Gangrene มีกี่ชนิด แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร
แผลเนื้อตายอาจเเบ่งหลัก ๆ ตามสาเหตุและลักษณะแผลเบื้องต้นได้ดังนี้
- Dry Gangrene คือ แผลเนื้อตายที่เกิดจากการขาดเลือด ผิวหนังเเละเนื้อเยื่อส่วนที่ขาดเลือดจะแห้ง หดตัว และเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ จนสุดท้าย จะฝ่อตัวลงและเปลี่ยนเป็นสีดำในที่สุด แผลเนื้อตายชนิดนี้มักไม่ลุกลามไปบริเวณใกล้เคียงหากไม่มีการติดเชื้อแทรกซ้อน และมักเกิดกับอวัยวะส่วนปลายเช่น นิ้วเท้า
- Wet Gangrene คือ แผลเนื้อตายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย อาจเกิดได้ทั้งแผลติดเชื้อที่ทรุดลงจนเลือด หรือ เกิดจาก Dry gangrene เเล้วมีการติดเชื้อเเทรกซ้อนก็ได้ อาการและลักษณะแผลโดยรวมจะคล้ายกับ Dry Gangrene แต่อาจมีตุ่มน้ำใส หนอง ขอบเเผลพุพองร่วมด้วยได้ และผู้ที่มี wet gangrene อาจมีไข้ เนื่องจากการอักเสบติดเชื้อ ร่วมกับแผลมีแนวโน้มลุกลามไปยังบริเวณข้างเคียงได้มากกว่า Dry Gangrene
- Gas Gangrene คือ แผลเนื้อตายที่มีการเชื้อเเบคทีเรีย ชื่อ คลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ (Clostridium Perfringens) ซึ่งเป็นเชื้อที่เจริญในภาวะที่ไม่มีออกซิเจน จึงมีก่อการติดเชื้อในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกลงไปได้ดี ลักษณะเเผลอาจพบมีผิวหนังซีดซึ่งจะกลายเป็นสีเทาและสีม่วงอมแดงในภายหลัง ร่วมกับหากกดบริเวณที่ติดเชื้อ อาจรู้สึกคล้ายมีฟองอากาศอยู่ข้างใน เนื่องจากคลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์จะสร้างก๊าซออกมาระหว่างที่เจริญเติบโต
Gangrene รักษาอย่างไร
เมื่อมีเนื้อตายเน่า คุณหมออาจรักษาอาการต่าง ๆ ด้วยวิธีการต่อไปนี้
- ผ่าตัดเนื้อตายเน่าออก เพื่อป้องกันการลุกลามหรือการติดเชื้อเพิ่มเติม หากมีเนื้อตายเกิดขึ้นเป็นวงกว้างหรือมีเเนวโน้มลุกลาม บางกรณีคุณหมออาจจำเป็นต้องผ่าตัดอวัยวะส่วนนั้นทิ้ง มักพบในผู้ที่มีอาการเนื้อตายบริเวณเท้าหรือขาที่ไม่ตอบสนองด้วยวิธีการรักษาอื่น ๆ
- ยาฆ่าเชื้อเเบคทีเรีย ซึ่งหากมีทั้งรูปเเบบฉีดเข้าหลอดเลือดเเละเเบบรับประทาน เพื่อป้องกันมิให้การติดเชื้อลุกลาม
- ผ่าตัดหลอดเลือดที่ตีบแคบหรืออุดตัน เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะบริเวณขาหรือเท้า ซึ่งมักช่วยให้อาการเนื้อตายเน่าดีขึ้น
- การรักษาด้วยออกซิเจนความดันสูง (Hyperbaric oxygen therapy) เพื่อให้ออกซิเจนไปยังบริเวณแผลได้ดีขึ้น และช่วยชะลอการเติบโตของแบคทีเรีย และช่วยทำให้เเผลหายเร็วขึ้น
Gangrene ป้องกันได้หรือไม่
ผู้ป่วยเบาหวานที่หมั่นดูแลสุขภาพตนเอง ไปพบคุณหมอและรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ มักจะลดความเสี่ยงของการเกิดแผลเนื้อตายได้ รวมทั้งอาจปฏิบัติตามคำเเนะนำในการดูเเลตนเองเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมาย โดยแนะนำว่า ผู้ป่วยเบาหวานควรควบคุมระดับน้ำตาลก่อนมื้ออาหารให้อยู่ระหว่าง 80-130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และ สูงไม่เกิน 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หลังมื้ออาหาร
- ตรวจสอบสุขภาพเท้าทุกวันเป็นประจำว่ามีบาดแผลหรือไม่ หากพบแผล ควรทำความสะอาด ใส่ยาให้เรียบร้อย เเละ หลีกเลี่ยงมิให้แผลเปียกน้ำหรืออับชื้น
- สวมถุงเท้าและรองเท้าที่ห่อหุ้มบริเวณปลายเท้าตลอดเวลาแม้อยู่ในบ้าน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหรือรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ บริเวณเท้า ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้สึกตัว ที่อาจนำไปสู่เเผลเท้าเบาหวานเรื้อรังได้
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปอาจเพิ่มแรงกดต่อหลอดเลือดแดง ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก
- ตรวจสุขภาพเท้าประจำทุกปี
- พยายามกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงตามปลายมือปลายเท้าอยู่เสมอ ด้วยการยกเท้าขึ้นหรือสะบัดมือสะบัดเท้าเมื่ออยู่ในท่านั่ง รวมถึงเลือกทำกิจกรรมที่ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด เช่น การเดิน ปั่นจักรยาน
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย