ในปัจจุบัน หลากหลายบริษัทด้านการแพทย์ ได้เร่งแข่งขันกันผลิต วัคซีนโควิด-19 ออกมา เพื่อช่วยรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงทั่วโลก ทำให้มีวัคซีนโควิด-19 ชนิดต่าง ๆ ออกมา แต่ ชนิดของวัคซีนโควิด-19 นั้นจะมีอะไรบ้าง และแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร มาหาคำตอบพร้อมกันกับ Hello คุณหมอ ได้เลยค่ะ
ชนิดของวัคซีนโควิด-19 ที่มีในไทย
วัคซีนโควิด-19 ในปัจจุบันมีหลากหลายชนิด แบ่งออกตามยี่ห้อหรือบริษัทที่ผลิตวัคซีนนั้น ๆ และแต่ละประเทศก็อาจจะเลือกใช้วัคซีนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะสั่งวัคซีนชนิดไหนไว้ โดยชนิดของ วัคซีนโควิด-19 ที่มีอยู่ในประเทศไทยตอนนี้ มีอยู่ 2 ชนิดหลัก ๆ ดังนี้
- แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca)
วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนที่นำเอารหัสพันธุกรรมสำคัญของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 (เชื้อโรคโควิด-19) มาแทรกลงในไวรัสโรคหวัดธรรมดาที่ไม่เป็นอันตราย เมื่อเชื้อไวรัสหวัดธรรมดาที่มีสารพันธุกรรมของเชื้อก่อโรคโควิด-19 เข้าสู่ร่างกาย จะทำการสร้างโปรตีนที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้จดจำและหาทางต่อต้านไวรัสนี้ ทำให้เมื่อร่างกายของเราได้รับเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ขึ้นมาจริง ๆ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราก็จะพร้อมสำหรับการต่อต้านไวรัสโควิด-19 นั้น
วัคซีนชนิดนี้สามารถใช้ได้กับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ผลข้างเคียงที่อาจพบได้หลังจากฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ได้แก่ ปวดเมื่อย เหนื่อยล้า ปวดหัว มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น ผลข้างเคียงเหล่านี้จะมีอาการไม่รุนแรง และมักจะหายไปได้เองภายใน 1-2 วัน ส่วนผลข้างเคียงที่รุนแรงได้แก่ ลิ่มเลือดอุดตัน และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ แต่ผลข้างเคียงเหล่านี้ค่อนข้างหายาก และมีโอกาสในการเกิดค่อนข้างต่ำ
นอกจากนี้ วัคซีนชนิดนี้ยังไม่ค่อยแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เนื่องจากเป็นวัคซีนที่เชื้อยังมีชีวิตอยู่ หากระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่ดีพออาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ต้องฉีดทั้งหมด 2 เข็ม ห่างกันประมาณ 10-12 สัปดาห์
- ซิโนแวค (Sinovac)
วัคซีนซิโนแวค หรืออีกชื่อหนึ่งคือ วัคซีนโคโรนาแวค (CoronaVac) คือ วัคซีนโควิด-19 ประเภทเชื้อตาย หมายถึงการนำเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ที่ตายไปแล้วมาฉีดเข้าสู่ร่างกาย เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสเหล่านั้น เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสที่ตายแล้ว จึงไม่มีความเสี่ยงว่าจะก่อให้เกิดโรคติดเชื้อนั้น ๆ หากผู้รับวัคซีนมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ แต่ในขณะเดียวกัน วัคซีนเชื้อตายก็อาจจะมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างระบบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสนั้นต่ำกว่าวัคซีนประเภทอื่นด้วยเช่นกัน จากผลการวิจัยจากประเทศบราซิล พบว่า วัคซีนโควิด-19 ชนิดซิโนแวค มีประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50% เท่านั้น
ทางกรมควบคุมโรค กำหนดให้ฉีดวัคซีนซิโนแวคกับผู้ที่มีอายุ 18-59 ปี ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย คือ มีอาการปวดในบริเวณที่ฉีดยา ปวดหัว เหนื่อยล้า ส่วนผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ หนาวสั่น เป็นไข้ คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดท้อง ผื่นแดง ตะคริว เป็นต้น นอกจากนี้ วัคซีนโควิด-19 ยังอาจทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้ เช่นเดียวกับวัคซีนชนิดอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้วัคซีนกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น เบาหวาน ลมชัก เกล็ดเลือดต่ำ ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาทางจิต ควรระมัดระวังอย่างมากในการรับวัคซีนชนิดนี้ และควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับสภาวะเหล่านี้ให้แพทย์ทราบก่อนรับวัคซีน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายหลังจากได้รับวัคซีน
วัคซีนซิโนแวค ต้องฉีดทั้งหมด 2 เข็ม ห่างกันประมาณ 2-4 สัปดาห์
ชนิดของวัคซีนโควิด-19 อื่น ๆ
นอกเหนือจาก วัคซีน 2 สองชนิดหลักที่มีอยู่ในเมืองไทยแล้ว ยังมี วัคซีนโควิด-19 ชนิดอื่นที่ใช้กันในต่างประเทศด้วย ได้แก่
- วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer-BioNTech) เป็นวัคซีนประเภท mRNA หมายถึงวัคซีนที่ผลิตขึ้นจากสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสก่อโรค นำมาฉีดเข้าร่างกายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกัน จากงานวิจัยปัจจุบันพบว่ามีประสิทธิภาพมากถึง 95% จากคำแนะนำของ ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ (CDC) ให้ฉีดวัคซีนชนิดนี้กับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
- วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) เป็นวัคซีนประเภท mRNA อีกเช่นกัน มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพใกล้เคียงกับวัคซีนไฟเซอร์ จากคำแนะนำของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ ให้ฉีดวัคซีนชนิดนี้กับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson’s Janssen) เป็นวัคซีนประเภท Viral Vector เช่นเดียวกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ใช้กับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในปัจจุบัน เป็น วัคซีนโควิด-19 ชนิดเดียวที่ต้องฉีดเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น
- วัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) เป็นวัคซีนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศจีนและอื่น ๆ เป็นวัคซีนประเภทเชื้อตาย จากผลการวิจัยในปัจจุบัน ถือว่ามีประสิทธิภาพประมาณ 79% ในการป้องกันโควิด-19 ใช้กับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ุถึงแม้วัคซีนเหล่านี้จะถือว่าค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง และได้รับการรับรองตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) แต่การรับวัคซีนทุกชนิดย่อมมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงเสมอ หากคุณสังเกตพบอาการความผิดปกติหลังได้รับวัคซีน ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อทำการรักษาอาการอย่างเหมาะสมให้ทันท่วงที