ช่วงปีใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว…หลายคนอาจจะกำลังตั้งปณิธานเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำในปีใหม่ หรือที่เรียกว่า “New Year’s Resolution’ และเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องมีอยู่ในปณิธานปีใหม่ของคนส่วนใหญ่ ก็น่าจะเป็นการลดน้ำหนักนั่นเอง การลดน้ำหนักของแต่ละคนนั้นมีสาเหตุต่างกัน บางคนอาจเป็นเพราะเรื่องสุขภาพ บางคนอาจเป็นเพราะอยากมั่นใจยิ่งขึ้น ใส่เสื้อผ้าชิ้นไหนก็จะได้สวยเป๊ะ แต่บางคนที่กำลังลดน้ำหนัก แทนที่จะได้เป็นปลื้มกับน้ำหนักตัวที่ลดลงสมใจ อาจต้องมานั่งปวดหัวกับปัญหาอื่นที่ตามมาแทน เช่น ปัญหาผมร่วง ใครที่ ลดน้ำหนักแล้วผมร่วง ขอให้รู้ไว้ว่า…นี่คือหนึ่งในสัญญาณเตือนให้คุณทราบว่า คุณกำลังลดน้ำหนักผิดวิธี…หากไม่รีบเปลี่ยนแปลง ปัญหาสุขภาพอื่นๆ อาจตามมาได้อีก
ลดน้ำหนักแล้วผมร่วง เป็นเพราะอะไร
รากผม จัดเป็นส่วนประกอบที่เผาผลาญพลังงานมากที่สุดส่วนหนึ่งในร่างกาย ผลการศึกษาพบว่า การลดปริมาณแคลอรี่ ลดการบริโภคโปรตีน และการขาดสารอาหารรอง จะทำให้รากผมได้รับพลังงานและโปรตีนไม่เพียงพอ และส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมได้
ดังนั้นคนที่ลดน้ำหนักผิดวิธี เช่น อดอาหาร จำกัดปริมาณแคลอรี่มากเกินไป หรือกินแต่อาหารเดิมๆ ทุกวัน ไม่ยอมกินอาหารให้หลากหลาย สามารถส่งผลให้ผมร่วงหนักกว่าปกติในช่วงลดน้ำหนักได้ทั้งสิ้น
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ยิ่งคุณลดน้ำหนักลงได้มากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเสี่ยงประสบปัญหาผมร่วงได้มากเท่านั้น น้ำหนักที่ขึ้นๆ ลงๆ เป็นเวลานานหลายปี ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อระบบการเผาผลาญแต่ยังส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
บางคนที่กำลังลดน้ำหนักด้วยการกินอาหารบางรูปแบบ เช่น การกินอาหารแบบคีโตเจนิค อาจประสบปัญหาผมร่วงภายในช่วง 3-6 เดือนหลังจากเริ่มลดน้ำหนัก แต่หากคุณกินอาหารให้สมดุล ปัญหาลดน้ำหนักแล้วผมร่วงก็จะดีขึ้นและหายไปได้ภายใน 6 เดือน
ปัญหาลดน้ำหนักแล้วผมร่วงไม่ได้เกิดจากการลดน้ำหนักด้วยการกินแบบผิดๆเท่านั้น แต่ความวิตกกังวลและความเครียด ที่เกิดขึ้นทั้งกับร่างกายและจิตใจในช่วงลดน้ำหนัก ก็ส่งผลให้ลดน้ำหนักแล้วผมร่วงได้เช่นกัน เพื่อไม่ได้เกิดความเครียด คุณจึงควรลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันแบบพอดีๆ อย่าหักโหมเกินไป ร่างกายจะได้ไม่เครียด ผมไม่ร่วง และช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายได้ด้วย
ไม่อยากผมร่วงเพราะลดน้ำหนัก ควรกินแบบนี้
หากอยากหลีกเลี่ยงปัญหาลดน้ำหนักแล้วผมร่วง คุณควรเลือกกินอาหารให้มีประโยชน์ ในปริมาณแคลอรี่ที่เหมาะสมกับความต้องการร่างกายในแต่ละวัน ไม่ควรอดอาหาร หรือเลือกกินอาหารแค่ชนิดเดียว เพราะจะทำให้ขาดสารอาหารได้
และนี่คือเคล็ดลับในการกินอาหาร ที่นอกจากจะช่วยบำรุงเส้นผมของคุณให้สุขภาพดี ดูเปล่งประกายเงางามแล้ว ยังไม่กระทบต่อการลดน้ำหนักของคุณอีกด้วย เรียกได้ว่าทั้งผมสวยและน้ำหนักลดสมใจแน่นอน
กินอาหารเช้า
อาหารเช้าถือเป็นอาหารมื้อสำคัญของวัน นอกจากจะช่วยให้คุณมีพลังงานในการประกอบกิจวัตรประจำวันแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพเส้นผมได้ด้วย เนื่องจากในช่วงที่คุณเพิ่งตื่นนอน ไม่ว่าจะเป็นการตื่นนอนตอนเช้าหรือตอนไหน ถือเป็นช่วงที่ร่างกายมีพลังงานในการสร้างเซลล์เส้นผมต่ำที่สุด
คุณจึงต้องกินอาหารเช้าที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนทุกหมู่ โดยเฉพาะโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งหาได้จากธัญพืชและข้าวไม่ขัดสี เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง รวมถึงผักใบเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง เป็นต้น เพื่อให้สุขภาพเส้นผมของคุณได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสม
กินอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพ
แค่พลังงานและสารอาหารจากมื้ออาหารหลักในแต่ละวันอาจไม่พอ คุณจึงควรกินอาหารว่างเพื่อรักษาระดับพลังงานให้รากผม และช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสามารถสร้างเซลล์เส้นผมได้อย่างเป็นปกติ แต่ก็ควรเลือกอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพ และมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ขนมปังโฮลวีตกับกล้วยหอม แครกเกอร์ธัญพืช ผลไม้รวม ผักต้ม
อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ
“น้ำ” ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ร่างกายขาดไม่ได้ โดยทั่วไปคนเราควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ น้ำหนักตัว และกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน หากร่างกายขาดน้ำ สิ่งที่สังเกตได้ง่ายที่สุด ก็คือ ปากแห้ง ผิวแห้ง รวมถึงหนังศีรษะด้วย
เมื่อหนังศีรษะแห้ง เส้นผมก็จะเจริญเติบโตไม่ได้ดี ยิ่งถ้าคุณอยู่ในช่วงลดน้ำหนักและออกกำลังกายหนักก็ยิ่งต้องดื่มน้ำให้เยอะๆ เพราะร่างกายจะขาดน้ำได้ง่ายเป็นพิเศษ
กินโปรตีนให้เพียงพอ
โปรตีน คือ โครงสร้างหลักของเส้นผมและรากผม การกินอาหารที่มีโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจึงช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรงขึ้นได้ โดยปกติแล้ว ผู้ที่มีอายุ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับโปรตีน 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น คนที่น้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม ก็ควรได้รับโปรตีน 50 กรัมต่อวัน
แต่หากคุณกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก และออกกำลังกายเป็นประจำ อาจต้องบริโภคโปรตีนให้มากขึ้นกว่าปกติ โดยคุณสามารถหาโปรตีนได้จากเนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว ควินัว เต้าหู้ อะโวคาโด เป็นต้น หากเป็นเนื้อสัตว์ แนะนำให้เลือกเป็นเนื้อขาว เช่น อกไก่ หรือเลือกกินเนื้อปลาแซลมอน ก็จะดีต่อคนที่กำลังลดน้ำหนักมากกว่า
อย่าขาดธาตุเหล็ก
ระดับธาตุเหล็กในร่างกายสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมเป็นอย่างมาก คุณจึงควรรับธาตุเหล็กให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออยู่ในช่วงมีประจำเดือน เพราะร่างกายจะสูญเสียธาตุเหล็กได้มากกว่าปกติ
คุณสามารถเพิ่มธาตุเหล็กด้วยการกินเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง หรือกินอาหารเสริมธาตุเหล็กก็ได้ แต่ก่อนซื้อธาตุเหล็กในรูปแบบอาหารเสริมมาบริโภค ควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง ระวังอย่ากินอาหารเสริมธาตุเหล็กเกินขนาด หรือกินติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้มีธาตุเหล็กสะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไป ที่เรียกว่า ภาวะเหล็กเกิน ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกายได้
เพิ่มวิตามินซี
วิตามินซีช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น คุณจึงควรบริโภควิตามินซีเป็นประจำด้วย วิตามินซีหาได้จาก ผลไม้ตระกูลส้ม เช่น ส้มโอ เกรปฟรุต มะนาว ส้มเขียวหวาน รวมถึงฝรั่ง กีวี มะละกอสุก
นอกจากจะช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กแล้ว วิตามินซียังใช้ในการผลิตคอลลาเจน ส่วนประกอบสำคัญของเส้นผมและผิวหนัง ที่ช่วยให้ผมแข็งแรง และยาวเร็วขึ้นด้วย
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmr]