ยาแก้ท้องเสีย เป็นยาที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปได้อย่างง่ายๆ แต่ความจริงแล้ว เมื่อเราเกิดมีอาการท้องเสีย เราควรใช้ยาชนิดนี้หรือเปล่า? หรือใช้แล้วจะมีผลข้างเคียงหรือไม่? เพื่อการดูแลตัวเอง เมื่อมีอาการท้องเสียในเบื้องต้น Hello คุณหมอ มีคำตอบสำหรับการเลือกซื้อยาแก้ท้องเสีย สำหรับทุกคนมาฝากกันค่ะ
ยาแก้ท้องเสีย ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา
คุณสามารถซื้อยาแก้ท้องเสียตามร้านขายยาทั่วไปได้ โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ ซึ่งยาบางชนิดช่วยให้รู้สึกดีขึ้น ฉะนั้น ถ้าใครมีอาการท้องเสีย ยาพวกนี้ก็สามารถช่วยให้อาการท้องเสียของคุณดีขึ้นได้
- โลเพอราไมด์ (Loperamide)
- บิสมัท ซับซาลิไซเลต (Bismuth Subsalicylate)
นอกจากนี้ยาบิสมัท ซับซาลิไซเลต ยังสามารถใช้เยียวยาอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ด้วย
ยาแก้ท้องเสีย ทำงานอย่างไร
ยาโลเพอราไมด์ จะทำให้สิ่งต่างๆ ในลำไส้เคลื่อนไหวได้ช้าลง ทำให้ร่างกายดูดซึมส่วนที่เป็นน้ำหรือของเหลวได้มากกว่าเดิม จึงช่วยให้อาการท้องเสียดีขึ้น เนื่องจากอุจจาระจะเป็นรูปเป็นทรงเพิ่มมากขึ้น ไม่ได้เหลวเป็นน้ำเหมือนที่ผ่านมา
ส่วนยาบิสมัท ซับซาลิไซเลต จะทำให้ของเหลวที่ไหลผ่านลำไส้เป็นไปอย่างสมดุล นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบด้วย โดยควบคุมเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส อันเป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย ไม่ให้มีการเจริญเติบโตในกระเพาะอาหารและลำไส้
จะกิน ยาแก้ท้องเสีย ให้ปลอดภัยได้อย่างไร
ก่อนที่คุณจะกินยาแก้ท้องเสีย ควรอ่านคำแนะนำการใช้ยาบนฉลากให้ดีก่อน ซึ่งจะมีคำแนะนำกำกับไว้ว่าควรกินในปริมาณเท่าใด และควรกินบ่อยแค่ไหน ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ ก็ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวหรือเภสัชกร และควรจะจดชื่อยาเอาไว้ด้วย เผื่อในกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้น จะได้นำไปประกอบข้อมูลให้แก่คุณหมอ เพื่อประกอบในการรักษาต่อเนื่อง
คุณควรปฎิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าคุณกินยาในปริมาณที่เหมาะสม
- กินยาในปริมาณที่แนะนำบนฉลากยาเท่านั้น อย่าคิดเอาเองว่าการกินยาให้มากขึ้น แล้วจะช่วยเยียวยาอาการท้องเสียได้เร็วขึ้น การกินยาเกินขนาดอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
- ถ้าคุณกำลังกินยาอะไรก็ตามที่แพทย์สั่งให้กินอยู่ ควรถามแพทย์ด้วยว่า ถ้ากินยาแก้ท้องเสียร่วมด้วยจะมีผลข้างเคียงหรือไม่
- อย่าใช้ยาแก้ท้องเสียมากกว่า 1 ชนิดในแต่ละครั้ง ยกเว้นว่าคุณหมอจะอนุญาตให้ทำแบบนั้นได้ เนื่องจากอาจมีตัวยาคล้ายๆ กัน ซึ่งอาจทำให้คุณกินยาเกินขนาดได้โดยไม่รู้ตัว
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา
โดยปกติแล้วผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีมักจะไม่มีอาการข้างเคียงจากการใช้ยาแก้ท้องเสีย แต่อาการข้างเคียงอาจสร้างปัญหาให้คุณได้ถ้าคุณมีอายุมาก และหากมีอาการดังต่อไปนี้คุณควรจะรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด
ผลข้างเคียงของยาโลเพอราไมด์ (Loperamide) ได้แก่
- มีอาการปวดท้อง
- ท้องผูก
- เวียนหัว
- คลื่นไส้หรืออาเจียน
ผลข้างเคียงของยาบิสมัท ซับซาลิไซเลต (Bismuth Subsalicylate) ได้แก่
- ท้องผูก
- อุจจาระเป็นสีดำ
- หูอื้อ
ใครที่ไม่ควรกินยาแก้ท้องเสีย
คุณไม่ควรกินยาแก้ท้องเสีย ถ้าอาการท้องเสียของคุณมีต้นเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อปรสิต เนื่องจากร่างกายจำเป็นต้องกำจัดเชื้อโรคที่ทำให้เกิดท้องเสียพวกนั้นออกไป ฉะนั้น การยับยั้งอาการท้องเสียในกรณีนี้อาจทำให้คุณมีอาการแย่ลงได้ ดังนั้นคุณควรปรึกษาแพทย์ ถ้าคิดว่าคุณกำลังติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อปรสิต
ผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบกินยาโลเพอราไมด์ ยกเว้นแพทย์อนุญาตให้ทำอย่างนั้นได้ และสำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า2ขวบก็ควรมีการปรึกษาแพทย์ ก่อนกินยาโลเพอราไมด์ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติม คือ
- ถ้ามีอาการไข้ ไม่ควรกินยาโลเพอราไมด์
- ควรหยุดกินยาชนิดนี้ หากมีผื่นแดงหรือเกิดอาการแพ้หลังจากกินยาเข้าไป
- ไม่ควรกินยาโลเพอราไมด์ ถ้าอุจจาระเป็นสีดำ หรือมีเลือดปนออกมาด้วย เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ร้ายแรงกว่าอาการท้องเสียธรรมดา เช่น เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย
- คนที่แพ้ยาแอสไพริน หรือยาที่มีส่วนผสมของซาลิไซเลต ไม่ควรกินยาบิสมัท ซับซาลิไซเลต
- ไม่ควรให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี กินยาชนิดนี้
- ไม่ควรให้เด็กหรือวัยรุ่นที่มีอาการหวัดหรือโรคอีสุกอีใส กินยาชนิดนี้ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการแพ้หรือเกิดอาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรงที่อาจทำให้เสียชีวิตได้
ใช้ยาแก้ท้องเสียร่วมกับยาชนิดอื่นได้หรือไม่
การใช้ยาบางชนิดร่วมกับยาแก้ท้องเสีย อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยาบิสมัท ซับซาลิไซเลตอาจเกิดปฎิกิริยากับยาชนิดอื่น จะทำให้ยาแก้ท้องเสียไม่สามารถแก้อาการท้องเสียได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ฉะนั้น คุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินยาโลเพอราไมด์หรือบิสมัท ซับซาลิไซเลต ถ้าหากคุณกินยาต่อไปนี้ร่วมด้วย
- ยาปฎิชีวนะ
- ยาต้านเชื้อไวรัสสำหับคนที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (HIV)
- ยาแก้ปวดที่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์
- ยาที่ทำให้เลือดเจือจางลง
- ยารักษาโรคเกาต์
- ยารักษาข้ออักเสบ
- ยารักษาโรคเบาหวาน
คุณควรปรึกษาคุณหมอก่อนกินยาบิสมัท ซับซาลิไซเลต ถ้าคุณกินยาแก้ปวดหรือยาแก้หวัดอยู่ เนื่องจากยาพวกนี้มีส่วนผสมของแอสไพรินซึ่งก็คือซาลิไซเลต เพราะอาจทำให้เกิดอาการกินยาเกินขนาดได้
[embed-health-tool-bmr]