backup og meta

สารระคายเคืองผิวหนัง ที่พบมากที่สุด

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี · แก้ไขล่าสุด 21/03/2022

    สารระคายเคืองผิวหนัง ที่พบมากที่สุด

    สารระคายเคืองผิวหนัง ที่พบมากที่สุด อาจอยู่ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น สบู่ ครีมทาหน้า ครีมกันแดด ยาสระผม ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ คัน สิว รอยแดง ดังนั้น การรู้เกี่ยวกับสารระคาบเคืองผิว รวมถึงใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ภายในบ้าน อาจช่วยให้หลีกเลี่ยงสารระคายเคืองที่ส่งผลต่อผิวได้

    สารระคายเคืองผิวหนัง ที่พบมากที่สุด

    ผิวหนังที่มีความไวต่อการระคายเคือง อาจทำให้เกิดอาการคัน ผื่นคัน รอยแดง และอาการบวมได้ทันทีหลังจากสัมผัสสารเคมี สารทำความสะอาด โลชั่น หรือครีมบางชนิด การศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อผิวหนังอาจช่วยให้คุณป้องกันปัญหาที่เกี่ยวกับอาจเกิดกับผิวหนังได้ก่อนที่อาการจะรุนแรงขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ที่อาจพบสารระคายเคืองผิวได้มากที่สุดอาจได้แก่

    1. สบู่

    สบู่อาจมีส่วนประกอบของสารฟอมัลดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่งที่อาจทำให้ผิวหนัง ดวงตา และปอด เกิดการระคายเคืองได้ นอกจากนี้ สบู่ยังอาจทำให้เกิดผิวหนังอักเสบ (Eczema) ได้ด้วย การทำความสะอาดผิวหนังด้วยสบู่มากเกินไป อาจทำให้ผิวหนังแห้งและแตกซึ่งหากไม่รักษาภาวะดังที่เกิดขึ้นทันทีอาจทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ที่รุนแรงมากขึ้น เช่น มีเลือดออก ให้ลองใช้คลีนเซอร์ทำความสะอาดผิวที่มีฤทธิ์ไม่รุนแรง ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและสารเคมีต่าง ๆ หรือมีเพียงเล็กน้อย ในการทำความสะอาดผิวบริเวณที่แห้งและแตกอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้อาการดีขึ้นได้

    2. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

    ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่าง ๆ เช่น น้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์ น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักแห้ง น้ำยาฆ่าเชื้อโรคในห้องน้ำ น้ำยาทำความสะอาดกระจก หรือน้ำยาขัดเฟอร์นิเจอร์ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังได้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนประกอบของสีและน้ำหอมดีต่อผิวที่ระคายเคืองง่าย ดังนั้น ลองใช้น้ำกับน้ำส้มสายชูและเบคกิ้งโซดา ซึ่งเป็นสารทำความสะอาดตามธรรมชาติ แต่ควรสวมใส่ถุงมือก่อนทำความสะอาด และล้างอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยน้ำสะอาดให้หมดจดหลังจากใช้สารเคมี

    3. ความร้อน

    ความร้อนอาจส่งผลต่อผิวหนังได้เช่นกัน เช่น อากาศร้อน อาจทำให้ร่างกายจะเหงื่อออกมากขึ้น ดังนั้น ปัญหาผิวหนังที่สัมพันธ์กับเหงื่อ เช่น รอยแดง ผื่น อาการคัน อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย เพื่อให้ระบายอากาศได้ดี และไม่ทำให้เหงื่อหมักหมม นอกจากนี้ ควรอาบน้ำทันทีหลังจากทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออก เช่น ออกกำลังกาย

    4. อาหาร

    อาหารอาจทำให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังได้ ซึ่งอาการต่าง ๆ อาจมีได้ตั้งแต่ลมพิษไปจนถึงผื่นคัน หากมีบาดแผลที่มือ ให้พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสส่วนผสมที่เผ็ดร้อนและเป็นกรด ในบางกรณี ผิวหนังที่เปื้อนน้ำมะนาวเมื่อเจอกับแสงแดดอาจทำให้เกิดอาการแสบอย่างรุนแรงได้

    5. ครีมทาหน้า

    ควรระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ครีมหรือสารอะไรก็ตามที่ทาลงบนผิวหน้า ควรหลีกเลี่ยงครีม โลชั่น และคลีนเซอร์ทำความสะอาดผิวที่มีส่วนผสมของกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) สารกันเสียพาราเบน (Paraban Preservatives) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) กรดมาลิก (Malic Acid) และกรดแลคติก (Lactic Acid) ดังนั้น หากมีรอยแดง รอยไหม้ อาการคัน หรือผื่นคัน ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อวินิจฉัยว่า ตัวเองมีความผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังหรือไม่

    6. ครีมกันแดด

    แม้ครีมกันแดดอาจช่วยป้องกันผิวหนังจากความเสียหายที่เกิดจากรังสียูวีเอและยูวีบีได้ แต่ครีมกันแดดประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิด เช่น กรดพาราอะมิโนเบนโซอิก (Para-Aminobenzoic Acid หรือ PABA) ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบได้มากที่สุด อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของกรดพาราอะมิโนเบนโซอิก ควรทาครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) ที่มีค่า SPF 30 หรือมากกว่า และสังเกตฉลากที่ระบุว่าเป็น Broad Spectrum สำหรับในเด็กนั้นควรปรึกษาคุณหมอก่อนให้เด็กใช้ครีมกันแดด

    7. ยาง

    ส่วนผสมที่เป็นยางอาจพบได้ในถุงยางอนามัย ถุงมือยาง สายรัดเอว หรือสายเสื้อชั้นใน ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังในผู้ที่มีอาการแพ้วัสดุที่ทำจากยาง

    8. กระดาษทิชชู่เปียก

    กระดาษทิชชู่เปียกเป็นกระดาษแบบใช้แล้วทิ้ง ใช้สำหรับทำความสะอาดผิว กระดาษทิชชู่เปียกอาจมีส่วนประกอบเป็นแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือวัตถุกันเสีย ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังหรือโรคผิวหนังได้ การใช้ผ้าชุบน้ำเพื่อเช็ดทำความสะอาดผิวอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ผ้าที่นำมาใช้เช็ดทำความสะอาดควรซักให้สะอาดและตากให้แห้งสนิทก่อนนำมาใช้ครั้งต่อไป นอกจากนี้ การรีดยังอาจช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้

    9. ยาสระผม

    ยาสระผมที่มีส่วนประกอบของสารพาทาเลต (Phthalates) สารฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) และสารไดอ็อกเซน 1,4 (1,4 Dioxane) อาจทำให้เกิดภาวะเกี่ยวกับสุขภาพบางประการได้ ดังนั้น ควรดูฉลากและเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบเป็นสารจากธรรมชาติ รวมทั้งหลีกเลี่ยงส่วนประกอบที่เป็นน้ำหอมและสารเคมีต่าง ๆ

    10. น้ำยาปรับผ้านุ่ม

    น้ำยาปรับผ้านุ่มมีส่วนประกอบเป็นสารเคมีและสารให้ความหอมต่าง ๆ เช่น เบนซิล อะซิเตท (Benzyl Acetate) ซึ่งสารเบนซิล อะซิเตท อาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ดวงตา คอ หรือจมูก ดังนั้น หากมีผิวหนังแพ้ง่าย ควรระมัดระวังในการใช้หรือสัมผัส

    11. สเปรย์ไล่แมลง

    ในบางครั้ง สเปรย์ไล่แมลงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย นาอกจากนี้ การใช้สเปรย์ไล่แมลงร่วมกับครีมกันแดดอาจทำให้ผิวหนังดูดซึมสารเคมีต่าง ๆ ได้มากกว่าปกติ จึงทำให้เกิดความระคายเคืองได้ง่ายกว่า

    12. นิกเกิล

    นิกเกิลเป็นวัสดุที่ใช้ทำเครื่องประดับ สายนาฬิกาข้อมือ และซิป หากแพ้นิกเกิลยังส่งผลทำให้แพ้อาหารเสริมและวัสดุปลูกถ่ายต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบของนิกเกิลได้ด้วยเช่นกัน

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี · แก้ไขล่าสุด 21/03/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา