กากชา เป็นส่วนที่เหลือจากการต้มน้ำชาเพื่อใช้ดื่ม ซึ่งบางคนอาจทิ้งไปเพราะไม่รู้ถึงประโยชน์ของกากชา อย่างไรก็ตาม กากชาอาจนำมาใช้ให้เพื่อช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวสวย ทั้งยังทำให้ผิวดูสุขภาพดีน่าสัมผัส เนื่องจากสารคาเฟอีนที่อยู่ในกากชาอาจมีฤทธิ์ช่วยลดการบวมของหลอดเลือดที่อยู่ใต้ผิวหนังได้ นอกจากนี้ สารแทนนินที่อยู่ในชาก็สามารถช่วยลดอาการบวมได้ด้วยเช่นกัน
[embed-health-tool-bmi]
กากชา มีประโยชน์ต่อผิวอย่างไร
อาจช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาและลดอาการตาบวม
รอยคล้ำใต้ดวงตาเกิดจากการที่หลอดเลือดดำบริเวณใต้ดวงตาขยายใหญ่ขึ้น จนทำให้มองเห็นเป็นรอยคล้ำสีดำได้ง่ายขึ้น การประคบถุงชาไว้ที่บริเวณดวงตาอาจช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาและอาการตาบวมได้ เนื่องจากสารคาเฟอีนที่อยู่ในกากชาอาจมีฤทธิ์ช่วยลดการบวมของหลอดเลือดที่อยู่ใต้ผิวหนังได้ นอกจากนี้ สารแทนนินที่อยู่ในชายังอาจช่วยลดอาการบวมได้ด้วยเช่นกัน จึงทำให้ดวงตามีรอยคล้ำลดลง และดวงตามีอาการบวมน้อยลงได้
อาจช่วยลดอาการแสบร้อนจากแดดเผา
แสงแดดที่รุนแรงของประเทศไทย มักแผดเผาและทำร้ายผิวอยู่เสมอ ทำให้ผิวเกิดอาการแสบร้อนและมีจุดด่างดำ โดยสารแทนนินที่อยู่ในใบชาอาจช่วยจัดการปัญหาอาการแสบร้อนจากผิวไหม้ และอาการจุดด่างดำเหล่านี้ได้ เพียงแค่ใช้กากชาทำการประคบในบริเวณที่โดยแดดเผาประมาณ 30 นาที
อาจช่วยใช้เป็นโทนเนอร์ทำความสะอาดใบหน้า
กากชาเหลือ ๆ อาจนำมาใช้เป็นโทนเนอร์ได้ เพียงแค่เช็ดหน้าด้วยถุงชา จากนั้นเช็ดหน้าให้สะอาดอีกครั้งด้วยผ้าขนหนูสะอาด ซึ่งกากชาอาจจมีคุณสมบัติในการช่วยกระชับรูขุมขน ทั้งยังอาจช่วยดูดซับความมันบนใบหน้า ช่วยชะล้างสิ่งสกปรก และอาจทำให้ใบหน้าสะอาดมากยิ่งขึ้น
อาจช่วยใช้เป็นสครับขัดผิว
กากชาอาจนำมาใช้ขัดผิวเพื่อผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กำจัดขี้ไคล ทำให้ผิวนุ่มขึ้น ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ เพียงแค่นำกากชาไปล้างให้สะอาดและตากให้แห้ง จากนั้นนำมาขัดผิวตามปกติ หลังจากที่ขัดผิวด้วยกากชาแล้ว ควรทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
อาจช่วยจัดการกับน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า
กากของชามะลิอุดมไปด้วยน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อผิว มีคุณสมบัติต้านเชื้อจุลินทรีย์ ทั้งยังช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินที่อยู่บนผิวได้อีกด้วย นำกากชามะลิมาทาในบริเวณที่อาจจะเกิดสิว และบริเวณผิวที่มัน อาจช่วยลดการเกิดสิว ลดความมัน และช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิวให้กลับมาเป็นปกติอีกด้วย
อาจช่วยต่อต้านริ้วรอยก่อนวัยอันควร
สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในกากชา โดยเฉพาะชาเขียวอาจช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่กำลังเสื่อมโทรมให้กลับมาดีขึ้น โดยการปกป้องและซ่อมแซมเซลล์ผิวเหล่านี้ นอกจากนี้ วิตามินบี 12 ที่พบในชาเขียวยังสามารถช่วยให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย โดยการรักษาระดับของคอลลาเจนที่อยู่ในผิว ทำให้ผิวเต่งตึงและกระชับ ไม่เกิดริ้วรอยได้ง่าย
สูตรมาส์กพอกหน้าจาก กากชา
สูตรมาส์กหน้าชาเขียว
ส่วนผสม
- ชาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า
- ถ้วยผสม
- ช้อนตวง
- ผ้าขนหนูสะอาด
วิธีทำ
- ต้มชาเขียว 1 แก้ว โดยแช่ถุงชาทิ้งไว้นานอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นก็แกะถุงชาแล้วแยกระหว่างน้ำชากับกากชา
- ผสมกากชาลงในถ้วยผสม ใส่ผงฟู น้ำผึ้ง และผสมให้เข้ากัน หากข้นเกินไปอาจใส่น้ำเล็กน้อย
- ล้างหน้าให้สะอาด ทาส่วนผสมของมาส์กหน้าให้ทั่วใบหน้า นวดเบา ๆ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และทำความสะอาดรูขุมขน
- มาส์กหน้าทิ้วไว้นานประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น
- เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรมาส์กหน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
สูตรมาส์กหน้าชาดำและน้ำผึ้ง
ส่วนผสม
- ชาดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 1 แก้ว
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ต้มชาดำในแก้ว ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วเทน้ำชาทิ้ง
- คั้นน้ำออกจากกากชาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ใส่กากชาลงในภาชนะที่มีฝาปิด
- ใส่น้ำผึ้งและน้ำมะนาวลงไป ปิดฝา เขย่าผสมให้เข้ากัน
- มาส์กหน้าทิ้งไว้นานประมาณ 5-10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ข้อควรระวังในการใช้ กากชา
การใช้กากชา มีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ค่อนข้างน้อย คนส่วนใหญ่มักไม่เกิดผลข้างเคียงใด ๆ จากการใช้กากชาทาลงบนผิวหนังและใบหน้า แต่ในบางครั้งการใช้กากชาก็อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงสำหรับบางคนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้ในปริมาณมาก หรือใช้เป็นเวลานานจนเกินไป
ผลข้างเคียงส่วนหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้กากชามาจากคาเฟอีน เมื่อร่างกายได้รับคาเฟอีนในปริมาณมาก อาจจะทำให้เกิดอาการปวดหัว นอนไม่หลับ อาเจียน ท้องเสีย หัวใจเต้นผิดปกติ หูอื้อ วิงเวียน และสับสนได้ นอกจากนี้ ควรทำการทดสอบอาการแพ้ก่อนที่จะใช้กากชาทาลงบนใบหน้า อาการแพ้กากชาที่อาจเกิดขึ้น เช่น ผื่นแดง อาการคัน บวม แสบร้อน ดังนั้น หากมีอาการแพ้จากการใช้กากชาควรหยุดใช้และรีบไปหาคุณหมอเพื่อทำการรักษา