เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ส่งผลให้เกิดตุ่มสีขาวบริเวณอวัยวะเพศ ช่องคลอด ถุงอัณฑะ องคชาต ทวารหนัก บางคนอาจมีอาการคัน เลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์
เริมที่อวัยวะเพศ
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเริม HSV-1 และ HSV-2 จากการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทางปาก หรือการสัมผัสผิวหนังของผู้ติดเชื้อ โดยอาการของเริมอาจเกิดขึ้นหลังจากร่างกายได้รับเชื้อประมาณ 2-12 วัน สามารถสังเกตได้จากอาการคันบริเวณที่ติดเชื้อ มีตุ่มขึ้น แผลพุพอง บริเวณอวัยวะเพศ
หลังได้รับเชื้อเอชไอวีประมาณ 14-28 วัน จะเริ่มมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ไอ ท้องเสีย น้ำหนักลด มีไข้ เหงื่อออกตอนกลางคืน เจ็บคอ หากปล่อยไว้เป็นเวลานานโดยไม่เข้ารับการตรวจคัดกรองหรือการรักษา อาจทำให้พัฒนาเข้าสู่ระยะเอดส์ หรือที่มักเรียกว่า โรคเอดส์ หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคปอดบวม วัณโรค เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคทอกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่อาจส่งผลให้ถึงแก่ชีวิต
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
มีสาเหตุมาจากร่างกายได้รับเชื้อแบคทีเรียผ่านการมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจผ่านการใช้ห้องน้ำสาธารณะ ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะและเพิ่มจำนวนจนนำไปสู่การติดเชื้อ บางคนอาจมีอาการปัสสาวะไม่ออก หรือปัสสาวะได้ในปริมาณที่น้อยกว่าปกติ รู้สึกแสบร้อนอวัยวะเพศขณะปัสสาวะ ปัสสาวะมีกลิ่นหรือมีเลือดปน
ภาวะท้องไม่พร้อม
สำหรับคู่รักที่ยังไม่พร้อมสร้างครอบครัว หากมีเซ็กส์โดยไม่ป้องกันและหลั่งใน อาจส่งผลให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่และกลายเป็นตัวอ่อนฝังตัวที่ผนังมดลูกและนำไปสู่การตั้งครรภ์ หากสังเกตว่าประจำเดือนไม่มาเกิน 2 เดือน มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อารมณ์แปรปรวน ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะเวลากลางคืน ควรใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์หรือเข้ารับการตรวจการตั้งครรภ์จากคุณหมอทันที
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย