กลุ่มความหลากหลายทางเพศต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพไม่ต่างจากกลุ่มคนอื่น ๆ ในสังคม แต่บางกลุ่มอาจมีโรคหรือปัญหาสุขภาพที่อาจเสี่ยงเป็นมากกว่า ดังนี้
เลสเบี้ยน
ปัญหาสุขภาพหลัก ๆ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของเลสเบี้ยนที่ควรระวัง มีดังนี้
- มะเร็ง เลสเบี้ยนมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้หญิงซึ่งชอบเพศตรงข้าม เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า ได้แก่ โรคอ้วน เนื่องจากอาจเป็นเพราะในกลุ่มสังคมเลสเบี้ยนให้การยอมรับแก่รูปร่างของผู้หญิงทุก ขนาด และอาจมีกลุ่มที่ต่อต้านรูปร่างมาตรฐานของผู้หญิงทั่ว ๆ ไป ทำให้กลุ่มเลสเบี้ยนอาจไม่สนใจที่จะควบคุมน้ำหนักจนมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วน นอกจากนี้ การไม่มีลูก อาจทำให้เลสเบี้ยนเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม เนื่องจากผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และให้นมลูกมีฮอร์โมนซึ่งหลั่งออกมาระหว่างตั้งครรภ์และให้นมซึ่งมีส่วนช่วยลดแนวโน้มการเกิดโรคมะเร็งได้ นอกจากนี้ เลสเบี้ยนมีอัตราการเข้าตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) เพื่อหาความผิดปกติบริเวณเต้านมที่น้อยกว่าผู้หญิงที่ชอบเพศตรงข้าม
- โรคอ้วน เลสเบี้ยนมีแนวโน้มน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนมากกว่าผู้หญิงซึ่งมีรสนิยมทางเพศแบบอื่น โดยปัจจัยหนึ่งมาจากการเคลื่อนไหวน้อย การศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่เป็นเลสเบี้ยนไม่ชอบออกกำลังกายอาจเป็นเพราะรู้สึกเหนื่อย ไม่มีคู่รักที่ชอบหรือสนใจทำกิจกรรมด้วยกัน หรือขาดกลุ่มออกกำลังกายซึ่งเป็นผู้หญิงเหมือนกัน นอกจากนี้ เลสเบี้ยนอาจมีทัศนะเรื่องความงามหรือรูปร่างซึ่งแตกต่างจากผู้หญิงส่วนใหญ่ จึงมีแนวโน้มอยากออกกำลังกายหรือต้องการที่จะควบคุมน้ำหนักน้อยกว่าเพศอื่น
- ปัญหาสุขภาพจิต นอกเหนือไปจากการไม่ได้ยอมรับจากสังคมหรือรู้สึกแปลกแยก การปฏิบัติแง่ลบของผู้ปกครองต่อรสนิยมทางเพศของลูกหลานมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจ และแนวโน้มการใช้สารเสพติด ผลสำรวจหนึ่งซึ่งแพร่หลายในสหรัฐอเมริการะบุว่า เลสเบี้ยนและผู้หญิงที่เป็นไบเซ็กชวล พบความเครียดทางอารมณ์ตอนเป็นวัยรุ่นมากกว่าผู้หญิงซึ่งชอบเพศตรงข้าม และคิดอยากฆ่าตัวตายมากกว่าคนทั่วไปประมาณ 2 ถึง 2.5 เท่านอกจากนั้นยังมีเลสเบี้ยนมีแนวโน้มชอบสูบบุหรี่สูงกว่าผู้หญิงที่ชอบเพศตรงข้าม ราว 1.5 ถึง 2 เท่า
เกย์
ปัญหาสุขภาพหลัก ๆ ของเกย์ ประกอบไปด้วยปัญหาสุขภาพทางกายและสุขภาพจิต ซึ่งมีดังนี้
- โรคมะเร็งทวารหนัก เกย์มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งทางทวารหนัก เนื่องจากนิยมร่วมรักทางทวารหนัก โดยเฉพาะในฝ่ายรับเนื่องจากผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณทวารหนักมีความบอบบางทำให้เพิ่มโอกาสติดเชื้อเอชพีวี (Human Papillomavirus หรือ HPV) อันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งทวารหนัก
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน รวมถึงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อโรคต่าง ๆ อันเป็นต้นเหตุของโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหูดที่อวัยวะเพศซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อเอชพีวี (Human Papillomavirus หรือ HPV) โรคเอดส์ สาเหตุจากเชื้อเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus หรือ HIV) ทั้งนี้ สถิติปี พ.ศ.2559 ในสหรัฐอเมริกาชี้ว่า เกย์และไบเซ็กชวลคือประชาการส่วนใหญ่ของประเทศที่ติดเชื้อเอชไอวี
- ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง เกย์มักเจอผูัที่มีพฤติกรรมความรุนแรง ทั้งความรุนแรงเชิงอาชญากรรม เนื่องจากเกย์เป็นชนกลุ่มน้อยในสังคม ทำให้ตกเป็นเป้าหมายในการถูกทำร้ายร่างกายทั้งเพื่อชิงทรัพย์ หรือเพื่อแสดงออกถึงความเกลียดชัง และพฤติกรรมความรุนแรงจากคนรักเพศเดียวกัน ซึ่งมักเข้าใจผิดว่าบุคคลที่เป็นเกย์ชื่นชอบความรุนแรง นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง หรือการทำร้ายร่างกายได้
- โรคไม่ชอบรูปร่างหน้าตาตัวเอง โดยปกติ เกย์มีความรู้สึกไม่พอใจในรูปลักษณ์ตัวเองมากกว่าผู้ชายซึ่งชอบผู้หญิง มักชอบเปรียบเทียบรูปร่างของตัวเองกับเกย์ที่มีชื่อเสียงหรือเกย์ที่พวกเขาชื่นชอบซึ่งอาจเห็นจากโซเชี่ยลมีเดียความไม่พอใจนี้บางครั้งนำไปสู่พฤติกรรมการกินอาหารที่ผิดปกติ เช่น โรคบูลิเมีย เนอโวซา (Bulimia Nervosa) หรือการทำให้ตัวเองอาเจียนหรือขับถ่ายหลังจากเพิ่งรับประทานอาหารเสร็จ
- ปัญหาสุขภาพจิต เมื่อเปรียบเทียบกับคนทั่วไป เกย์มีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้าหรือมีภาวะวิตกกังวลมากกว่า โดยเฉพาะเกย์ที่ยังไม่เปิดเผยกับคนในครอบครัวหรือในสังคมใกล้ตัวว่าตนชอบผู้ชาย นอกจากนี้ ประสบการณ์แง่ลบหลังจากการเปิดเผยรสนิยมทางเพศ รวมถึงการถูกรังแก ดูหมิ่น ล้อเลียน หรือไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว เป็นปัจจัยสำคัญให้อัตราการพยายามฆ่าตัวตายและจำนวนครั้งที่ฆ่าตัวตายสำเร็จของเกย์ สูงกว่าประชากรกลุ่มอื่นในสังคม
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย