backup og meta

มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน ควรเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับผิว

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงภัทรีวัลย์ โรจนพันธุ์ · โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลวิภาวดี



เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 30/03/2023

    มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน ควรเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับผิว

    การเลือก มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน เพื่อช่วยดูแลผิวสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่ขาดน้ำ เช่น กรดไฮยาลูรอนิค ไนอะซินาไมด์ และควรหลีกเลี่ยงสารบางชนิดที่อาจระคายเคืองผิวที่แพ้และระคายเคืองได้ง่าย เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน นอกจากนี้ ผู้ที่มีผิวมันอาจเกิดสิวได้ง่าย จึงควรดูแลผิวอย่างถูกวิธี เช่น ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า หลบแดด ทาครีมกันแดด ล้างหน้าทุกครั้งก่อนเข้านอน เพื่อป้องกันปัญหาผิวและช่วยให้ผิวหน้าดูสุขภาพดี

    ผิวมัน สังเกตได้อย่างไร

    ผิวมัน (Oily skin) เป็นสภาพผิวที่เกิดจากต่อมน้ำมันใต้ชั้นผิวหนังผลิตซีบัม (Sebum) หรือน้ำมันเคลือบผิวออกมามากเกินไป ทำให้ผิวหนังเป็นมันวาวหรือมันเร็วในระหว่างวัน มีรูขุมขนกว้างและเห็นรูขุมขนได้อย่างชัดเจน จนทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนหรือหยาบกว่าปกติ นอกจากนี้ ผู้ที่มีผิวมันยังเสี่ยงเกิดสิวได้ง่ายกว่าผู้ที่มีสภาพผิวแบบอื่น เนื่องจากอาจมีสิ่งต่าง ๆ เช่น เซลล์ผิวที่ตายแล้ว แบคทีเรีย สิ่งสกปรก ไปอุดตันรูขุมขนจนเกิดการอักเสบ

    มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน แบบไหนถึงเหมาะ

    มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมัน ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมัน (Oil-free) และควรมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ (Water base) มีเนื้อบางเบา ซึบซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการอุดตันรูขุมขนที่อาจทำให้ผิวมันมากกว่าเดิมและเกิดสิวได้ และอาจเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน ที่มีส่วนประกอบต่อไปนี้ เพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวโดยไม่ทำให้ผิวมันมากเกินไป

  • กรดไฮยาลูรอนิค หรือไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ช่วยชะลอการผลิตซีบัม ช่วยปรับสมดุลของผิวไม่ให้แห้งกร้านหรือมันจนเกินไป ทั้งยังกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินมากขึ้น จึงอาจช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบ ยืดหยุ่น และดูสุขภาพดี
  • ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เป็นวิตามินบี 3 รูปแบบหนึ่งที่ใช้เป็นสารบำรุงผิว มีคุณสมบัติช่วยดูดซับความมันบนผิว กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวซึ่งทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันผิวเสียหายจากปัจจัยภายนอก เช่น ฝุ่นควัน แสงแดด มลภาวะ ชะลอการเสื่อมสภาพของผิว ลดการเกิดรอยสิวและรูขุมขนกว้าง นอกจากนี้ยังช่วยปลอบประโลมผิว จึงอาจช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้
  • การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับคนผิวมัน ควรใช้วันละ 2-3 ครั้ง หลังจากอาบน้ำและซับผิวให้ยังหมาด ๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผิวหนังยังมีความชื้นอยู่ อาจทำให้เนื้อมอยเจอร์ไรเซอร์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน อาจไม่ได้เห็นผลทันที และอาจต้องใช้เป็นประจำสักระยะหนึ่ง โดยทั่วไปคือประมาณ 4-8 สัปดาห์ จึงจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิว

    มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน ที่ควรหลีกเลี่ยง

    ผู้ที่มีสภาพผิวมันและเป็นสิวได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน ที่มีส่วนประกอบต่อไปนี้

    • น้ำมัน ขี้ผึ้ง ปิโตรเลียมเจลลี (Petroleum jelly) เนื่องจากมีเนื้อเข้มข้นและหนัก ซึ่งอาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้
    • น้ำหอม อาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือทำให้ผู้ที่แพ้น้ำหอมเกิดอาการแพ้ เช่น ผื่นแดง คันผิวหนัง ผิวลอก
    • เมทิลพาราเบน (Methyl paraben) เป็นสารกันเสียในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อาจทำให้รูขุมขนระคายเคืองหรือเกิดอาการแพ้ เช่น ผิวหนังบวมแดง คันผิวหนัง ผิวแห้งลอก
    • กรดเรทิโนอิก (Retinoic acid) อาจระคายเคืองผิวอย่างรุนแรง จนทำให้ผิวหนังเปลี่ยนสี ผิวแห้งลอก บวมแดง เป็นต้น
    • กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) เป็นกรดที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ แต่ก็อาจทำให้ผิวมัน เป็นสิว และแพ้ง่ายเกิดการระคายเคืองได้

    วิธีดูแลตัวเองสำหรับคนผิวมัน

    วิธีดูแลตัวเองสำหรับคนผิวมัน อาจทำได้ดังนี้

  • ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและเย็นด้วยโฟมล้างหน้าหรือเจลล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้ผิวอุดตันหรือระคายเคือง และควรล้างหน้าทุกครั้งหลังการออกกำลังกาย สัมผัสสิ่งสกปรก หรือเหงื่อออกมาก
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหรือเครื่องสำอางที่มีน้ำมันหรือแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ
  • ควรเช็ดเครื่องสำอางหรือครีมกันแดดให้หมด แล้วล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งก่อนนอน เพื่อไม่ให้รูขุมขนอุดตันจนเกิดสิว
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าเพราะอาจมีเชื้อโรค เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ติดจากมือไปยังใบหน้าได้
  • ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป ควรเลือกที่ระบุว่าสเปกตรัมกว้าง (Broad Spectrum) หรือที่ป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี และอาจเลือกครีมกันแดดที่มีซิงค์ออกไซด์ (Zinc oxide) ไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium dioxide) ที่อาจช่วยป้องกันการเกิดสิวได้ ทั้งนี้ ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 15 นาที เพื่อให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่และสามารถกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงภัทรีวัลย์ โรจนพันธุ์

    โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลวิภาวดี



    เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 30/03/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา