สิวเป็นหนึ่งในปัญหาทางด้านผิวหนัง สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ผู้ที่เป็นสิวบ่อย ๆ หรือเป็น ๆ หาย ๆ อาจสงสัยว่า สิวเกิดจากอะไร การรู้สาเหตุของการเกิดสิว และประเภทของสิว อาจช่วยให้ดูแลรักษาได้อย่างถูกวิธี
[embed-health-tool-ovulation]
สิวเกิดจากอะไร
ยังไม่ทราบถึงปัจจัยที่แน่ชัดว่า สิวเกิดจากอะไร แต่อาจเกิดจากการอุดตันของระบบต่อมไขมันในรูขุมขน ซึ่งได้รับการกระตุ้นจากฮอร์โมนเพศโดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชาย หากร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายจากต่อมหมวกไตมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายหลั่งไขมันมากผิดปกติ และไปกระตุ้นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังจนก่อให้เกิดสิวได้ โดยบริเวณที่มักพบสิว ได้แก่ ใบหน้า ลำคอ หน้าอก ไหล่ หลัง
สาเหตุของการเกิดสิว
การเกิดสิวอาจเกิดจากหลายสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
- กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีพ่อ แม่ หรือญาติเป็นสิว อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวได้มากกว่าปกติ
- ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น วัยเจริญพันธ์ุ มีประจำเดือนตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน อาจทำให้ระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน เทสโทสเทอโรน เอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้นไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามาก ซึ่งอาจทำให้เกิดสิว
- รับประทานอาหารที่มีแป้ง ไขมัน และน้ำตาลสูงเป็นประจำ รวมถึงของทอด ของมัน ผลิตภัณฑ์จากนม ช็อกโกแลต ซึ่งอาหารเหล่านี้อาจไปกระตุ้นการเกิดสิวในบางคน
- มลพิษทางอากาศ เช่น ฝุ่น ควันรถ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว ส่งผลให้เกิดสิว และอาจเพิ่มความเสี่ยงผิวแพ้ง่าย
- ไม่ล้างเครื่องสำอางออกก่อนนอน สิ่งสกปรก แบคทีเรีย รวมถึงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน หรือมีความมันมาก อาจทำให้รูขุมขนอุดตัน และเป็นสิวได้
- ความเครียด เนื่องจากฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดอาจไปกระตุ้นการผลิตไขมันให้เพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้เกิดสิว
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น กลุ่มยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ ลิเทียม
- การเสียดสี เช่น การสวมหมวกกันน็อคที่หลวมหรือแน่นเกินไป อาจทำให้เกิดการเสียดสีที่ผิวหนังแล้วเกิดการอักเสบก่อให้เกิดการเป็นสิวได้
ประเภทของสิว
สิวอาจแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ เช่น
- สิวหัวขาว
- สิวหัวดำ
- สิวตุ่มนูนแดง
- สิวหัวหนอง
- สิวหัวช้าง
ระดับความรุนแรงของสิว
ระดับความรุนแรงของสิวอาจแบ่งออกได้ ดังนี้
- ระดับที่ 1 สิวไม่รุนแรง ส่วนใหญ่เป็นสิวหัวขาวและสิวหัวดำ
- ระดับที่ 2 สิวปานกลาง อาจเป็นสิวอักเสบ มีตุ่มหนองเล็กน้อยบริเวณใบหน้าไม่มากนัก
- ระดับที่ 3 สิวรุนแรง อาจเป็นสิวอักเสบ มีตุ่มหนองจำนวนมาก เมื่อหายก็อาจกลับมาเป็นซ้ำอย่างต่อเนื่อง
การรักษาสิว
การรักษาสิวนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรง อายุและประเภทของสิวที่เป็น โดยวิธีการรักษาอาจมีดังนี้
ยารับประทาน
- ยาคุมกำเนิด เนื่องจากสิวอาจเกิดจากประจำเดือน ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน การรับประทานยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจนเตอโรนเป็นส่วนประกอบอาจช่วยลดสิวได้ ในผู้ป่วยที่เป็นสิวจากฮอร์โมนผิดปกติ
- ยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อ เช่น ด็อกซีไซคลีน (Doxycycline) มักใช้ในกรณีสิวปานกลางถึงรุนแรง
ยาทาอาจเป็นครีมหรือเจลสำหรับแต้มสิว
- กรดซาลิไซลิก อาจช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตัน
- เรตินอยด์ อาจช่วยหยุดการเกิดสิวใหม่ กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดรอยดำ แต่อาจมีผลข้างเคียง เช่น ระคายเคือง
- คลินดาไมซิน (Clindamycin) อาจช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ใช้สำหรับสิวอักเสบ ควรทาอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
รวมถึงอาจรักษาด้วยเลเซอร์ โดยใช้รังสีพลังงานสูงที่อาจช่วยลดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวที่อาศัยอยู่ที่ต่อมไขมัน การฉีดสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบ การผลัดเซลล์ผิวหนัง ทั้งนี้ ควรอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญหรือคุณหมอ
การป้องกันการเกิดสิว
เคล็ดลับที่อาจช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสิว เช่น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า เพราะมืออาจมีสิ่งสกปรก เชื้อโรค เชื้อแบคมีเรียที่อาจก่อให้เกิดสิวได้
- ล้างหน้า อาบน้ำ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยสบู่อ่อน ๆ รวมถึงควรสระผมเป็นประจำ เพื่อลดความมันบนหนังศีรษะ
- อาบน้ำหลังจากออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดเหงื่อทันที เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
- ล้างเครื่องสำอางออกทุกครั้งหากแต่งหน้า เพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขน
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมัน
- หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้ารัดรูป เพื่อลดการอักเสบและระคายเคืองของผิวหนัง