เด็กท้องอืด อาจเกิดจากการมีอากาศหรือก๊าซเข้าสู่ทางเดินอาหารขณะรับประทานอาหารและไปสะสมอยู่ในช่องท้อง หรืออาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ที่ไม่อาจย่อยอาหารก่อนถูกลำเลียงไปยังลำไส้ใหญ่ โดยก๊าซเหล่านี้ประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ ออกซิเจน ไนโตรเจน ไฮโดรเจน มีเธน และกำมะถัน ซึ่งอาจส่งผลทำให้เด็กเรอ คลื่นไส้ และปวดท้องได้
สาเหตุที่ทำให้ เด็กท้องอืด
เด็กท้องอืด อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้
- เด็กไม่อยู่นิ่งขณะรับประทานอาหาร การเคลื่อนไหว หรือเล่นระหว่างการรับประทานอาหาร อาจทำให้เด็กกินเร็ว ซึ่งพฤติกรรมนี้อาจส่งผลให้มีอากาศในลำไส้มากขึ้น และเสี่ยงสำลักได้
- ดูโทรทัศน์ หรือเล่นโทรศัพท์ระหว่างรับประทานอาหาร อาจส่งผลให้เด็กเพลิดเพลิน และเพิกเฉยต่อสัญญาณความอิ่ม และรับประทานอาหารมากไปจนก่อให้เกิดก๊าซได้
- การเลือกอาหารที่ไม่ถูกกับช่องท้องเด็ก เช่น อาหารที่มีไขมันสูง หมากฝรั่ง เครื่องดื่มรสชาติหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เนื่องจากร่างกายของเด็กอาจดูดซึมอาหารได้ไม่เต็มที่ และส่งผลให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย นำไปสู่การเกิดก๊าซในกระเพาะอาหาร ปวดท้อง อาเจียน ท้องร่วงได้
- ดื่มน้ำไม่เพียงพอ หากร่างกายขาดน้ำ หรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดอาการท้องผูก มีก๊าซในกระเพาะอาหาร และไม่สบายท้อง
- แพ้แลคโตส ร่างกายของเด็กที่มีอาการแพ้แลคโตสอาจไม่สามารถผลิตแล็กเทส ที่เป็นเอนไซม์ช่วยสลายแลคโตสในผลิตภัณฑ์ที่ทำการนมได้ จึงอาจส่งผลให้เด็กท้องอืด
- อาการลำไส้แปรปรวน อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้คลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย ปวดหลัง และเหนื่อยล้า
อาการท้องอืดในเด็ก
อาการท้องอืดในเด็ก มีดังนี้
- คลื่นไส้
- เรอ
- ท้องอืด
- ปวดท้อง แสบร้อนในช่องท้อง
- ผายลมมีกลิ่น
- อุจจาระเป็นเลือดหรือมูกเลือด
วิธีรักษาอาการท้องอืดสำหรับเด็ก
การรักษาอาการท้องอืดในเด็ก สามารถรักษาได้ ด้วยวิธีเหล่านี้
- ยาลดกรด เป็นยาที่อาจช่วยบรรเทาอาการท้องอืดในเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป แต่ยาลดกรดที่ใช้ไม่ควรมีอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ แต่ควรได้รับคำแนะนำจากกุมารแพทย์ก่อนใช้
- ยาขับลม ไซเมทิโคน (Simethicone) อาจช่วยให้ร่างกายขับก๊าซออกได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ควรปรึกษาคุณหมอถึงปริมาณการใช้ยาที่เหมาะสำหรับเด็ก และไม่ควรใช้ยาขับลมร่วมกับยาลดกรด เว้นแต่คุณหมอจะอนุญาต
- เครื่องดื่มไกรปวอเตอร์ (Gripe Water) เป็นสารละลายสมุนไพรที่ประกอบด้วยยี่หร่า ขิง คาโมไมล์ ผักชีฝรั่ง เลมอนบาล์ม หรือสะระแหน่ฝรั่ง ซึ่งมีสารโซเดียมไบคาร์บอเนต ที่อาจช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร
- ควรปรึกษาคุณหมอ หากลองปฏิบัติทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้นแล้วไม่ดีขึ้น
การป้องกันอาการท้องอืดในเด็ก
วิธีป้องกันอาการท้องอืดในเด็ก อาจทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ควรฝึกให้เด็กอยู่กับที่ขณะรับประทานอาหาร และหยุดเล่นโทรศัพท์ หรือปิดทีวี เพื่อไม่ให้เด็กเพลิดเพลินกับการกินจนเกินไป
- เลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดแก๊สในช่องท้องของเด็ก เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง ขนม หมากฝรั่ง อาหารรสเผ็ด และไขมันเยอะ
- จำกัดปริมาณการดื่มน้ำผลไม้อย่างเหมาะสม ดังนี้
- เด็กอายุ 1-3 ปี ควรดื่มไม่เกิน ½ ถ้วยต่อวัน
- เด็กอายุ 4-6 ปี ควรดื่มไม่เกิน ½ – ¾ ถ้วยต่อวัน
- เด็กอายุ 7 ปีขึ้นไป ควรดื่มไม่เกิน 1 ถ้วยต่อวัน
- เด็กที่อายุน้อยกว่า 12 เดือน ยังไม่ควรดื่มน้ำผลไม้
- หลังรับประทานอาหารควรทำให้เด็กเรอออกมา เพื่อลดแก๊สในช่องท้อง
- นวดท้องให้เด็กอย่างเบามือ
[embed-health-tool-vaccination-tool]