backup og meta

พัฒนาสมองทารกในครรภ์ ที่คุณแม่สามารถทำได้ด้วย เสียงเพลง

เป็นที่ทราบกันดีว่า เสียงดนตรีหรือเสียงเพลงนั้นมอบความผ่อนคลายและความเพลิดเพลินให้กับคนได้ทุกเพศทุกวัย รวมถึงสามารถช่วย พัฒนาสมองทารกในครรภ์ ได้ด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อควรรู้และแนวทางปฏิบัติมาฝากให้บรรดาคุณแม่ได้ไปลองทำตามกันแล้ว

[embed-health-tool-due-date]

การ พัฒนาสมองทารกในครรภ์

ก่อนอื่นเราอยากชวนคุณแม่มารู้จักกับส่วนต่าง ๆ ในสมองของทารกที่สำคัญกันก่อน ซึ่งประกอบไปด้วย

  • ซีรีบรัม (Cerebrum) เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของสมอง ทำหน้าที่ในเรื่องของการจดจำและรู้สึก
  • ซีรีเบลลัม (Cerebellum) ซึ่งอยู่ใต้ซีรีบรัม ทำหน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้อให้สัมพันธ์กันกับร่างกาย
  • ก้านสมอง (Brainstem) ทำหน้าที่เชื่อมระหว่าง สมองใหญ่ กับ ไขสันหลัง ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิต
  • ต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland) มีขนาดรูปร่างคล้ายกับถั่ว ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต รวมถึงระบบการเผาผลาญอาหาร และอื่น ๆ
  • ไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย อารมณ์ความรู้สึก การนอนหลับ-ตื่น การหิว การอิ่ม

ระยะของการ พัฒนาสมองทารกในครรภ์

การพัฒนาสมองทารกในครรภ์ แบ่งออกเป็น 3 ไตรมาส ดังนี้

หลังจากปฏิสนธิ ทารกในครรภ์จะเริ่มพัฒนานิวรัล เพลต (Neural plate) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อของตัวอ่อนชั้นนอกสุด จากนั้นนิวรัล เพลต จะพับขึ้นและเกิดเป็นท่อเรียกว่า นิวรัล ทูบ (Neural tube) ซึ่งจะพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ สมอง (อยู่ด้านหัว) และไขสันหลัง (อยู่ด้านหาง)

โดยสมองจะถูกพัฒนาเป็นสมองส่วนหน้า และก้านสมอง ขณะเดียวกันเซลล์สมองของทารกมีการแบ่งตัวและถูกสร้างขึ้นเป็นล้าน ๆ เซลล์ เพื่อผลิตกล้ามเนื้อ แขน ขา ออกมา ส่งผลให้ทารกพัฒนาเรื่องของการสร้างประสาทสัมผัสในช่วงท้ายของไตรมาสแรก

  • ไตรมาสที่สอง

สมองของทารกจะควบคุมกะบังลมและการหดตัวของกล้ามเนื้อหน้าอกอย่างสม่ำเสมอเป็นการฝึกระบบหายใจ ในช่วงอายุครรภ์ 16 – 21 สัปดาห์ ทารกจะเริ่มดูดกลืนน้ำคร่ำ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าลูกน้อยของคุณมีพัฒนาทางด้านการรับรสแล้ว เมื่ออายุครรภ์ได้ 18 สัปดาห์ ทารกจะสามารถตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นได้ ลูกน้อยจะเริ่มเคลื่อนไหว ดิ้น หรือเตะท้องคุณเพื่อตอบสนองในสิ่งที่เขาได้ยินหรือรู้สึก

ในช่วงปลายไตรมาสที่สองนี้ ก้านสมองของทารกพัฒนาเกือบสมบูรณ์แล้ว ทำให้ทารกสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงดังจากภายนอกท้องของแม่ และสามารถหันหาเสียงของแม่ได้

  • ไตรมาสที่สาม

สมองของทารกจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เซลล์ประสาทจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว และยิ่งไปกว่านั้น สมองของลูกน้อยที่เคยมีพื้นผิวเรียบจะเริ่มปรากฏรอยหยักให้เห็น เหมือนรูปร่างสมองที่เห็นกันทั่วไป ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณที่บอกถึงความเฉลียวฉลาดของทารก ในขณะเดียวกัน ซีรีบลัมในสมองมีการพัฒนาไปพร้อมกันช่วยให้กระตุ้นในเรื่องของการจดจำ อารมณ์ ความรู้สึก

การพัฒนาของสมองทารกในครรภ์ยังขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ของคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร หลักโภชนาการ หรือการใช้ทักษะอื่น ๆ เสริม  เช่น การเปิดเพลงในด้านภาษาให้ลูกน้อยได้จดจำ การพูดคุยให้รู้ถึงเสียงของพ่อและแม่ ตั้งแต่อยู่ในท้อง

เสียงเพลง มีผลดีต่อสมองของทารกในครรภ์อย่างไร

การเปิดเสียงดนตรีให้ลูกน้อยฟังเป็นการช่วยพัฒนาสมองทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และยังได้ผลดีเหล่านี้ตามมา

  • ทารกจะรู้สึกผ่อนคลาย มีสมาธิ สงบขึ้น
  • สามารถเพิ่มพัฒนาการด้านความจำ และลำดับความคิดทางสมองได้เป็นอย่างระเบียบ
  • กระตุ้นการพัฒนาทางการได้ยินให้มีประสิทธิภาพ
  • รับรู้ถึงสิ่งกระตุ้นจากภายนอก เช่น เสียงของคุณพ่อและคุณแม่

นักวิจัยท่านหนึ่งสังเกตว่า หลังจากลูกน้อยออกมาลืมตาดูโลกแล้ว หากเปิดเพลงซ้ำกับที่เคยเปิดตอนเขายังอยู่ในครรภ์ เขาจะแสดงถึงกิริยาคล้ายคลึงกับตอนยังอยู่ในท้องของแม่ เช่น อาการนิ่งสงบ แจ่มใส หลับง่าย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการพัฒนาของสมองที่มีต่อระบบความจำด้วย เสียงเพลง

เสียงเพลง แบบไหนที่ควรเปิดให้ลูกน้อยในครรภ์ฟัง

คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นิยมเปิดเพลงคลาสสิกหรือเพลงกล่อมเด็ก เพราะเสียงเพลงเหล่านี้มีความอ่อนโยน นุ่มนวล สามารถกล่อมลูกน้อยให้เคลิ้มหลับไปกับเสียงเพลงได้ ไม่ดิ้นรุนแรงจนรบกวนคุณแม่ในขณะการพักผ่อน

ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเด็กเชื่อว่า การให้ทารกในครรภ์ฟังเสียงเพลงแนวคลาสสิก ยังสามารถกระตุ้นสมองของเขาในการเพิ่มไอคิว (IQ) และเสริมสร้างทางด้านความคิดสร้างสรรค์

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ทารกในครรภ์จะห้ามฟังเพลงประเภทอื่น คุณแม่ยังสามารถให้เขาฟังเพลงที่คุณแม่ชอบได้ตามปกติ เพียงแต่ลดระดับเสียงให้อยู่ในระดับ 50-60 เดซิเบล หรือเทียบเท่ากับระดับเสียงพูดแบบปกติ เพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงที่ออกมากระทบกับทารกในครรภ์

เคล็ดลับเพิ่มเติม สำหรับการดูแลทารกในครรภ์

  • คุณแม่ควรกำจัดความเครียดหรือลดความวิตกกังวล เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ สามารถส่งผลกระทบต่อการพัฒนาระบบประสาทในสมองของเด็กทารกได้
  • ดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เลือกอาหารที่สร้างเสริมสุขภาพและโภชนาการ เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่
  • หลีกเลี่ยงสารเคมีหรือมลภาวะเป็นพิษ เช่น การย้อมผม สูดดมควันรถ
  • ออกกำลังกายอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่ควรออกกำลังกายผาดโผนหรือหนักจนเกินไป เพราะอาจทำให้คุณเกิดภาวะแท้งบุตรได้
  • พูดคุยกับลูกน้อยของคุณอยู่บ่อย ๆ เพื่อกระตุ้นความจำ
  • เสริมสร้างทักษะไอคิว (IQ) ด้วยการเปิดเพลงช้า ๆ สบาย ๆ
  • คุณแม่สายปาร์ตี้ ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Everything You Need to Know About Fetal Brain Development https://www.verywellfamily.com/everything-you-need-to-know-about-fetal-brain-development-4707581 Accessed December 06, 2019.

Fetal Development: Baby’s Nervous System and Brain https://www.whattoexpect.com/pregnancy/fetal-development/fetal-brain-nervous-system/ Accessed December 06, 2019.

Cerebrum https://www.britannica.com/science/cerebrum Accessed December 06, 2019.

Cerebellum https://www.healthline.com/human-body-maps/cerebellum#1 Accessed December 06, 2019.

Medical Defintion of Brain stem https://www.medicinenet.com/script/main/art.asp?articlekey=2517

Pituitary tumors https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/pituitary-tumors/symptoms-causes/syc-20350548 Accessed December 06, 2019.

Hypothalamus Overview https://www.healthline.com/human-body-maps/hypothalamus Accessed December 06, 2019.

Womb Tunes: Music Your Baby Will Love https://www.healthline.com/health/pregnancy/music-for-baby-in-womb#Turn-down-the-volume- Accessed December 06, 2019.

Q&A: Should I Play Mozart For My Baby? https://www.parents.com/pregnancy/my-baby/qa-should-i-play-mozart-for-my-baby/ Accessed December 06, 2019.

เวอร์ชันปัจจุบัน

04/04/2025

เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: พลอย วงษ์วิไล


บทความที่เกี่ยวข้อง

สารอาหารบำรุงนมแม่ และข้อแนะนำสำหรับแม่ให้นมลูก

โยคะสำหรับคนท้อง มีประโยชน์ต่อสุขภาพคุณแม่และทารกอย่างไร


ตรวจสอบข้อมูลความถูกต้อง โดย ทีม Hello คุณหมอ · เขียน โดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไข 04/04/2025

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา