กรดเอธาครีนิก (Ethacrynic Acid) เป็นยาที่ใช้สำหรับขับน้ำหรือเป็นยาขับปัสสาวะ (diuretic) ทำงานที่ไตโดยการเพิ่มปริมาณการผลิตปัสสาวะ ช่วยให้ร่างกายกำจัดน้ำส่วนเกินออกไปได้ ยานี้ใช้เพื่อลดอาการบวมน้ำ (edema)
ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
กรดเอธาครีนิก (Ethacrynic Acid) เป็นยาที่ใช้สำหรับขับน้ำหรือเป็นยาขับปัสสาวะ (diuretic) ทำงานที่ไตโดยการเพิ่มปริมาณการผลิตปัสสาวะ ช่วยให้ร่างกายกำจัดน้ำส่วนเกินออกไปได้ ยานี้ใช้เพื่อลดอาการบวมน้ำ (edema)
กรดเอธาครีนิก (Ethacrynic Acid) เป็นยาขับน้ำหรือยาขับปัสสาวะ (diuretic) ทำงานที่ไตโดยการเพิ่มปริมาณการผลิตปัสสาวะ ช่วยให้ร่างกายกำจัดน้ำส่วนเกินออกไปได้ ยานี้ใช้เพื่อลดอาการบวมน้ำ (edema) ที่เกิดจากสภาวะต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง หัวใจล้มเหลว โรคตับ และโรคไต ส่งผลให้ไตสามารถทำงานได้ดีขึ้น และลดอาการต่างๆ เช่น อาการหายใจติดขัด อาการบวมที่ข้อเท้า เท้า มือ หรือท้อง
*ไม่ควรใช้ยานี้กับเด็กทารก
กรดเอธาครีนิกควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นจากแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง กรดเอธาครีนิกบางยี่ห้อมีวิธีเก็บรักษาที่แตกต่างออกไป จึงควรอ่านคำแนะนำบนฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
ไม่ควรทิ้งกรดเอธาครีนิกลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องเพิ่มเติมได้จากเภสัชกร
ยังไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ยานี้ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรที่เพียงพอ หากคุณกำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตรโปรดปรึกษากับแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา
กรดเอธาครีนิกจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
หากเกิดผลข้างเคียงรุนแรงต่อไปนี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
การแพ้ยาที่รุนแรงนี้ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรง ได้แก่ มีผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ) เวียนหัวขั้นรุนแรง หายใจติดขัด
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
กรดเอธาครีนิกอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
กรดเอธาครีนิกอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการน้ำคั่งในช่องท้อง (Ascites)
รับประทาน
คำแนะนำ
การใช้งาน เพื่อจัดการอาการบวมน้ำ เมื่อจำเป็นต้องใช้ยาที่มีโอกาสในการขับปัสสาวะได้มากกว่าปกติในระยะสั้น เพื่อจัดการกับอาการบวมน้ำ ที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (congenital heart disease) โรคตับแข็ง หรือโรคไต รวมทั้งกลุ่มอาการเนฟโฟรติค (nephrotic syndrome) หรือการจัดการอาการท้องมานในระยะสั้น เนื่องจากก้อนเนื้อร้าย อาการบวมน้ำไม่ทราบสาเหตุ หรือภาวะบวมน้ำเหลือง (Lymphedema)
การฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการบวมน้ำ (Edema)
รับประทาน
คำแนะนำ
การใช้งาน เพื่อจัดการอาการบวมน้ำ เมื่อจำเป็นต้องใช้ยาที่มีโอกาสในการขับปัสสาวะได้มากกว่าปกติในระยะสั้น เพื่อจัดการกับอาการบวมน้ำที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (congenital heart disease) โรคตับแข็ง หรือโรคไต รวมทั้งกลุ่มอาการเนฟโฟรติค (nephrotic syndrome) หรือการจัดการอาการน้ำคั่งในท้องในระยะสั้น เนื่องจากก้อนเนื้อร้าย อาการบวมน้ำไม่ทราบสาเหตุ หรือภาวะบวมน้ำเหลือง (Lymphedema)
การฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ
การปรับขนาดยาไต
การปรับขนาดยาสำหรับตับ
การปรับขนาดยา
คำแนะนำอื่นๆ
การเฝ้าระวัง
กระบวนการเผาผลาญ: ควรทำการตรวจระดับเซรั่มอิเล็กโทรไลท์ (Serum electrolytes) คาร์บอนไดออกไซด์ และตรวจปริมาณไนโตรเจนในกระแสเลือด (BUN) บ่อยครั้งในช่วงช่วงของการรักษาและเป็นระยะๆ หลังจากนั้น ควรมีการวัดน้ำหนักผู้ป่วยก่อนและขณะการรักษาด้วยยานี้
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาอาการบวมน้ำ (Edema)
อายุน้อยกว่า 1 ปี: ห้ามใช้
1 ปีขึ้นไป
ข้อควรระวัง
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย