การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน อาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ในรายที่ใช้ยาคุมกำเนิดหรือยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์ได้จริง แต่วิธีคุมกำเนิดด้วยยาไม่อาจป้องกันโรคได้ การแตกในหรือหลั่งอสุจิภายในช่องคลอดจึงมีความเสี่ยง แล้ว แตกในทำไม ถึงอันตราย นอกจากท้องได้แล้วยังเสี่ยงต่อโรคร้ายที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย
[embed-health-tool-ovulation]
แตกในทำไม ถึงอันตราย
การแตกใน คือ การมีเพศสัมพันธ์ เมื่อผู้ชายถึงจุดสุดยอด ร่างกายจะหลั่งน้ำอสุจิออกมา การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันด้วยการใช้ถุงยางอนามัยจึงทำให้สัมผัสได้ทั้งน้ำหล่อลื่นของฝ่ายชายและเชื้ออสุจิ ซึ่งการแตกในนั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจติดได้เมื่อ แตกใน
โรคเอดส์ (AIDS)
กลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวที่เป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค หลังจากภูมิคุ้มกันต่ำลงจะทำให้ร่างกายติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่าย ทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น โรควัณโรค โรคปอดบวม โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และโรคมะเร็ง ผู้ติดเชื้อเอชไอวีหรือผู้ป่วยโรคเอดส์จะเสี่ยงต่อการเกิดอาการที่รุนแรง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เสียชีวิตได้
โรคติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV)
หรือไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา (Human Papillomavirus หรือ HPV) โรคนี้ติดต่อได้ง่ายผ่านทางเพศสัมพันธ์ เชื้อไวรัสชนิดนี้เป็นสาเหตุของหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศ แต่มีเชื้อไวรัส HPV มากถึง 14 สายพันธุ์ ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งช่องคลอด และโรคมะเร็งปากช่องคลอด
โรคหูดหงอนไก่ (Condyloma acuminata)
เกิดจากเชื้อไวรัส HPV มีลักษณะเป็นติ่งเนื้ออ่อน สีชมพู คล้ายหงอนไก่ มักพบที่ใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย ส่วนผู้หญิงจะเกิดที่บริเวณปากช่องคลอด ผนังช่องคลอด ปากมดลูก และทวารหนัก โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ที่หูดโตเร็วกว่าปกติ อีกทั้งทารกที่คลอดธรรมชาติผ่านทางช่องคลอดยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกได้
โรคซิฟิลิส (Syphilis)
โรคที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ หลังจากได้รับเชื้อในช่วงแรกจะพบแผลที่อวัยวะเพศ เมื่อแผลหายจะเป็นผื่นตามร่างกาย ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือที่อวัยวะเพศ ผู้ติดเชื้อบางรายอาจไม่แสดงอาการแต่เชื้อจะอยู่ในร่างกาย จนเวลาผ่านไป 10 ปี เชื้อนี้อาจทำให้เกิดความผิดปกติที่สมอง ระบบหัวใจและหลอดเลือดได้
โรคหนองในแท้ (Gonorrhoea)
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae ในผู้ชายจะพบปัสสาวะขัด แสบ มีหนองไหลจากท่อปัสสาวะ หรือเป็นฝีที่ปากท่อปัสสาวะและผนังท่อปัสสาวะ เชื้ออาจลงทำให้เกิดอาการอัณฑะอักเสบและเสี่ยงต่อการเป็นหมันได้ด้วย ส่วนผู้หญิงอาจพบอาการตกขาว ไม่คัน ท่อปัสสาวะอักเสบ ปัสสาวะแล้วแสบขัด เสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูก และอาจทำให้เป็นหมันได้เช่นกัน
จะเห็นได้ว่า แตกในทำไมถึงอันตราย ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ควรป้องกันทุกครั้งด้วยการใช้ถุงยางอนามัย และหมั่นตรวจสุขภาพร่างกายประจำปี เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงทีเมื่อพบอาการป่วย