กิจกรรมบนเตียงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตคู่ที่อาจช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้กับคู่รัก และอาจกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) และฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน (Endorphins) หรือที่เรียกว่าฮอร์โมนแห่งความสุข ซึ่งอาจช่วยลดระดับความเครียด ดังนั้น จึงควรศึกษา ท่าที่ผู้ชายชอบ และวิธีกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของผู้ชาย เพื่อช่วยเพิ่มสีสันในระหว่างทำกิจกรรมทางเพศ และทำให้อีกฝ่ายได้รับความพึงพอใจจากการมีเพศสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรมีเพศสัมพันธ์โดยการป้องกัน เช่น การสวมถุงยางอนามัย เพื่อลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ
[embed-health-tool-ovulation]
ท่าที่ผู้ชายชอบ มีอะไรบ้าง
ท่าที่ผู้ชายชอบ อาจมีดังนี้
1. ท่ามิชชันนารี (Missionaries)
ท่ามิชชันนารี เป็นท่าที่ผู้หญิงจะอยู่ด้านล่างนอนราบกับเตียงและผู้ชายจะอยู่ด้านบน ซึ่งเป็นท่าพื้นฐานของการมีเซ็กส์ที่ผู้ชายอาจชอบ เนื่องจากทำให้ผู้ชายสามารถควบคุมความถี่และความลึกได้ตามความต้องการ
2. ท่าคาวเกิร์ล (Cowgirl)
ท่าคาวเกิร์ลคือท่าที่ฝ่ายผู้หญิงจะอยู่ด้านบน โดยนั่งคร่อมสะโพกของฝ่ายชาย มีลักษณะคล้ายกับคาวเกิร์ลที่กำลังขี่วัว แล้วให้ผู้ชายอยู่ด้านล่าง โดยนอนราบบนเตียง โซฟา หรือพื้น ท่านี้เป็นท่าที่ผู้ชายชอบเนื่องจากอาจทำให้ผู้ชายไม่ต้องออกแรงมาก และอาจรู้สึกตื่นเต้นที่เห็นฝ่ายหญิงเป็นผู้กระทำและควบคุมจังหวะ ท่าทาง
3. ท่าไซด์บายไซด์ (Side By Side)
เป็นท่าที่ให้ทั้งคู่นอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน แล้วให้ฝ่ายหญิงยกขาพาดไปที่สะโพกของผู้ชาย เพื่อให้สามารถสอดองคชาตเข้าสู่ช่องคลอด ท่านี้อาจทำให้ทั้งสองฝ่ายมองเห็นหน้ากันได้อย่างชัดเจน และอาจทำให้สามารถรับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายมากขึ้น
4. ท่าช้อนจากด้านหลัง (Spooning)
ท่าช้อนจากด้านหลัง เป็นท่าเซ็กส์ที่คล้ายกับท่าไซด์บายไซด์ โดยให้ทั้งสองฝ่ายนอนตะแคงข้าง แต่ให้ผู้หญิงหันหลังให้ผู้ชาย และผู้หญิงจะต้องอ้าขาเล็กน้อยเพื่อให้ผู้ชายสอดองคชาตเข้าช่องคลอด เป็นท่าที่ทำให้ร่างกายของทั้งสองฝ่ายแนบชิดกันได้มากขึ้น
5. ท่านั่งบัลลังก์ (Sit on The Throne)
เป็นท่าเซ็กส์ที่สามารถทำบนเก้าอี้ หรือโซฟาได้ โดยให้ผู้ชายนั่งบนเก้าอี้และให้ผู้หญิงนั่งหันหลังบนตัก จากนั้นจึงสอดองคชาตเข้าไปในช่องคลอด ท่านี้ผู้หญิงสามารถควบคุมความถี่และความลึกได้ตามต้องการ ทำให้ผู้ชายรู้สึกเพลิดเพลินและไม่ต้องใช้แรงมาก จึงเป็นอีกหนึ่งในท่าที่ผู้ชายชอบ
6. ท่าไขว้ขาเป็นตัวเอ็กซ์ (X Marks The Spot)
เป็นท่าเซ็กส์ที่ให้ผู้หญิงนอนราบขอบเตียงหรือขอบโต๊ะ ส่วนผู้ชายจะยืนให้ตรงกับตำแหน่งที่สอดองคชาตเข้าช่องคลอด พร้อมกับยกจะขาของผู้หญิงขึ้น และไขว้กันเป็นรูปตัว X ท่านี้จะช่วยให้ผู้ชายสามารถควบคุมความถี่และความลึกได้ตามต้องการ
7. ท่าสุนัข (Doggy Style)
ท่าสุนัข เป็นท่าที่ให้ผู้หญิงหันหลังพร้อมกับโน้มตัวลงในท่าคุกเข่า และอ้าขาออกจากกันเล็กน้อย เพื่อให้ผู้ชายอยู่ระหว่างขาและสอดองคชาตเข้าช่องคลอด โดยผู้ชายอาจจับสะโพกหรือบั้นท้ายของผู้หญิงเพื่อควบคุมความถี่และความลึกได้ตามความต้องการ
คำแนะนำอื่น ๆ เกี่ยวกับท่าที่ผู้ชายชอบ
นอกเหนือจากการมีเซ็กส์ด้วยท่าที่ผู้ชายชอบแล้ว การกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของผู้ชายด้วยวิธีอื่น ๆ ก็อาจสามารถเพิ่มสีสันให้การมีเซ็กส์ และช่วยให้ผู้ชายรู้สึกพึงพอใจมากยิ่งขึ้น โดยอาจกระตุ้นอารมณ์ของเพศชายด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- สวมชุดที่วาบหวิวและเซ็กซี่ เช่น ชุดนอน ชุดคอสเพลย์ อีกทั้งควรเลือกสีที่ดึงดูด เช่น สีแดง สีดำ หรือสีที่ผู้ชายชอบ
- ทำให้ผู้ชายรู้สึกเหมือนถูกควบคุม โดยกามัดมือไว้หลวม ๆ ด้วยเชือกหรือผ้า และทำการเล้าโลมด้วยการลูบไล้ หรือสัมผัสจุดเสียวของผู้ชาย เช่น ศีรษะ หลังคอ หน้าอก แผ่นหลัง สะโพก ก้น องคชาต
- จูบโดยใช้เทคนิคการแลกลิ้น หรือกัดริมฝีปากเบา ๆ
- เปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเปลี่ยนสถานที่มีเพศสัมพันธ์ เช่น อ่างน้ำ โซฟา พื้นห้อง โต๊ะกินข้าว
- สวมบทบาทสมมุติ โดยให้ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้กระทำและอีกฝ่ายเป็นผู้ถูกกระทำ เช่น หมอกับคนไข้ ตำรวจกับผู้ร้าย เพื่อกระตุ้นอารมณ์และเพิ่มสีสันก่อนมีเพศสัมพันธ์
- พูดคุยหยอกล้อระหว่างมีเพศสัมพันธ์ โดยการกระซิบข้างหู เช่น การบอกรัก พูดเรื่องเซ็กส์ พูดถึงสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่อยากให้ทำ เพื่อให้ทราบว่าผู้ชายต้องการอะไร
การมีเซ็กส์อย่างปลอดภัย
การมีเซ็กส์อย่างปลอดภัยด้วยท่าที่ผู้ชายชอบ อาจช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักได้ โดยวิธีการมีเซ็กส์อย่างปลอดภัย อาจทำได้ดังนี้
- สอบถามประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของคู่นอน
- หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยหรือการมีเซ็กส์กับคนหลายคน เพราะอาจเพิ่มโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เอดส์/เอชไอวี หนองในแท้ หนองในเทียม หูด ซิฟิลิส เริม
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการมีเซ็กส์ทางปากและทางทวารหนัก เพื่อช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และลดความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเสพสารเสพติดก่อนมีเพศสัมพันธ์เพราะอาจทำให้ขาดสติ จนลืมสวมถุงยางอนามัย ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์และเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
- หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้อื่น เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว และเซ็กส์ทอย
- ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสที่อาจนำไปสู่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น วัคซีนเอชพีวี (HPV) วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอและไวรัสตับอักเสบบี
- ควรตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์