backup og meta

โรคไหลตายในทารก คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด

โรคไหลตายในทารก คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด

โรคไหลตายในทารก เป็นโรคร้ายแรงที่ทำให้ทากรกเสียชีวิตอย่างกระทันหันขณะนอนหลับ โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของสมองในส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการหายใจ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงอย่างการให้ทารกนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรหมั่นสังเกตทารกอย่างสม่ำเสมอ ร่วมถึงควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ

[embed-health-tool-vaccination-tool]

โรคไหลตายในทารก คืออะไร

โรคไหลตายในทารก (Sudden Infant Death Syndrome หรือ SIDS) คือ การที่ทารกดูเหมือนสุขภาพแข็งแรง แต่กลับเสียชีวิตอย่างกะทันหัน โดยไม่ทราบสาเหตุของการเสียชีวิต แม้จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วก็ตาม โดยโรคไหลตายในทารกนั้น มักเกิดขึ้นในขณะที่ทารกนอนหลับในเปล

แม้ว่าโรคไหลตายในทารกจะเป็นเรื่องที่พบได้ยาก แต่ก็ถือว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบได้บ่อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยมักจะพบในเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับทารกที่มีอายุระหว่าง 2-4 เดือน ในปี ค.ศ. 2015 จากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ มีเด็กประมาณ 1,600 คนในสหรัฐอเมริกา ที่เสียชีวิตจากโรคไหลตายในทารก

อาการของ โรคไหลตายในทารก

โรคไหลตายในทารกนั้นยังไม่มีอาการที่สังเกตได้อย่างชัดเจน เพราะอาการมักเกิดขึ้นอย่างกะทันหันกับทารกที่ดูเหมือนจะมีร่างกายที่แข็งแรงโดยที่คุณพ่อคุณแม่อาจไม่ทันได้คาดคิด

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับ โรคไหลตายในทารก

เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนของโรคไหลตายในทารก แต่นักวิทยาศาสตร์กำลังพิจารณาถึงสาเหตุที่เป็นไปได้บางประการ ซึ่งสาเหตุที่เป็นไปได้บางประการที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบนั้น ได้แก่

  • รูปแบบของการหยุดหายใจ เช่น การหยุดหายใจขณะนอนหลับ
  • ความผิดปกติของสมองในส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการหายใจ

แม้ว่าจะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคไหลตายในทารก แต่โรคไหลตายในทารกมีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ซึ่งคุณสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรตระหนักถึงปัจจัยเหล่านี้ด้วย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงบางประการสำหรับโรคไหลตายในเด็ก ได้แก่

  • เชื้อชาติ โดยทารกแอฟริกัน อเมริกัน และชนพื้นเมืองอเมริกัน มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตด้วยโรคไหลตายในทารกมากกว่าเชื้อชาติอื่น ๆ
  • ประวัติครอบครัวเคยเกิดโรคไหลตายในทารก
  • เพศ ซึ่งเพศชายนั้นมีความเสี่ยงสูงกว่าเพศหญิงเล็กน้อย
  • คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ตอนอายุยังน้อย โดยตั้งครรภ์เมื่ออายุต่ำกว่า 20 ปี
  • การให้ทารกนอนคว่ำ หรือนอนตะแคงก่อนอายุ 1 ขวบ ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุด
  • ความบกพร่องของสมอง ซึ่งหลายครั้งตรวจไม่พบสิ่งเหล่านี้จนกว่าจะมีการชันสูตรพลิกศพ
  • การติดเชื้อทางเดินหายใจ
  • น้ำหนักตัวน้อยเมื่อแรกเกิด
  • การคลอดก่อนกำหนด หรือการเกิดลูกแฝด (Birth of multiples)
  • ควันบุหรี่มือสอง หรือคุณแม่สูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์
  • ฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ภาวะดังกล่าวมักพบมากในช่วงฤดูหนาว หรืออากาศเย็น แม้ว่าสถิตินั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง
  • ความร้อนสูงเกินไป
  • ทารกมีการนอนร่วมเตียงกับคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ดูแล
  • เปลที่ไม่มีความปลอดภัย หรือเปลเก่า
  • เครื่องนอนหรือที่นอนที่นุ่มเกินไป
  • เปลที่มีวัตถุนุ่ม ๆ รวมอยู่ในเปล
  • ไม่ใช่จุกนมหลอกในการนอนหลับ
  • ไม่ให้นมบุตร

การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ให้มากที่สุด อาจจะช่วยลดความเสี่ยงของทารกในการเป็นโรคไหลตายในทารก

วิธีลดความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคไหลตายในทารก

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าโรคไหลตายในทารกนั้นเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้น จึงไม่สามารถป้องกันได้ โรคไหลตายในทารกมีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ แม้ว่าความเสี่ยงบางอย่างจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ก็สามารถลดความเสี่ยงได้หลายอย่าง

โดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุด คือ การให้ทารกอายุต่ำกว่า 1 ขวบ นอนคว่ำ หรือนอนตะแคง ซึ่งคุณสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไหลตายในทารกได้ด้วยการให้ลูกนอนหงาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้านอนในเวลากลางคืน หรือจะงีบหลับระหว่างวันก็ตาม

อีกขึ้นตอนหนึ่งที่อาจช่วยป้องกันโรคไหลตายในทารก คือ การให้ทารกนอนหลับโดยใช้จุกนมหลอก แม้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะหลุดออกจากปาก แต่การใช้จุกนมหลอกไม่ควรจะมีสายห้อยรอบคอของทารก ติดกับเสื้อผ้า เครื่องนอน หรือตุ๊กตาของทารก

หากคุณแม่กำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร อาจจะต้องรอเวลาให้ทารกกินนมได้ง่าย ก่อนที่จะใช้จุกนมหลอก ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน สำหรับวิธีอื่น ๆ ที่จะใช้ในการลดความเสียงของโรคไหลตายในทารก มีดังนี้

  • ไม่ควรสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือยาผิดเสพติดในระหว่างตั้งครรภ์ หรือหลังคลอด
  • ไม่ควรสูบบุหรี่ในบ้าน หรือรอบ ๆ บ้านในขณะที่ทารกอยู่ในบ้าน
  • คุณแม่ตั้งครรภ์หรือวางแผนที่จะตั้งครรภ์ ควรมีการฝากครรภ์เพื่อรับการดูแลก่อนคลอดในระหว่างตั้งครรภ์อย่างสม่ำเสมอ
  • ไม่ควรให้ทารกนอนร่วมเตียงกับคุณพ่อคุณแม่ เด็กหรือผู้ใหญ่คนอื่น ๆ แต่อาจให้นอนใกล้ ๆ หรือนอนในห้องเดียวกัน
  • หลีกเลี่ยงการห่อตัวให้ทารกมากเกินไป เมื่อต้องพาเข้านอน
  • ใช้ที่นอนและเปลที่ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัย จากนั้นวางผ้าปูที่นอนทับอีกครั้ง
  • ให้นมทารกด้วยตัวเอง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของโรคไหลตายในทารก

การดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิดถือเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรพึงกระทำ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรทารกผ่านกล้องวงจรปิด หรืออุปกรณ์ที่คิดว่าปลอดภัย โดยอ้างว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคไหลตายในทารก เพราะอุปกรณ์นี้อาจมีปัญหาทางด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

High serum serotonin in sudden infant death syndrome. https://www.pnas.org/content/114/29/7695.full. Accessed September 30, 2020

Sudden Infant Death Syndrome (SIDS). https://www.merckmanuals.com/home/children-s-health-issues/miscellaneous-disorders-in-infants-and-young-children/sudden-infant-death-syndrome-sids. Accessed September 30, 2020

Sudden infant death syndrome (SIDS). https://www.nhs.uk/conditions/sudden-infant-death-syndrome-sids/. Accessed September 30, 2020

Sudden infant death syndrome (SIDS). https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sudden-infant-death-syndrome/symptoms-causes/syc-20352800. Accessed December 15, 2022

Sudden Infant Death Syndrome (SIDS). https://kidshealth.org/en/parents/sids.html. Accessed December 15, 2022

เวอร์ชันปัจจุบัน

15/12/2022

เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

ลูกชอบเอาหัวโขก เป็นเพราะอะไร และควรดูแลอย่างไร

ให้ลูกนอนห่มผ้า ได้ตอนไหน และห่มผ้าให้ลูกอย่างไรถึงจะปลอดภัย


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 15/12/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา