backup og meta

แตกในทำไม ไม่ป้องกัน เสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้จริงเหรอ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 17/08/2023

    แตกในทำไม ไม่ป้องกัน เสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้จริงเหรอ

    การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน อาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ในรายที่ใช้ยาคุมกำเนิดหรือยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์ได้จริง แต่วิธีคุมกำเนิดด้วยยาไม่อาจป้องกันโรคได้ การแตกในหรือหลั่งอสุจิภายในช่องคลอดจึงมีความเสี่ยง แล้ว แตกในทำไม ถึงอันตราย นอกจากท้องได้แล้วยังเสี่ยงต่อโรคร้ายที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย

    แตกในทำไม ถึงอันตราย

    การแตกใน คือ การมีเพศสัมพันธ์ เมื่อผู้ชายถึงจุดสุดยอด ร่างกายจะหลั่งน้ำอสุจิออกมา การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันด้วยการใช้ถุงยางอนามัยจึงทำให้สัมผัสได้ทั้งน้ำหล่อลื่นของฝ่ายชายและเชื้ออสุจิ ซึ่งการแตกในนั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย 

    โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจติดได้เมื่อ แตกใน

    โรคเอดส์ (AIDS)

    กลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวที่เป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค หลังจากภูมิคุ้มกันต่ำลงจะทำให้ร่างกายติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่าย ทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น โรควัณโรค โรคปอดบวม โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และโรคมะเร็ง ผู้ติดเชื้อเอชไอวีหรือผู้ป่วยโรคเอดส์จะเสี่ยงต่อการเกิดอาการที่รุนแรง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เสียชีวิตได้

    โรคติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV)

    หรือไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา (Human Papillomavirus หรือ HPV) โรคนี้ติดต่อได้ง่ายผ่านทางเพศสัมพันธ์ เชื้อไวรัสชนิดนี้เป็นสาเหตุของหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศ แต่มีเชื้อไวรัส HPV มากถึง 14 สายพันธุ์ ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งช่องคลอด และโรคมะเร็งปากช่องคลอด  

    โรคหูดหงอนไก่ (Condyloma acuminata)

    เกิดจากเชื้อไวรัส HPV มีลักษณะเป็นติ่งเนื้ออ่อน สีชมพู คล้ายหงอนไก่ มักพบที่ใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย ส่วนผู้หญิงจะเกิดที่บริเวณปากช่องคลอด ผนังช่องคลอด ปากมดลูก และทวารหนัก โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ที่หูดโตเร็วกว่าปกติ อีกทั้งทารกที่คลอดธรรมชาติผ่านทางช่องคลอดยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกได้

    โรคซิฟิลิส (Syphilis)

    โรคที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ หลังจากได้รับเชื้อในช่วงแรกจะพบแผลที่อวัยวะเพศ เมื่อแผลหายจะเป็นผื่นตามร่างกาย ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือที่อวัยวะเพศ ผู้ติดเชื้อบางรายอาจไม่แสดงอาการแต่เชื้อจะอยู่ในร่างกาย จนเวลาผ่านไป 10 ปี เชื้อนี้อาจทำให้เกิดความผิดปกติที่สมอง ระบบหัวใจและหลอดเลือดได้ 

    โรคหนองในแท้ (Gonorrhoea)

    เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae ในผู้ชายจะพบปัสสาวะขัด แสบ มีหนองไหลจากท่อปัสสาวะ หรือเป็นฝีที่ปากท่อปัสสาวะและผนังท่อปัสสาวะ เชื้ออาจลงทำให้เกิดอาการอัณฑะอักเสบและเสี่ยงต่อการเป็นหมันได้ด้วย ส่วนผู้หญิงอาจพบอาการตกขาว ไม่คัน ท่อปัสสาวะอักเสบ ปัสสาวะแล้วแสบขัด เสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูก และอาจทำให้เป็นหมันได้เช่นกัน

    จะเห็นได้ว่า แตกในทำไมถึงอันตราย ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ควรป้องกันทุกครั้งด้วยการใช้ถุงยางอนามัย และหมั่นตรวจสุขภาพร่างกายประจำปี เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงทีเมื่อพบอาการป่วย

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 17/08/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา