หมัดแมว เป็นปรสิตที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของแมว กินเลือดของแมวและคนเป็นอาหาร อาจเป็นอันตรายต่อทั้งแมวและคนเลี้ยงหรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดได้ นอกจากแมวแล้ว สัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ เช่น สุนัข ก็สามารถมีหมัดได้เช่นกัน หากคนโดนหมัดกัด อาจทำให้เกิดอาการแพ้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ จึงควรดูแลสุขอนามัยและสุขภาพของสัตว์เลี้ยงและรักษาความสะอาดภายในบ้านอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งที่อยู่ของหมัดแมว
หากถูกหมัดกัดคุณหมอหรือเภสัชกรอาจแนะนำให้รักษาด้วยรับประทานยาแก้แพ้ การทายาสเตียรอยด์ เป็นต้น อาการแพ้หรืออาการคันจากการถูกหมัดแมวกัดมักหายได้เองในเวลาไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม หากรักษาเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแพ้รุนแรง ควรรีบไปพบคุณหมอทันที
[embed-health-tool-bmi]
หมัดแมว ลักษณะ เป็นอย่างไร
หมัดแมว (Cat Flea หรือ Ctenocephalides) เป็นปรสิตขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ลำตัวแบน มีสีน้ำตาลแดงเข้ม ไม่มีปีก แต่มีขาที่แข็งแรงทำให้สามารถกระโดดได้ไกล และเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อโตเต็มวัยจะมีความยาวตั้งแต่ 1-2 มิลลิเมตร อาศัยอยู่บนผิวหนังของแมว แต่ก็สามารถพบบนผิวหนังสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ เช่น สุนัข ได้เช่นกัน หมัดดำรงชีพด้วยการดูดเลือดจากสัตว์ พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงแบบระบบเปิด
แม้ว่าหมัดแมวจะไม่สามารถอาศัยอยู่บนผิวหนังของคนได้ แต่หมัดก็อาจกัดผิวหนังเพื่อดูดเลือดคน ซึ่งน้ำลายของหมัดแมวอาจทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองผิวได้ หากโดนหมัดแมวกัด ไม่ควรเกาบริเวณที่หมัดแมวกัด เนื่องจากอาจทำให้เป็นแผลเปิด ส่งผลให้แบคทีเรียเข้าสู่ผิวหนังและทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียด้วย นอกจากนี้ หมัดยังเป็นตัวนำโรคจากสัตว์สู่คนได้ เช่น โรคแมวข่วน (Cat scratch disease หรือ CSD) โรคไข้รากสาดใหญ่จากหมัด (Flea-borne typhus)
หมัดแมวกัดคน อาการ เป็นอย่างไร
อาการเมื่อหมัดแมวกัดคน อาจมีดังนี้
- เกิดเป็นตุ่มแดงขนาดเล็กบริเวณผิวหนังที่ถูกหมัดแมวกัด อาจมี 3-4 ตุ่มในบริเวณใกล้เคียงกัน
- เกิดแผลสะเก็ดขนาดเล็กที่มีขอบสีแดง
- มีอาการคันรุนแรง
- รู้สึกระคายเคืองและเจ็บบริเวณที่ถูกกัด
- สำหรับผู้มีอาการแพ้ อาจเกิดเป็นลมพิษหรือผื่นขึ้นได้ โดยมักเกิดในเด็กเล็กและผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ
หมัดแมว กำจัด ได้อย่างไร
วิธีป้องกันและกำจัดหมัดแมวภายในบ้าน อาจมีดังนี้
- หยอดยาป้องกันหมัดให้กับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ หากสัตว์เลี้ยงมีหมัดแมวบนตัวแล้ว อาจกำจัดด้วยการใช้แชมพู สเปรย์ หรือยาหยอดที่ใช้กำจัดเห็บหมัดโดยเฉพาะ ควรเลือกใช้อย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง
- รักษาความสะอาดของสัตว์เลี้ยง และหมั่นสังเกตอาการความผิดปกติที่อาจเกิดจากหมัดแมว เช่น อาการคัน หากพบว่าสัตว์เลี้ยงมีหมัดแมว ควรพาไปรักษาทันที
- หลีกเลี่ยงการบี้หมัดแมวด้วยมือ เพราะอาจทำให้มีเชื้อโรคติดที่นิ้วหรือซอกเล็บได้ หากต้องการนำหมัดออกจากผิวหนังสัตว์เลี้ยงด้วยตัวเอง ควรสวมถุงมือยางแล้วใช้แหนบหรือคีมสำหรับคีบหมัด และนำหมัดไปทิ้งในน้ำที่ผสมน้ำยาล้างจาน จากนั้นล้างมือให้สะอาดแล้วเช็ดมือให้แห้ง
- ทำความสะอาดที่นอนสัตว์และสิ่งของโดยรอบอย่างทั่วถึงด้วยเครื่องดูดฝุ่น
- ใช้สเปรย์ฉีดกำจัดแมลงภายในบ้าน โดยสวมถุงมือและชุดป้องกันแขนยาวตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด
- ทำความสะอาดพื้นที่กลางแจ้งที่สัตว์เลี้ยงใช้ด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ใช้ฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งที่อยู่หรือแหล่งฟักตัวของหมัดแมว
- ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบริเวณบ้านทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากหมัดแมวสามารถอยู่รอดได้หลายวัน
หมัดแมว รักษายังไง
วิธีบรรเทาอาการเมื่อโดนหมัดแมวกัด อาจมีดังนี้
- ล้างบริเวณรอยกัดด้วยสบู่และน้ำอุ่นเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
- รับประทานยาแก้แพ้ (Antihistamine) และยาสเตียรอยด์ เช่น ยาไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) เพื่อบรรเทาอาการแพ้และระคายเคืองผิวเมื่อถูกหมัดแมวกัด
- ทายาต้านเชื้อแบคทีเรีย (anti-bacterials) บริเวณรอยกัดเพื่อบรรเทาอาการ
- หลีกควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน เพราะอาจทำให้ยิ่งคัน
- ประคบเย็นด้วยผ้าบางห่อน้ำแข็งเป็นเวลาประมาณ 10 นาที เพื่อลดอาการบวมและคัน
เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ
หากถูกหมัดแมวกัดแล้วมีอาการต่อไปนี้ แสดงว่าอาจมีอาการแพ้หมัดแมวอย่างรุนแรง ควรไปพบคุณหมอโดยทันที
- หายใจลำบาก
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ใบหน้าหรือริมฝีปากบวม
- ปวดบริเวณที่ถูกกัดอย่างรุนแรง หรือมีผื่นแดงลุกลามจำนวนมาก