ปวดหัวข้างเดียว เป็นอาการที่อาจพบได้บ่อย โดยอาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันหรือเรื้อรัง และอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อสมอง เซลล์ประสาท กะโหลกศีรษะ หรือความผิดปกติอื่น ๆ เช่น หูอักเสบ ความผิดปกติของสายตา โพรงจมูกอักเสบ อุบัติเหตุ ดังนั้น จึงควรสังเกตความรุนแรงของอาการปวดหัวข้างเดียวอยู่เสมอ หากอาการแย่ลงควรเข้าพบคุณหมอ เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม
[embed-health-tool-heart-rate]
ปวดหัวข้างเดียว เกิดจากอะไร
อาการปวดหัวข้างเดียวอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยอาจเกิดจากปัจจัยภายในร่างกายหรือปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดอาการ ดังนี้
ปัจจัยภายในร่างกาย
- ความผิดปกติของสมอง เช่น เนื้องอกในสมอง เส้นเลือดในสมองโป่งพอง
- ความผิดปกตินอกเหนือจากสมอง เช่น หูอักเสบ ความผิดปกติของสายตา โพรงจมูกอักเสบ ความดันโลหิตสูง ไมเกรน ไซนัสอักเสบ การติดเชื้อ
- สภาวะทางจิตใจ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า
- การออกกำลังกายและการมีเพศสัมพันธ์อย่างหนัก
- ความเหนื่อยล้าและความอ่อนเพลีย
- การรับประทานของเย็นจัด
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยา
ปัจจัยภายนอกร่างกาย
การกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะอย่างรุนแรง เช่น รถชน หกล้ม อาจส่งผลทำให้สมอง กะโหลกศีรษะ หรือเซลล์ประสาทบางส่วนเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวข้างเดียวได้
ปวดหัวข้างเดียว อันตรายหรือไม่
ปวดหัวข้างเดียว เป็นอาการปวดหัวเพียงข้างใดข้างหนึ่งที่อาจพบได้บ่อย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไมเกรน ความเครียด ความผิดปติในสมอง ความผิดปกติของหู สายตาหรือจมูก โดยอาการปวดหัวข้างเดียวอาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เป็น ๆ หาย ๆ และสามารถหายได้เอง หรือบางอาการอาจเกิดขึ้นอย่างเรื้อรังเป็นเวลานานและเจ็บปวดรุนแรงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตอาการปวดหัวข้างเดียว หากมีอาการต่อไปนี้อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการวินิจฉัย
- อาการปวดหัวข้างเดียวรุนแรงถึงขั้นรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
- อาการปวดหัวข้างเดียวอย่างเฉียบพลัน โดยเฉพาะหากอาการปวดหัวรุนแรงจนทำให้ตื่นกลางดึก
- อาการปวดหัวข้างเดียวที่เกิดขึ้นจากการได้รับการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ เช่น อุบัติเหตุ หกล้ม
- อาการปวดหัวข้างเดียวที่เกิดขึ้นร่วมกับอาการทางร่างกายอื่น ๆ เช่น ไอ มีไข้ แน่นหน้าอก อ่อนล้า อ่อนเพลีย
- อาการปวดหัวข้างเดียวที่เกิดขึ้นร่วมกับอาการทางระบบประสาท เช่น อาการชัก ความจำ การมองเห็น การได้ยิน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ควรระวังผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป เพราะอาจมีแนวโน้มเกิดอาการปวดหัวข้างเดียวได้อย่างเฉียบพลัน
ประเภทของอาการปวดหัวข้างเดียว
อาการปวดหัวข้างเดียวอาจมี 4 ประเภท โดยอาจมีลักษณะอาการที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ (Cluster Headache) เป็นอาการปวดหัวข้างเดียวที่มีความรุนแรงมาก อาจปวดด้านในหรือรอบ ๆ ดวงตาข้างใดข้างหนึ่งของศีรษะ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากจนต้องตื่นกลางดึก
- ปวดหัวข้างเดียวเรื้อรัง (Hemicrania Continua) เป็นอาการปวดหัวรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องบริเวณด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ โดยอาจเกิดขึ้นเป็นเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งบางคนอาจมีอาการน้ำมูกไหลและน้ำตาไหลร่วมด้วย
- อาการปวดศีรษะครึ่งซีกเป็นพัก ๆ (Paroxysmal Hemicrania) มีอาการคล้ายกับอาการปวดหัวแบบเรื้อรัง แต่อาการปวดหัวข้างเดียวจะเกิดขึ้นในระยะเวลาที่สั้นกว่า
- ปวดหัวระยะสั้นร่วมกับอาการตาแดงและน้ำตาไหล (Short-lasting Unilateral Neuralgiform Headache Attacks With Conjunctival Injection And Tearing หรือ SUNCT) และ ปวดหัวระยะสั้นร่วมกับความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ (Short-lasting Unilateral Neuralgiform Headache Attacks With Cranial Autonomic Symptoms หรือ SUNA) เป็นอาการปวดหัวข้างเดียวที่มีสาเหตุมาจากการฉีกขาดของเยื่อบุตา หรืออาจเกิดจากความผิดปกติของกะโหลกศีรษะ ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้นร่วมกับอาการน้ำตาไหลและน้ำมูกไหล
อาการปวดหัวข้างเดียว
อาการปวดหัวข้างเดียวที่อาจพบได้บ่อย มีดังนี้
- อาการปวดที่เกิดขึ้นภายในหรือภายนอกรอบ ๆ ดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง หรืออาจปวดกระจายไปยังศีรษะ ใบหน้า และคอ
- อาการปวดหัวเกิดขึ้นข้างเดียว
- อาการกระสับกระส่าย มึงงง สับสน
- คลื่นไส้ อาเจียน
- อาการปวดเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันหรือเรื้อรัง
- อาการปวดอาจเกิดขึ้นเป็นเวลานานตั้งแต่ 15 นาที ถึง 3 ชั่วโมง
- อาการปวดอาจเกิดขึ้นเป็น ๆ หาย ๆ ใน 1 วัน
- อาการปวดมักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน จนอาจรบกวนการนอนหลับ หรือทำให้ตื่นกลางดึก
- อาจมีอาการตาแดง น้ำตาไหล บวมรอบดวงตา เปลือกตาหย่อน คัดจมูก น้ำมูกไหล เหงื่อแตกที่หน้าผากหรือใบหน้าข้างที่ได้รับผลกระทบ
- ใบหน้าที่สีแดงหรือซีด
การรักษาอาการปวดหัวข้างเดียว
การรักษาอาการปวดหัวนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการ ดังนั้น เพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น อาจทำได้ดังนี้
ปวดหัวข้างเดียวที่เกิดจากไมเกรน
สามารถใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ทริปแทน (Triptans) ลาสมิดิทัน (Lasmiditan) ไดไฮโดรเออร์โกตามีน (Dihydroergotamine) ยาต้านอาการคลื่นไส้ (Anti-Nausea Drugs) ยาโอปิออยด์ (Opioid)
ปวดหัวข้างเดียวที่เกิดจากอาการปวดหัวคลัสเตอร์
- การรักษาแบบออกฤทธิ์เร็ว ได้แก่ การสูดดมออกซิเจนบริสุทธิ์ การฉีดยาทริปแทน การใช้ยาออคทรีโอไทด์ (Octreotide) การฉีดยาไดไฮโดรเออร์โกตามีน
- การรักษาเชิงป้องกัน ได้แก่ ตัวบล็อกช่องแคลเซียม ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ยาลิเธียมคาร์บอเนต (Lithium Carbonate) การใช้เครื่องกระตุ้นเส้นประสาทเวกัส (Noninvasive Vagus Nerve Stimulation หรือ VNS) การฉีดยาชาบล็อกเส้นประสาท