เมนูนี้ให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 56 กรัม โปรตีน 4 กรัม และไขมัน 9 กรัม
บร็อคโคลี่และเห็ดหอมมีใยอาหารสูง และมีสารประกอบหลายชนิดที่อาจมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสารที่ทำลายเซลล์และทำให้เกิดการอักเสบ ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง ทั้งยังช่วยปรับปรุงการทำงานของเซลล์ ซึ่งอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานและโรคอ้วนลดลง
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Hypertension เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 ทำการวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการบริโภคผักและผลไม้และและอุบัติการณ์ของภาวะความดันโลหิตสูง พบว่า การรับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นในระยะยาวรวมถึงการรับประทานผักผลไม้ทั้งผล คือ รับประทานทั้งเปลือกและเนื้อ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้ โดยเฉพาะการรับประทานบร็อคโคลี่ แครอท เต้าหู้หรือถั่วเหลือง ลูกเกด และแอปเปิ้ล
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร 3 Biotech เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ทำการวิจัยเกี่ยวกับความสามารถในการรักษาโรคเบาหวานและโรคอ้วนของเห็ดชนิดกินได้ พบว่า เห็ดอุดมไปด้วยใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) อัลคาลอยด์ (Alkaloid) ไฟโตเคมิคอล (Phytochemicals) ซึ่งอาจช่วยปรับการทำงานของเซลล์หรือกระบวนการทางชีวเคมีในร่างกาย ส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วนและโรคเบาหวานลดลง ทั้งยังอาจทำให้อาการของโรคดีขึ้นด้วย
-
ต้มจืดตำลึงหมูสับ
เมนูนี้ให้พลังงาน 320 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 7.4 กรัม โปรตีน 43.8 กรัม และไขมัน 14.2 กรัม
เมนูต้มจืดตำลึงให้สารอาหารครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ทั้งยังมีน้ำตาลน้อย และมีประโยชน์จากตำลึงซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟีนอล ฟลาโวนอยด์ ซาโปนิน ที่ช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน และอาจป้องกันโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Traditional and Complementary Medicine เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2560 ทำการวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติในการกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน การต้านอนุมูลอิสระ การต้านกระบวนการไกลเคชั่น (Antiglycation) ซึ่งเป็นกระบวนการที่น้ำตาลในผิวหนังจับตัวกับคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวจนอาจส่งผลให้เกิดริ้วรอยและแก่ก่อนวัย และความเป็นไปได้ในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานของตำลึง พบว่า ตำลึงอาจมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟีนอล (Polyphenols) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ซาโปนิน (Saponins) ที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากนี้ ยังอาจช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลินหรือการตอบสนองต่ออินซูลิน ซึ่งส่งผลดีต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน
-
สลัดผักทูน่า
เมนูนี้ให้พลังงาน 46.24 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 22.24 กรัม โปรตีน 14.26 กรัม และไขมัน 1.32 กรัม
เมนูสลัดผักทูน่ามีผักที่มีใยอาหารสูงหลายชนิดและมีปลาทูน่าที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งอาจส่งผลดีต่อคนเป็นเบาหวานและความดันสูง นอกจากนี้ ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานและความดันสูง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ได้ด้วย
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Cardiology เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2549 ทำการวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคปลาทูน่าหรือปลาย่างหรือปลาอบกับโครงสร้างหัวใจ การทำงานของหัวใจ และการไหลเวียนโลหิต เมื่อเปรียบเทียบกับการบริโภคปลาทอด พบว่า การบริโภคปลาทูน่า ปลาย่าง หรือปลาอบเชื่อมโยงกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดที่ดีขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว และภาวะหัวใจล้มเหลวได้ด้วย
อาหารที่คนเป็นเบาหวานและความดันควรหลีกเลี่ยง
คนเป็นเบาหวานและความดันควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ และโซเดียมสูง เช่น ข้าวขาว ธัญพืชไม่ขัดสี เค้ก คุกกี้ น้ำหวาน น้ำผลไม้ เนื้อแดง เนื้อแปรรูป อาหารแปรรูป น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม เพราะอาจมีส่วนทำให้น้ำตาลและไขมันในเลือดสูงขึ้น จนควบคุมอาการของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้ยาก ทั้งยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ได้ด้วย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย