คุณพ่อคุณแม่อาจสงสัยว่าทารกในวัย 2 เดือนควรฉีดวัคซีนอะไรบ้าง โดยทั่วไป การ ฉีด วัคซีน ทารก 2 เดือน จะฉีดวัคซีนพื้นฐาน 2 ชนิด คือ วัคซีนป้องกันคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี และ ฮิบ ซึ่งเป็นวัคซีนรวมที่ครอบคลุมโรคหลายชนิด และวัคซีนป้องกันโปลิโอชนิดหยอดหรือชนิดฉีด ทั้งนี้ หากคุณพ่อคุณแม่สนใจให้เด็กทารกวัย 2 เดือนรับวัคซีนป้องกันโรคเพิ่มเติม เช่น วัคซีนโรต้า วัคซีนนิวโมคอคคัส ก็สามารถทำได้เช่นกัน
[embed-health-tool-vaccination-tool]
ฉีด วัคซีน ทารก 2 เดือน มีวัคซีนอะไรบ้าง
วัคซีนป้องกันโรคในทารกอายุ 2 เดือน อาจมีดังนี้
วัคซีนพื้นฐาน
- วัคซีนป้องกันคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ (DTP-HB1-Hib) เริ่มฉีดเข็มแรกตอนเด็กอายุ 2 เดือน และจะฉีดอีก 4 ครั้ง เมื่อเด็กมีอายุ 4 เดือน 6 เดือน 1 ปี 6 เดือน และ 12 ปี รวมทั้งหมด 5 ครั้ง
- วัคซีนป้องกันโปลิโอชนิดหยอด (OPV) และชนิดฉีด (IPV) เริ่มฉีดเข็มแรกตอนเด็กอายุ 2 เดือนและจะฉีดอีก 4 ครั้ง เมื่อเด็กมีอายุ 4 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี 6 เดือน
วัคซีนเสริมหรือวัคซีนทางเลือก
เป็นวัคซีนป้องกันโรค แต่ไม่ได้อยู่ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข (วัคซีนพื้นฐาน) อาจเลือกฉีดหรือไม่ฉีดก็ได้ เนื่องจากมีราคาค่อนข้างสูง
- วัคซีนโรต้า (Rotavirus) เป็นวัคซีนชนิดหยอดสำหรับเด็กอายุ 1 เดือนครึ่งถึงประมาณ 4 เดือน (6-15 สัปดาห์) มักเริ่มหยอดเมื่อเด็กอายุ 2 เดือน แบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่
- วัคซีนโรต้าชนิดโมโนวาเลนต์ (Monovalent) ใช้หยอด 2 ครั้ง เมื่อเด็กอายุ 2 เดือนและ 4 เดือน โดยต้องรับห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน (4 สัปดาห์) และโดสสุดท้ายไม่เกินอายุ 8 เดือน
- วัคซีนโรต้าชนิดเพนตาวาเลนต์ (Pentavalent) ใช้หยอด 3 ครั้ง เมื่อเด็กอายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน โดยต้องรับห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน (4 สัปดาห์) และโดสสุดท้ายไม่เกินอายุ 8 เดือน
- วัคซีนนิวโมคอคคัส (Streptococcus pneumoniae) เป็นวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 6 สัปดาห์ถึง 5 ปี หากเริ่มฉีดเมื่อเด็กอายุ 2-6 เดือน ให้ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยแต่ละเข็มควรห่างกัน 1 เดือนถึง 2 เดือน (4-8 สัปดาห์) ในเด็กปกติอาจพิจารณาฉีดแบบ 2+1 (รวมเป็นการฉีด 3 เข็ม) เมื่อเด็กอายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 12-15 เดือน
ฉีด วัคซีน ทารก 2 เดือน มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนในทารกและเด็กเล็ก อาจมีดังนี้
- ไข้สูง
- ร้องไห้งอแง
- อ่อนเพลีย
- ปวดตามข้อ
- ตัวอ่อนปวกเปียก
- ไม่อยากกินนม
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ผิวหนังบริเวณที่ฉีดวัคซีนอาจบวมแดงเป็นเวลา 2-3 วัน และจะหายไปเอง
คำแนะนำสำหรับพ่อแม่ที่พาทารก 2 เดือนไปฉีดวัคซีน
- คุณพ่อคุณแม่ควรพกสมุดวัคซีนของเด็กไปด้วยทุกครั้งเมื่อพาเด็กไปฉีดวัคซีนตามกำหนด เพื่อบันทึกข้อมูลการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน
- หากทารกร้องไห้งอแงขณะฉีดวัคซีน ให้หาสิ่งเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น ของเล่นชิ้นโปรด ตุ๊กตาที่ชอบ หรือพูดคุยหยอกล้อกับทารก อาจช่วยให้ทารกสนใจสิ่งอื่นจนไม่สนใจกับความเจ็บขณะฉีดวัคซีน
- ขณะทารกรับการฉีดวัคซีน อาจให้ทารกดื่มนมแต่ระวังเรื่องการสำลัก และควรอุ้มประคองทารกไว้ให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้ทารกขยับแขนขาจนบาดเจ็บหรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างฉีดวัคซีน และช่วยให้ทารกสงบลงและหายตื่นเต้นกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้เสียงดังหรือการแสดงท่าทางไม่เป็นมิตรเพราะอาจทำให้ทารกตื่นกลัวได้
- หลังฉีดวัคซีน คุณพ่อคุณแม่อาจโอบกอดทารกแล้วโยกตัวไปมาเพื่อปลอบประโลมทารกที่รู้สึกไม่สบายตัวจากวัคซีนที่ฉีดหรือหยอดเข้าร่างกาย
วิธีดูแลทารก 2 เดือนหลังฉีดวัคซีน
วิธีดูแลทารก 2 เดือนหลังฉีดวัคซีน อาจทำได้ดังนี้
- หากเด็กมีไข้ ให้สวมเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี เช่น เสื้อผ้าฝ้ายแบบผูกข้างหน้า
- ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นบิดหมาดมาวางบนแขนหรือบริเวณที่ฉีดวัคซีนเพื่อบรรเทาอาการปวดบวม
- ไม่ควรให้ทารกห่มผ้าหนาเกินไป เพราะอาจทำให้ทารกอึดอัดและร่างกายระบายความร้อนได้ยาก จนอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นได้
- หมั่นเช็ดตัวให้ทารกเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย และให้ดื่มนมบ่อยขึ้น อาการป่วยอาจทุเลาลงและหายไปเองภายใน 24-48 ชั่วโมง แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพาทารกไปพบคุณหมอ