้
อาหารกระป๋องอาจจะมีสารปรุงแต่งมากเกินไป
พวกอาหารแปรรูปอย่างอาหารกระป๋องนั้น มักจะมีการใส่สารปรุงแต่ง เช่น เกลือ น้ำตาล หรือสารกันบูด เพิ่มเข้าไปในระหว่างกระบวนการแปรรูป ซึ่งการรับประทานอาหารที่ใส่สารปรุงแต่งเหล่านี้ในปริมาณมาก ก็อาจจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคไต หรือโรคหัวใจได้
จึงอาจสรุปได้ว่า แม้ว่าอาหารกระป๋องนั้นอาจจะมีคุณค่าทางสารอาหารมากกว่าอาหารสดตามปกติ แต่การรับประทานอาหารกระป๋องก็ยังนำมาซึ่งความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ คุณจึงควรเลือกรับประทานอาหารกระป๋องที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพดี และมีปริมาณของสารปรุงแต่งน้อย หรือทางที่ดีที่สุดจึงควรเลือกอาหารปรุงสุกสดใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัย และไร้สารปนเปื้อนที่อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณจะดีกว่าค่ะ
[embed-health-tool-bmr]