การผ่าคลอดในปัจจุบัน แพทย์จะพิจารณาการผ่าตัดคลอดในกรณีฉุกเฉิน หรือมีข้อบ่งชี้สำคัญที่ทำให้แม่และลูกในท้องเกิดความเสี่ยง เช่น ทารกในครรภ์ตัวใหญ่จนไม่สามารถคลอดธรรมชาติ ท่าของทารกในครรภ์อยู่ในแนวที่ผิดปกติ ทารกไม่กลับหัว หรือพบปัญหารกเกาะต่ำ แม่มีโรคประจำตัว จนอาจมีความเสี่ยงหากต้องคลอดธรรมชาติ สาเหตุที่แพทย์ต้องเลือกการผ่าตัดคลอดเฉพาะบางกรณีนั้น เป็นเพราะว่า การผ่าคลอดมีความเสี่ยงมากกว่าการคลอดทางช่องคลอด อีกทั้งยังต้องใส่ใจสุขภาพ ดูแลแผลผ่าคลอด และมี ข้อห้ามหลังผ่าคลอด ที่ต้องระวังอีกด้วย
[embed-health-tool-due-date]
6 ข้อห้ามหลังผ่าคลอด ที่คุณแม่ควรระวัง
การทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่แม่เคยทุ่มเททำอย่างเต็มที่ อาจต้องลดระดับลงมาจนกว่าร่างกายแม่จะหายดี สำหรับ ข้อห้ามหลังผ่าคลอด หรือสิ่งที่คุณแม่ห้ามทำหลังผ่าคลอด มีดังนี้
- ไม่ยกของหนัก เพราะสภาพร่างกายของคุณแม่ยังไม่แข็งแรงพอ อีกทั้งยังต้องระวังไม่ให้แผลผ่าคลอดปริหรืออักเสบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวหลังผ่าคลอดได้
- ไม่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว คุณแม่อาจจะคิดว่า ร่างกายแข็งแรงแล้ว อยากลุก อยากเดิน ก้าวเท้าให้ไวให้เหมือนกับก่อนผ่าคลอด แต่ถ้าแม่เคลื่อนไหวเร็วเกินไป อาจส่งผลให้รู้สึกเจ็บแผลหน้าท้องได้ จึงควรค่อย ๆ เดิน จนกว่าร่างกายจะเริ่มปรับตัวได้ แผลหายสนิทแล้วค่อยกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยทั่วไปแล้ว แผลผ่าคลอดทางหน้าท้องจะสมานเป็นปกติประมาณ 1 เดือนหลังคลอด
- ไม่ออกกำลังกายหนักเกินไป สำหรับแม่ที่เคยออกกำลังกายเป็นประจำ อาจจะคิดว่าแข็งแรงดีแล้ว อยากกลับไปออกกำลังกายตามเดิม แต่ร่างกายแม่นั้นต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูตัวเอง สำหรับแม่ผ่าคลอดควรขยับร่างกายและเคลื่อนไหวเป็นประจำ แต่ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหักโหม เพราะอาจเกิดอันตรายได้
- ไม่ขาดน้ำดื่ม ร่างกายของแม่หลังผ่าคลอดต้องการน้ำในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่เรื่องการดูแลสุขภาพเท่านั้น แต่แม่หลังผ่าคลอดมักจะมีอาการท้องผูก แม่จึงควรจิบน้ำเปล่าระหว่างวันอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายของแม่ไม่ขาดน้ำ
- ไม่ปล่อยผ่านอาการผิดปกติ แม่หลังผ่าคลอดสามารถสังเกตอาการผิดปกติได้จากน้ำคาวปลา ในวันแรก ๆ น้ำคาวปลาจะมีสีออกแดงสด แล้วสีจะค่อย ๆ อ่อนลงตามเวลา แต่ถ้ายังมีเลือดสีแดงสดออกมาเกิน 1 สัปดาห์ ลิ่มเลือดใหญ่ผิดปกติ เริ่มมีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยเนื้อตัว รู้สึกไม่สบาย อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อได้
- ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์หลังผ่าคลอด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการมีเพศสัมพันธ์หลังผ่าคลอด
นอกจากนี้ แม่หลังผ่าคลอดยังต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ และเน้นการรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งอาจช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วและผลิตน้ำนมได้ดี
ภายหลังการผ่าคลอด แม่อาจจะกังวลและห่วงใยต่อการดูแลสุขภาพทารกมากกว่าตนเอง แต่แม่ก็ควรใส่ใจดูแลร่างกายเพื่อฟื้นฟูกลับมาให้ได้เร็วที่สุด จะได้มีเรี่ยวแรงพอจะดูแลลูกน้อย อีกทั้งยังสามารถผลิตน้ำนมแม่ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารมาให้ลูกน้อยกินได้อย่างเพียงพอ ดังนั้น การที่สามีและคนในครอบครัวมาช่วยแบ่งเบาในการเลี้ยงดูทารกจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แม่ได้มีเวลาพักผ่อนจากอาการเหนื่อยล้า มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และมีสุขภาพจิตใจที่ดี พร้อมที่จะเลี้ยงลูกให้เติบโตต่อไป