ทำงานที่บ้าน ในช่วงกักตัว อย่างไรให้ได้งานเมื่ออยู่กับลูก
ในช่วงกักตัวอยู่บ้าน หลายๆ บ้านที่มีลูก และต้องเลี้ยงลูกไปด้วยในช่วงนี้ อาจจะยังหาความลงตัวไม่ได้ งานก็ต้องทำ ลูกก็ต้องเลี้ยง ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด แต่เคล็ดลับเหล่านี้อาจช่วยให้คุณ ทำงานอยู่บ้าน ในช่วงกักตัว ในขณะที่ต้องเลี้ยงลูกไปด้วยได้
แบ่งเวลาทำงานและดูแลลูกให้ชัดเจน
จากผลการวิจัยจากการที่ศึกษาคนทำงาน 185 ล้านคน โดยเฉลี่ยแล้วคนเรานั้นทำงานอย่างเต็มที่ได้ 2 ชั่วโมง 48 นาที ซึ่งเป็นเวลา 2 ชั่วโมงที่จะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ หากคุณมีการจัดสรรเวลาในการทำงานที่ดี โดยใช้เวลาที่ทำงาน ทำอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ช่วยให้งานออกมาดีได้ ที่สำคัญยังมีเวลาในการดูแลลูกอีกด้วย หรือคุณอาจเลือกทำงานในช่วงเช้าก่อนที่เด็ก ๆ จะตื่น จะได้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น หรือทำงานในช่วงที่เขาเข้านอนแล้ว
ตั้งเป้าหมายในการทำงาน
การทำงานในบ้านที่มีเด็ก ๆ อยู่ด้วยนั้น อาจเป็นปัญหาในการทำงานของคุณ ทั้งเสียงดัง และต้องเลี้ยงเขาไปด้วย ดังนั้นการตั้งเป้าหมายในการทำงานอาจช่วยกระตุ้นการทำงานได้ ที่สำคัญควรเลือกตั้งเป้าหมายเป็นรายสัปดาห์แทนที่จะตั้งเป้าหมายเป็นรายวัน เพราะการตั้งเป้าหมายเป็นรายวันนั้นจะยิ่งเพิ่มความเครียดให้คุณได้ โดยเริ่มแยกสิ่งที่ต้องทำในแต่ละสัปดาห์ แบ่งตามความด่วนของงานและเริ่มอาจเริ่มต้นทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน เพราะการทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เสร็จจะช่วยให้คุณมีกำลังใจในการทำงานที่ดีขึ้น
ใส่ใจกับความต้องการของเด็ก ๆ
ในช่วงกักตัว เด็ก ๆ หลายคนอาจจะมีพื้นที่ในการวิ่งเล่นไม่มากพอ และต้องอยู่แต่ในบ้าน ทำให้พวกเขาอาจเกิดความเครียด หงุดหงิด เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น นั้นยิ่งทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าไปกับมันมากขึ้น ทั้งงานที่ต้องทำและต้องรองรับอารมณ์หงุดหงิดของลูก ๆ ดังนั้นคุณต้องพยายามเข้าใจอารมณ์ที่เกิดขึ้นของพวกเขา และลองปรับกิจกรรมให้มีความเหมาะสมกับพวกเขามากขึ้น นอกจากนี้การเปิดเพลงภายในบ้านยังช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้นได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็กด้วย
มีตารางเวลาในการทำกิจกรรมสำหรับพวกเขา
แม้ในช่วงกักตัวนี้ เด็ก ๆ จะไม่ได้ไปโรงเรียน แต่ผู้ปกครองก็ต้องจัดตารางเวลาในการเรียนรู้ และตารางเวลาในการทำกิจกรรมให้พวกเขา เพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้สึกเบื่อที่ต้องอยู่แต่บ้าน แต่รู้สึกหงุดหงิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยคุณพ่อคุณแม่ควรจัดตารางเวลาในการเรียนรู้ให้มีเหมาะกับเด็กแต่ละคน โดยตัวเด็กก็จะมีความต้องการและความสามารถในการเรียนรู้แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการจัดตารางการเรียนรู้ควรยึดตามความต้องการของตัวเด็กเป็นหลัก และปรับให้มีความเหมาะสม ทั้งระยะเวลา และความเข้มข้นของการเรียนรู้