ตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์ (Bleeding During Pregnancy) ถือเป็นภาวะปกติในหญิงตั้งครรภ์ โดยมักเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ 1-12 เดือน แต่ในบางครั้งการมีเลือดออกอาจเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติในระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งต้องได้รับการตรวจจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำ
คำจำกัดความ
ตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์ (Bleeding During Pregnancy) คืออะไร
ตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์ (Bleeding During Pregnancy) ถือเป็นภาวะปกติในหญิงตั้งครรภ์ โดยมักเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ 1-12 เดือน แต่ในบางครั้งการมีเลือดออกอาจเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติในระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งต้องได้รับการตรวจจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำ เพราะหากไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้
พบได้บ่อยเพียงใด
อาการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์ มักพบในหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 1-12 เดือน
อาการ
อาการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์
20 % ในผู้หญิงตั้งครรภ์มักมีเลือดออกในช่วง 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ โดยมีอาการแสดงออก ดังต่อไปนี้
- เลือดล้างหน้าเด็ก ผู้หญิงบางคนอาจไม่รู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ เข้าใจผิดคิดว่าเป็นประจำเดือน โดยปกติเลือดล้างหน้าเด็กจะไหลออกมาเพียงเล็กน้อยคล้ายรอบเดือน โดยมักพบอาการนี้ใน 6-12 วันแรกหลังจากตั้งครรภ์
- ภาวะแท้งบุตร เนื่องจากการแท้งบุตรมักเกิดขึ้นบ่อยสุดในช่วง 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ หากคุณมีภาวะแท้งบุตรจะมีเลืออดออกและมีอาการปวดบริเวณท้องน้อย และมีเนื้อเยื่อไหลออกมาจากช่องคลอด
- ตั้งครรภ์นอกมดลูก การท้องนอกมดลูกนี้ อาจเกิดขึ้นในการตั้งครรภ์ประมาณ 2% เท่านั้น จะมีอาการปวดบริเวณท้องน้อย หน้ามืด รวมถึงมีอาการตะคริว
- ครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นภาวะที่พบยากมาก เกิดจากเนื้อเยื่อที่ผิดปกติเติบโตภายในมดลูกแทนที่จะเป็นทารก ส่งผลให้ผู้หญิงที่เกิดครรภ์ไข่ปลาอุก มีอาการคลื่นไส้ และอาเจียนอย่างรุนแรง มดลูกขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ควรไปพบหมอเมื่อใด
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์
สาเหตุการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์ในช่วงอายุครรภ์ 1-12 เดือนแรก มีดังต่อไปนี้
- การตั้งครรภ์นอกมดลูก ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วจะถูกปลูกถ่ายและเจริญเติบโตนอกมดลูก เช่น ในท่อนำไข่
- ภาวะแท้งบุตร เกิดขึึ้นประมาณ 15-20% ของการตั้งครรภ์ในช่วง 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
- ครรภ์ไข่ปลาอุก ความผิดปกติของการปฏิสนธิที่ส่งผลให้เนื้อเยื่อเจริญเติบโตผิดปกติในมดลูก
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัย อาการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์
ในเบื้องต้นแพทย์จะทำการสอบถามประวัติและอาการของหญิงตั้งครรภ์ หากมีการตกเลือดในช่วงตั้งครรภ์ในระยะ 1-12 สัปดาห์แรก แพทย์อาจทำการตรวจช่องคลอด อัลตราซาวด์ รวมถึงการตรวจเลือด เพื่อตรวจดูความผิดปกติ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ตรวจช่องคลอด เพื่อตรวจสอบขนาดมดลูกและปริมาณเลือดออก
- ตรวจเลือด เพื่อตรวจกรุ๊ปเลือดและเช็กระดับฮอร์โมนของการตั้งครรภ์
- อัลตราซาวด์ ใช้ระยะเวลาประมาณ 15-20 นาที เพื่อตรวจดูความผิดปกติ
การรักษา อาการการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์
วิธีการรักษา อาการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์ จะขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการ กรณีที่ผู้ตั้งครรภ์มีเลือดออกหนักและอาจเกิดภาวะแท้งบุตร บางครั้งในระหว่างการแท้งบุตรอาจมีเนื้อเยื่อบางส่วนอยู่ภายในมดลูก แพทย์อาจทำการขูดมดลูก หรือทำการผ่าตัด
หากผู้ป่วยมีกรุ๊ปเลือดเป็นลบ แพทย์อาจฉีดอิมมูโนโกลบูลิน (Immune Globulin) เพื่อป้องกันภาวะภูมิคุ้มกันไม่เข้าในระบบเลือดภายในอนาคต
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองเพื่อรักษา อาการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์
ถึงแม้ว่าจะไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะเพื่อป้องกันภาวะแท้งบุตร เราสามารถป้องกัน อาการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์ ได้โดยปฏิบัติตามคำแนะนำเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในขณะที่มีเลือดออก
- คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อดูอาการผิดปกติภายในร่างกาย
[embed-health-tool-ovulation]