ปวดหัวท้ายทอย เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความเครียด การนั่งหรือยืนตัวงอ รวมถึงการรั่วของน้ำไขสันหลัง โดยส่วนใหญ่ สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวด หรือการดูแลตัวเองเบื้องต้น เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มาก ๆ แต่หากอาการปวดไม่หายไปหรือรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทบชีวิตประจำวัน ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
[embed-health-tool-bmi]
ปวดหัวท้ายทอย เกิดจากอะไร
การปวดบริเวณท้ายทอย เกิดขึ้นได้จากสาเหตุต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
บุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสม
การยืนหรือนั่งตัวงออาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณท้ายทอย ขากรรไกร คอ หรือหลังส่วนบนมีอาการตึง และยังเพิ่มแรงกดให้กับเส้นประสาทบริเวณดังกล่าว ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวท้ายทอยตามมาได้
อย่างไรก็ตาม การปวดหัวท้ายทอยจากบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสม สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวด ปรับท่าทางการยืน เดิน หรือนั่ง หรือเข้ารับการกายภาพบำบัด
ภาวะความดันน้ำไขสันหลังต่ำ
ภาวะความดันน้ำไขสันหลังต่ำ (Spontaneous Intracranial Hypotension) เป็นการรั่วของน้ำไขสันหลัง ซึ่งอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือเป็นผลจากอุบัติเหตุ ส่งผลให้น้ำไขสันหลังในสมองลดลง และเกิดอาการปวดหัวบริเวณคอหรือท้ายทอยตามมา โดยอาการปวดนี้จะรุนแรงเมื่อนั่งหรือยืน
ปกติแล้ว ภาวะความดันน้ำไขสันหลังต่ำสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการนอนพักเป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ร่วมกับการดื่มน้ำและการบริโภคคาเฟอีนในปริมาณที่เหมาะสม
นอกจากนี้ การฉีดเลือดของผู้ป่วยเข้าไปยังกระดูกสันหลัง ยังช่วยอุดบริเวณที่น้ำไขสันหลังรั่วออกมาได้
การปวดเส้นประสาทต้นคอ
การปวดเส้นประสาทต้นคอ (Occipital Neuralgia) เป็นสาเหตุของอาการปวดหัวท้ายทอยที่พบได้ไม่บ่อย มักพบในผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรน และมีสาเหตุจากปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น การอักเสบของหลอดเลือด โรคเบาหวาน การติดเชื้อ การบาดเจ็บบริเวณหลังศีรษะ ซึ่งส่งผลให้เส้นประสาทบริเวณท้ายทอยที่ทอดยาวไปถึงหัวมีอาการอักเสบหรือระคายเคือง
ทั้งนี้ อาการปวดเส้นประสาทต้นคอ มักทำให้รู้สึกปวดเสมือนไฟดูดเป็นจังหวะ ซึ่งเริ่มจากท้ายทอยหรือต้นคอเรื่อยไปจนถึงบริเวณหัว นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดกระบอกตาและตาแพ้แสงร่วมด้วย
สำหรับวิธีรักษาการปวดเส้นประสาทต้นคอทำได้โดยการรับประทานยาแก้ปวดและยาคลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับการนวด การประคบร้อน และการพักผ่อนให้เพียงพอ
นอกจากนั้น ในกรณีอาการรุนแรง คุณหมออาจจ่ายยาต้านเศร้าให้หรือฉีดยาสเตียรอยด์ (Steroid) ในบริเวณที่มีอาการปวด
การปวดหัวรูปแบบต่าง ๆ
ปวดหัวท้ายทอย เป็นอาการร่วมของการปวดหัวรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ปวดหัวจากกล้ามเนื้อตึงตัว (Tension Headaches) พบได้บ่อยที่สุด มีสาเหตุมาจากความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า โกรธ หรือหิวโหย ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณศีรษะและลำคอตึง จนทำให้มีอาการปวดหัวตามมา
- ปวดหัวจากการออกกำลังกาย (Exercise Headaches) มักเกิดขึ้นระหว่างออกกำลังกายหรือมีเพศสัมพันธ์หรือหลังจากนั้น โดยมีสาเหตุมาจากการขยายตัวของหลอดเลือดเพื่อทำให้มีเลือดไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะหรือคออย่างเพียงพอ
- ปวดหัวจากความผิดปกติของคอ (Cervicogenic Headache) โดยเป็นความผิดปกติของกล้ามเนื้อและโครงสร้างของกระดูกสันหลังส่วนคอ เช่น เนื้องอก การติดเชื้อ กระดูกหัก โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
โดยทั่วไป อาการปวดท้ายทอยรักษาได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวดอย่างไอบูโรเฟน (Ibuprofen) หรือแอสไพริน (Aspirin) รวมถึงยาคลายกล้ามเนื้อ
ส่วนในกรณีที่ปวดหัวจากกล้ามเนื้อตึงตัวและปวดหัวจากความผิดปกติของคอ คุณหมออาจจ่ายยาต้านเศร้าให้
ปวดหัวท้ายทอย เมื่อไรควรไปพบคุณหมอ
หากปวดหัวท้ายทอย ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจเพิ่มเติม โดยเฉพาะเมื่อมีอาการดังนี้
- ปวดหัวเป็นเวลานานเกิน 2-3 วัน
- ปวดหัวในระดับที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต
- ปวดหัวร่วมกับมีอาการปวดขมับ
- ปวดหัวในลักษณะที่ต่างไปจากเดิม
นอกจากนี้ ควรไปพบคุณหมอในทันที หากมีอาการดังต่อไปนี้
- ปวดหัวในระดับที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
- ปวดหัวจนไม่สามารถคิดอะไรได้
- ปวดหัวแบบเฉียบพลัน โดยเฉพาะเมื่อมีอาการหลังตื่นนอน
- บุคลิกภาพเปลี่ยนไปจากเดิม
- เป็นไข้ คอแข็ง สับสน หรือความกระตือรือร้นต่อสิ่งตรงหน้าลดลง
- มีปัญหาในการมอง พูดไม่ชัด อ่อนแรง หรือรู้สึกชาตามร่างกาย